เฝ้าระวังน้ำท่วมตลาดชายแดนไทย-เมียนมา
พื้นที่ภาคเหนือตอนบนยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วม และดินถล่ม โดยเฉพาะที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมาใน จ.เชียงราย ร้านค้าต่างต้องปิดตัว และเร่งขนย้ายสิ่งที่สูงหลังระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
วันนี้ (4 ส.ค.2558) ร้านค้าในตลาดสายลมจอยบริเวณด่านพรมแดนแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต้องปิดให้บริการ และเร่งขนย้ายสินค้าขึ้นที่สูง หลังฝนตกติดต่อกันหลาย ทำให้แม่น้ำสายเอ่อล้นเข้าท่วมถนนใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา และตลาดชายแดน สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร
ส่วนบริเวณตลาดท่าล้อในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา น้ำยังคงสูงต่อเนื่อง เตรียมเครื่องจักรเข้าตักเศษไม้ และวัชพืชที่อาจลอยมาติดตอม่อสะพาน เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เหมือนที่เคยเกิดขึ้น เมื่อปีที่ผ่านมา
ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน ฝนที่ยังตกมาอย่างต่อเนื่องเป็นอุปสรรคในการเปิดเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ ต.แม่สวด อ.สบเมย ที่ถนนถูกดินโคลนถล่มปิดทับ เพื่อเร่งนำถุงยังชีพมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยากไปมอบแก่ชาวบ้านในพื้นที่ โดยขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 10,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 1,000 ไร่
ส่วนที่ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองน่าน ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน หลังแม่น้ำน่านเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมตลอด 2 ฝั่งแม่น้ำน่าน แต่ชาวบ้านยังไม่ไว้วางใจ จึงเร่งปรับปรุงความแข็งแรงของบ้าน , กักตุนอาหาร และเตรียมเรือ หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
ขณะที่ภาคอีสาน ทหารและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำอาหารแห้ง ถุงยังชีพ ไปมอบให้กับชาวบ้าน ต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมจำนวน 90 หลังคาเรือน และแม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลง แต่รถยนต์ขนาดเล็กยังไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้
ด้าน จ.บุรีรัมย์ ครูและเจ้าหน้าที่โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง ต.บ้านยาง อ.เมือง เร่งทำความสะอาดอาคารเรียน หลังถูกน้ำท่วมเมื่อวานนี้ และทำให้ชุดเครื่องนอน อุปกรณ์การเรียนการสอนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ต้องลดการระบายน้ำออกจากเขื่อน เหลือเพียงวันละ 170,000 ลูกบาศก์เมตร หลังพบปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยลง
ขณะที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งของ จ.มหาสารคาม มีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มมากขึ้นกว่า 29 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 35.75 จากปริมาณความจุอ่าง หลังจากมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่ภาคใต้ ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองตรัง ต่างเฝ้าระวังระดับน้ำคลองนางน้อยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่ม และพื้นที่เสี่ยงภัยราบเชิงเขา ให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม อีกทั้งให้ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ขณะที่สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในคลองมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครนายก ขณะนี้ สถาณการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังระดับลดความรุนแรงลงพร้อมกับยกเลิกการประกาศห้ามลงเล่นน้ำแล้ว แต่ยังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังต่อเนื่อง