ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดประวัติ "อนุทิน ชาญวีรกูล" แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 1 พรรคภูมิใจไทย

การเมือง
10:05
1,008
 เปิดประวัติ "อนุทิน ชาญวีรกูล" แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 1 พรรคภูมิใจไทย
อ่านให้ฟัง
03:22อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พรรคภูมิใจไทยขยับทัพครั้งใหญ่ ประกาศส่ง "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีสำหรับการเลือกตั้งปี 2569 ชูจุดแข็งสถานการณ์ปัจจุบันประเทศมีภัยคุกคามหลายด้าน จำเป็นต้องมีนายกฯ มาทำงานต่อเนื่อง พร้อมสโลแกน "พูดแล้วทำพลัส""

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือที่รู้จักในนาม "เสี่ยหนู" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2568 ด้วยคะแนนเสียง 311 เสียง นายอนุทินเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2509 อายุ 59 ปี เป็นบุตรชายคนโตของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีต รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) สำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา สหรัฐอเมริกา และ Mini MBA จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เส้นทางการเมืองของนายอนุทินยาวนานกว่า 29 ปี เริ่มต้นในปี 2539 ในตำแหน่ง ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ก่อนจะดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข และ กระทรวงพาณิชย์ ในยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร แม้จะเคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีจากการยุบพรรคไทยรักไทย แต่เขาก็กลับมานำพรรคภูมิใจไทยจนกลายเป็นพรรคแกนนำสำคัญในรัฐบาลหลายชุด ภายใต้สไตล์การทำงานที่ดุดัน "สั่งงานวันนี้ ต้องเสร็จเมื่อวาน"

ในการก้าวสู่การเลือกตั้งปี 2569 พรรคภูมิใจไทยได้มีมติเสนอชื่อนายอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยพรรคให้เหตุผลว่านายอนุทินมีประสบการณ์การบริหารประเทศที่เป็นที่ยอมรับและมีความเหมาะสมที่สุดในการรับมือกับภัยคุกคามรอบด้าน โดยเฉพาะภายใต้สโลแกนใหม่ "พูดแล้วทำพลัส" ที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ที่รวดเร็ว

สถานะทางการเงินของนายอนุทินและคู่สมรสมีทรัพย์สินรวมกว่า 4,411 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิทธิและสัมปทาน เงินฝาก และยานพาหนะรวมเครื่องบินส่วนตัว 3 ลำ แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับธุรกิจก่อสร้างยักษ์ใหญ่และคดีที่ดินเขากระโดง แต่นายอนุทินยืนยันความบริสุทธิ์ใจและพร้อมให้ตรวจสอบตามกฎหมายโดยไม่ใช้อำนาจแทรกแซง

นอกจากนี้เขายังสร้างความเชื่อมั่นด้วยการดึง "เทคโนแครต" หรือผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาร่วมทีมบริหาร เช่น ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย

อ่านข่าวอื่น :

ชิง 33 สส.กรุงเทพฯ ไร้ “ของตาย” ไม่ง่ายดังเดิม

เริ่มแล้ว! ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ระดับเลขานุการ ที่ จ.จันทบุรี