เปิดหลักฐาน "กัมพูชา" ใช้โบราณสถาน-ใช้พลเรือนหนุนปฏิบัติการในพื้นที่รบ

ทภ.2 เปิดหลักฐานกัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นที่ตั้งทหาร ให้พลเรือนมีส่วนร่วมในการรบและนำพลเรือนเข้ามาอยู่ในพื้นที่การรบ ชี้ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

วันนี้ (20 ธ.ค.2568) กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงเวลา 13 วันที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.2568 โดยระบุว่า พบพฤติกรรมการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL) อย่างชัดเจนหลายประการ

จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายการปฏิบัติการ พบว่า ฝ่ายกัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นที่ตั้งทางทหาร รวมถึงนำผู้หญิงและเด็กเข้าไปอยู่ในพื้นที่การรบ นอกจากนี้ ยังพบการครอบครองและวางทุ่นระเบิด ตลอดจนการประกอบเครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดภายในพื้นที่ดังกล่าว

การกระทำที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมาย IHL ประกอบด้วย

การใช้โบราณสถานเป็นฐานที่ตั้งทางการทหาร
การใช้พลเรือนมีส่วนร่วมในการยิง การประกอบเครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดภายในที่ตั้งทางทหาร ซึ่งอยู่ในโบราณสถาน โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย
การนำพลเรือนเข้าไปอยู่ในพื้นที่การสู้รบโดยไม่แยกแยะ และใช้พลเรือนสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นการยิงปืนกล การบรรจุวัตถุระเบิด การประกอบเครื่องกระสุน รวมถึงการจัดเตรียมอาหารให้ทหารในพื้นที่การรบ

สำหรับอนุสัญญาเจนีวา เป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่กำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติในช่วงสงคราม เพื่อคุ้มครองบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบหรือไม่สามารถสู้รบได้ เช่น พลเรือน ผู้บาดเจ็บ ทหารที่ยอมจำนน เชลยศึกและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ โดยมีเป้าหมายหลักในการลดความทุกข์ทรมานของมนุษย์ ปกป้องชีวิตและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และจำกัดวิธีการใช้กำลังในการทำสงคราม

ส่วนกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL) เป็นกรอบกฎหมายที่ครอบคลุมกว้างกว่าอนุสัญญาเจนีวา โดยรวมทั้งกฎหมายเจนีวา ซึ่งเน้นการคุ้มครองบุคคล และกฎหมายเฮก ซึ่งควบคุมวิธีการใช้กำลังและอาวุธในสงคราม ทั้งนี้หลักสำคัญของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ได้แก่ การแยกแยะเป้าหมายทางทหารออกจากพลเรือน การใช้กำลังตามหลักสัดส่วน ความจำเป็นทางทหาร และการหลีกเลี่ยงความทุกข์ทรมานเกินจำเป็น

กองทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า จากหลักฐานที่ปรากฏ การปฏิบัติการของกองทัพกัมพูชาถือเป็นการละเมิดทั้งอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมาย IHL ในทุกข้อกล่าวหา ซึ่งขัดต่อหลักมนุษยธรรมสากลที่กำหนดไว้ว่า "แม้ในภาวะสงคราม ก็ยังต้องยึดหลักมนุษยธรรม"