มหาวิทยาลัยดังในสหรัฐฯ เปิดหลักสูตร Game of Thrones

นอกจากเป็นที่นิยมของแฟนละครทั่วโลกแล้ว เนื้อหาที่อิงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ทำให้ Game of Thrones ได้รับความสนใจจากแวดวงวิชาการไม่น้อย ล่าสุดถูกบรรจุให้เป็นหลักสูตรวิชาของมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา

การหักมุมในตอน The Red Wedding ฉากสำคัญจากฤดูกาลที่ 3 ของซีรีส์สุดฮิต Game of Thrones เล่าถึงงานวิวาห์ที่หวังลบล้างความบาดหมางของสองตระกูลใหญ่ ซึ่งจบลงด้วยการหักหลังและการสังหารหมู่อันเลือดเย็น ซึ่ง จอร์จ อาร์ อาร์ มาร์ติน ผู้ประพันธ์ เผยว่าได้แรงบันดาลใจจากโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นจริงถึง 2 ครั้ง ทั้งเหตุการณ์ Black Dinner ที่กษัตริย์สกอตแลนด์ลวงสมาชิกตระกูลที่แข็งข้อมายังงานเลี้ยงเพื่อหย่าศึก ก่อนลงมือสังหารสมาชิกในตระกูลทั้งหมด และเหตุการณ์ Glencoe Massacre ที่สมาชิกของตระกูลที่ไม่สวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์สกอตแลนด์ จนถูกตระกูลคู่อริลวงด้วยการให้ที่พักก่อนสังหารคนทั้งตระกูลในคืนนั้น

การนำเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มาเชื่อมโยงในเนื้อหา ทำให้ Game of Thrones เป็นละครที่ได้รับความสนใจในแวดวงวิชาการ ล่าสุดภาควิชาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ได้เปิดหลักสูตรวิชา Game of Thrones โดยเน้นวิเคราะห์โครงสร้างละคร ซึ่งแม้จะจัดอยู่ในกลุ่มนิยายแฟนตาซี แต่เนื้อหาสะท้อนปัญหาสังคมที่พบเห็นได้ในปัจจุบัน ทั้งประเด็นทางศาสนาและการเมือง

จัสติน แวคคาโร ผู้สอนหลักสูตรวิชา Game of Thrones กล่าวว่าเนื้อหาที่ไม่อาจคาดเดาได้ ทำให้ผู้ชมลุ้นกับบทสรุปแทบทุกตอน ส่วน ซานดรา ดอยล์ นักศึกษาภาควิชาภาพยนตร์ ยอมรับว่าแบบเรียนส่วนใหญ่จะเป็นหนังที่ออกฉายไปแล้วหลายปี ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ศึกษาละครซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในปัจจุบัน

ประเด็นที่ Game of Thrones ถูกกล่าวถึง คือความโดดเด่นของตัวละครหญิง ซึ่งล้วนมีต้นแบบจากสตรีในประวัติศาสตร์ โดย แดเนริส ทาร์แกเรียน ราชินีผลัดถิ่น มีต้นแบบจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ผู้ก้าวผ่านชีวิตยากลำบากในวัยเยาว์ สู่การเป็นราชินีผู้ครอบครองอาณาจักรอันไพศาลด้วยแสนยานุภาพทางทหาร ชะตากรรมของ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ สตรีผู้ทะเยอทะยาน คล้ายคลึงกับ พระราชินีมาร์กาเรต ผู้จำยอมเข้าพิธีสมรสเพื่อยุติสงคราม ก่อนขึ้นมาเป็นผู้สำเร็จราชการ แล้วให้กำเนิดรัชทายาทผู้มีนิสัยเหี้ยมโหดด้วยกันทั้งคู่ ส่วนแม่มดผมแดง เมลิซานเดอร์ ได้พฤติกรรมอำมหิตมาจาก แมรีผู้กระหายเลือด อดีตราชินีอังกฤษที่จับชาวเมืองผู้ไม่นับถือนิกายคาทอลิกมาเผาทั้งเป็นนับร้อยคน

หนึ่งในตัวละครที่แฟนซีรีส์คิดว่ามีแต่ในนิยายอย่าง Dire wolf หรือสุนัขป่าโลกันตร์ แท้จริงแล้วเคยมีชีวิตอยู่ในยุคน้ำแข็ง โดยพิพิธภัณฑ์บรรพชีวินวิทยาของเบิร์กลีย์ มีการจัดแสดงฟอสซิลของ Dire wolf ที่ขุดพบเมื่อร้อยปีที่แล้ว โดย เอริค โฮล์ต ภัณฑารักษ์เล่าว่า สุนัขป่าโลกันตร์แท้จริงแล้วมีขนาดใหญ่กว่าสุนัขป่าเพียงเล็กน้อย ไม่ได้มีขนาดเท่าม้าเหมือนที่นำเสนอในละครแต่อย่างใด