จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาแสดงพฤติการณ์อย่างชัดเจนใ นการขัดขวางการเดินทางกลับประเทศไทยของประชาชนชาวไทยจำนวนหลายพันคน ณ ด่านปอยเปตนั้น
วันนี้ (14 ธ.ค.2568) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการควบคุมตัวพลเรือนโดยมิชอบ หรือมีลักษณะใกล้เคียงกับการจับตัวพลเรือนไปเป็นตัวประกัน อันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจในระดับนานาชาติ ว่าเป็นการกักกันตัวโดยผิดกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะสิทธิและเสรีภาพในการเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนาของตนเอง
นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าว ยังอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ได้แก่ อนุสัญญาเจนีวา ว่าด้วยการคุ้มครองพลเรือนในเวลาการรบหรือการสงคราม ลงวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ.1949 รวมถึงพิธีสารเพิ่มเติมของอนุสัญญาเจนีวา และพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากการขัดกันด้วยอาวุธระหว่างประเทศ ค.ศ.1977
ทั้งนี้ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักกันตัวพลเรือนโดยมิชอบดังกล่าว อาจมีความผิดเข้าข่ายเป็นอาชญากรสงคราม ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากกัมพูชาเป็นภาคีของอนุสัญญาเจนีวา และพิธีสารเพิ่มเติมดังกล่าว จึงมีพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนชาวไทยจำนวนหลายพันคน ณ ด่านปอยเปต สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้โดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนสากล
อ่านข่าว : “ท่องเที่ยว” ห่วงปะทะชายแดนยืดเยื้อ ส่งผลกระทบธุรกิจ
หนังสือชี้แจงของไทยต่อ OHCHR กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
กองทัพภาคที่ 1 สรุปภาพรวมการปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตย-ชายแดน จ.สระแก้ว











