วันนี้ (10 ธ.ค.2568) นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่าระบบสาธารณสุขยังคงอยู่ในแผนปฏิบัติการระดับ 1 พร้อมเฝ้าระวังและรองรับสถานการณ์ที่อาจยกระดับความรุนแรง มี 19 โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ และปิดให้บริการแล้วรวม 10 แห่ง คือ
- อุบลราชธานี : รพ.น้ำยืน, รพ.นาจะหลวย, รพ.น้ำขุ่น
- ศรีสะเกษ : รพ.กันทรลักษ์, รพ.ภูสิงห์
- สุรินทร์ : รพ.กาบเชิง, รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
- บุรีรัมย์ : รพ.บ้านกรวด
- สระแก้ว : รพ.ตาพระยา, รพ.โคกสูง
นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบถึง 180 แห่ง ซึ่งต้องปิดให้บริการชั่วคราว และได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยแล้วกว่า 552 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ป่วยวิกฤติในไอซียูหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ ได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลศูนย์เพื่อให้การรักษาต่อเนื่อง
ปัจจุบันยังมีเตียงรองรับผู้ป่วยวิกฤติได้อีก 240 เตียง และเตียงสามัญสำหรับผู้ป่วยทั่วไปกว่า 4,000 เตียง ในทุกจังหวัดชายแดน ซึ่งโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่ายังเพียงพอรองรับสถานการณ์ปัจจุบัน และได้เตรียมแผนส่งต่อผู้ป่วย หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น
ระบบส่งต่อผู้ป่วยยังดำเนินการได้ตามปกติ แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นอาจได้รับผลกระทบ โดยกระทรวงฯ มีแผนรองรับ เช่น
ผู้ป่วยจาก อุบลราชธานี อาจถูกส่งต่อไปยัง อุดรธานี หรือ นครพนม ผู้ป่วยจาก สุรินทร์–บุรีรัมย์ อาจส่งต่อไปยัง ร้อยเอ็ด หรือ ขอนแก่น
ขณะที่วันนี้มีการซักซ้อมแผนรองรับสถานการณ์ยกระดับ โดยจะพิจารณาตามการประเมินจากฝ่ายความมั่นคง
ด้านศูนย์พักพิงได้เปิดกระจายอยู่ใน 7 จังหวัด รวม 849 แห่ง รองรับประชาชนอพยพแล้วกว่า 199,000 คน ในจำนวนนี้มี กลุ่มเปราะบางประมาณ 40,000 คน เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยฟอกไต และผู้ป่วยจิตเวช โดยจัดทีมแพทย์และบุคลากรดูแลเป็นพิเศษ
กระทรวงสาธารณสุขยังส่งทีมปฏิบัติการรวมกว่า 300 ทีม ลงพื้นที่ ได้แก่ ทีมแพทย์ฉุกเฉิน, ทีมควบคุมโรค, ทีมสุขภาพจิต, และทีมแพทย์เคลื่อนที่เร็ว พร้อมเฝ้าระวังโรคติดต่อในศูนย์พักพิง รวมถึงดูแลภาวะเครียดของประชาชนและบุคลากรด่านหน้า
ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตรวม 3 คน โดยพบเพิ่มอีก 2 คนวันนี้ ได้แก่
- ชายไทยอายุ 55 ปี มีโรคหัวใจ เสียชีวิตระหว่างอพยพ
- ผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เสียชีวิตที่ศูนย์อพยพในจังหวัดบุรีรัมย์
พร้อมยืนยันจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะโดยตรง
ส่วนกรณีที่มีข่าวระเบิดใกล้ โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากโรงพยาบาล และอาคารสถานที่ปลอดภัย เช่นเดียวกับ โรงพยาบาลโคกสูง จ.สระแก้ว ที่ไม่มีความเสียหายจากเหตุปะทะ โดยภาพรวม ยังไม่มีโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการสาธารณสุขได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ
นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมด้านเลือดสำรองในกรณีมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หากสถานการณ์รุนแรง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ปลอดภัยร่วมบริจาคเลือดได้ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดและโรงพยาบาลศูนย์
อ่านข่าว :
กัมพูชายิง BM-21 ตกใกล้ รพ.พนมดงรัก ย้ายผู้ป่วยหนักเข้าที่หลบภัย