ต้นเหตุมาจาก กรรมาธิการเสียงข้างมากโดยเสียงของ สส.พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคประชาชน ตัดเนื้อหาร่างแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มาตรา 256/28 กรณีโหวตร่างรัฐธรรมนูญฉบับไม่ กำหนดเสียงโหวต “ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง” ตัดสัดสวนการโหวตที่มีเงื่อนไขต้องมีเสียง สว.1 ใน 3 หรือ 67 เสียงทิ้ง
เรื่องของเรื่องจึงเป็นที่มาให้ สว.เสนอขอแก้ ด้วยการดึงกลับมาเขียนไว้อีกครั้ง พร้อมขอเสียงสนับสนุนจาก สส.พรรคภูมิใจไทย
บทสรุป กรรมาธิการเสียงข้างน้อย โหวตชนะ 310 ต่อ 290 เสียง แต่ไม่จบ สส.พรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย เสนอญัตติ "นับใหม่" ขานชื่อ-นับคะแนน มติ "329 ต่อ 302" ชนะอีก
ถ้าย้อนกลับไปฟังเหตุผลที่เป็นจุดเปลี่ยน เพราะ สส.พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ยืนกราน หากคงสัดส่วน สว.1 ใน 3 เพื่อโหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ปลายทางอาจหมายถึง ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน อาจถูก คว่ำแล้วคว่ำอีก ไม่มีวันเกิดขึ้นได้
และหากไม่ตัดไฟแต่ต้นลมใน “วาระ 2” เพื่อหยั่งเชิงให้รู้กัน ในอีก 15 วัน ก็เป็นไปได้ว่า ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะถูกคว่ำใน “วาระ 3”
เมื่อ สส.พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เลือก “ตัดไฟแต่ต้นลม” ปรากฎการณ์ความขัดแย้งกลางรัฐสภาจึงเกิดขึ้น หลังแพ้โหวต 2 พรรคเตรียมแพครวม แถลงยื่นญัตติซักฟอก หลังโหวตวาระ 2 แต่เกมนี้ถูกช่วงชิง ทันควัน
นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวาย พระราชกฤษฎีกายุบสภา ที่จัดทำล่วงหน้าไว้แล้ว เพียงแค่ข้ามคืน ให้มีผลบังคับใช้ในวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา 12 ธ.ค.2568
ถ้าย้อนกลับไปเปิด “MOA” 5 ข้อ ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคภูมิใจไทยเลือกยุบสภา ก่อนไทม์ไลน์ และต้องยอมรับว่า พรรคประชาชน ก็เตรียมซักฟอก ซึ่งสวนทางกับข้อตกลง แต่การแก้รัฐธรรมนูญ อาจเท่ากับ 1 ใน 5 ข้อไม่เสร็จ
ส่วนรัฐสภา มีมติส่ง ครม.จัดทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง เห็นควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ตรงกับ MOA นอกเหนือจากนั้น คือ “ประชาชน” ที่จะใช้อำนาจ เลือกตั้งและออกเสียงประชามติ ชี้ขาด ว่าไว้วางใจใคร-พรรคไหน 8 ก.พ.2569 นี้
อ่านข่าว : ทภ.2 ชี้เขมรเติมอาวุธ-เติมกำลัง ยิงใส่ที่มั่นฝ่ายไทยในจุดล่อแหลม
สดุดีวีรชน "ส.อ.พชร" รบพิเศษป่าหวาย ผู้กล้าที่ 10 พลีชีพช่องอานม้า
"วราวุธ" นำ 10 อดีต สส.ลาออกพรรคชาติไทยพัฒนา สวมเสื้อภูมิใจไทย 15 ธ.ค.นี้











