ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทภ.2 ทำลายรถถัง T-55 จำนวน 6 คัน ยังยึดพื้นที่ตาควายไม่ได้ คาดทหารกัมพูชาตาย 102 นาย

การเมือง
19:04
413
ทภ.2 ทำลายรถถัง T-55 จำนวน 6 คัน ยังยึดพื้นที่ตาควายไม่ได้ คาดทหารกัมพูชาตาย 102 นาย
กองทัพภาคที่ 2 คาดทหารกัมพูชาเสียชีวิต 102 นาย ขณะฝ่ายไทยทำลายรถถัง T-55 จำนวน 6 คัน ยังยึดพื้นที่ตาควายไม่ได้ หลังฝ่ายกัมพูชาต่อต้านอย่างหนัก ยิงอาวุธสนับสนุน-บินโดรน-กับระเบิด ส่วนช่องอานม้าเข้าควบคุมพื้นที่ได้บางส่วน

วันนี้ (11 ธ.ค.2568) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ณ เวลา 17.00 น.

ตามที่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2568 กัมพูชาได้ทำการยิงใส่ชุดลาดตระเวนของทหารไทยในพื้นที่ภูผาเหล็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นเหตุให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และได้เริ่มเปิดฉากการยิงด้วยปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) เข้ามายังพื้นที่ดินแดนไทยตลอดแนวชายแดน ได้แก่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ทำให้บ้านเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตร และสถานพยาบาลในพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างมาก

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้เร่งอพยพประชาชนเข้าพื้นที่ปลอดภัย ณ ศูนย์พักพิงประจำจังหวัดที่ได้จัดเตรียมไว้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากนั้นฝ่ายเราจึงได้ ทำการยิงตอบโต้ตามกฎการใช้กำลังอย่างได้สัดส่วนไปยังพื้นที่ที่เกิดภัยคุกคาม ด้วยอาวุธวิถีตรงและวิถีโค้งต่อฝ่ายกัมพูชา เพื่อสกัดกั้น ยับยั้งและทำลายอันตรายที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ อันประกอบด้วยพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน 13 แนวรบ ดังนี้

1. ด้าน จ.อุบลราชธานี จำนวน 2 แนวรบหลัก ได้แก่
1.1 พื้นที่ช่องบก
1.2 พื้นที่ช่องอานม้า

2. ด้าน จ.ศรีสะเกษ จำนวน 5 แนวรบหลัก ได้แก่
2.1 พื้นที่ซำแต
2.2 โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า
2.3 ผามออีแดง และห้วยตามาเรีย
2.4 ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน
2.5 ช่องสะงำ

3. ด้าน จ.สุรินทร์ จำนวน 5 แนวรบหลัก
3.1 ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี
3.2 พื้นที่คนา
3.3 พื้นที่ตาควาย
3.4 พื้นที่ช่องกร่าง
3.5 พื้นที่ตาเมือนธม

4. ด้าน จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 แนวรบหลัก
- ช่องสายตะกู :

ผลการปฏิบัติที่สำคัญในวันที่ 11 ธ.ค. 68
1. ช่องอานม้า : เข้าควบคุมพื้นที่ได้บางส่วน
2. เข้าทำลายฐานปฏิบัติการข้าศึก บริเวณพื้นที่ซำแต
3. พื้นที่ช่องระยี - ช่องเปรอ : เข้ายึดพื้นที่คืนถึงเส้นปฏิบัติการ แต่ยังถูกต่อต้านเป็นระยะ
4. พื้นที่คนา : เข้ายึดแล้ว 2 ที่หมาย ปัจจุบันถูกตีโต้ตอบจากฝ่ายตรงข้าม
5. พื้นที่ตาควาย : ยิงทำลายฐานทหารรอบปราสาท และเนิน 350 แต่ยังเข้าควบคุมไม่ได้ เนื่องจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากอาวุธยิงสนับสนุน โดรน และกับระเบิดของฝ่ายกัมพูชาอย่างหนาแน่น

จากการปฏิบัติของฝ่ายเรา ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมาคาดว่า
1. ทหารกัมพูชา เสียชีวิต 102 นาย
2. ทำลายรถถัง T-55 จำนวน 6 คัน (ในพื้นที่พนมประสิทธิโส)
3. ทำลายจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) จำนวน 1 คัน
4. ทำลายระบบโดรน จำนวน 64 ลำ
5. ทำลายแอนตี้โดรน 1 ระบบ ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย

การอพยพประชาชน ปัจจุบันในพื้นที่ 31 อำเภอ 4 จังหวัดชายแดน และ 4 อำเภอ 1 จังหวัดพื้นที่ตอนใน ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 751 แห่ง รวม 222,548 คน ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี 34,104 คน จ.ศรีษะเกษ 106,691 คน จ.สุรินทร์ 74,640 คน จ.บุรีรัมย์ 6,780 คน และ จ.นครราชสีมา 333 คน

ยอดอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง จำนวน 182 จุด ประชาชน จำนวน 22,999 คน ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี จำนวน 175 คน จ.ศรีษะเกษ จำนวน 91 คน จ.สุรินทร์ จำนวน 22,112 คน และ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 621 คน

กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินการทุกมาตรการเพื่อความมั่นคงปลอดภัย และรักษาอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง

อ่านข่าว :

สถานทูตไทยประสานกัมพูชา เปิดทางคนไทยข้ามแดนผ่านด่านปอยเปต

ด่านคลองลึก-ปอยเปตตึงเครียด กัมพูชายังไม่ปล่อยให้คนไทยกลับประเทศ

เหล่าทัพระดมสกัด "โดรนพลีชีพ" ล็อกเป้าโจมตีตัดกำลังกัมพูชา