มองแฟชั่นอังกฤษผ่านลอนดอนแฟชั่นวีค

ถ้าพูดถึงแฟชั่นหลายคนอาจจะนึกถึงมิลาน และประเทศ อิตาลี แต่เมืองหลวงของอังกฤษอย่างลอนดอนเองก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยในวงการแฟชั่น ในฐานะเมืองหลวงของสตรีทแฟชั่น ที่มีรากฐานจากวัฒนธรรมของวัยรุ่นเช่นกัน

กล้าแกร่ง แหวกแนว และโดนใจคนรุ่นใหม่ เอกลักษณ์ผลงานการออกแบบ วิเวียน เวสต์วู้ด ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ ไม่เพียงสะท้อนถึงวัฒนธรรมชนหนุ่มสาวยุคใหม่ และดนตรีร็อคที่มีอิทธิพลในผลงานของเธอ แต่สไตล์เฉพาะตัวที่สะท้อนประวัติศาสตร์และรสนิยมเบื้องเสื้อผ้าที่สวมใส่ของชาวอังกฤษ ที่ส่งอิทธิพลไปทั่วโลกยังเป็นสิ่งที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าหวังจะได้เห็นจากงานลอนดอนแฟชั่นวีคที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้า

ก่อนลอนดอน จะโด่งดังในฐานะเมืองหลวงของสตรีทแฟชั่น เครื่องแต่งกายอันหลากหลายของชาวอังกฤษคือเครื่องมือแสดงฐานะทางสังคมของขุนนาง แต่หลังสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งได้คร่าชีวิตชายชาวอังกฤษที่ไปร่วมรบเกือบ 3 ล้านคน แฟชั่นกลายเป็นเครื่องมือแสดงความเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่ผู้หญิงมีบทบาททางสังคมและเศรษฐกิจมากขึ้น

ผมที่เคยไว้ยาวก็ถูกตัดให้สั้นรวมถึงกระโปรงสุ่มก็ถูกทำให้เข้ารูป และสั้นขึ้นเพื่อให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัวเหมาะกับการออกไปทำงานนอกบ้าน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่นม็อดในยุค 50's - 60's ที่ Marry Quant ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษเป็นคนแรกที่สร้างสรรค์แฟชั่น มินิสเกิร์ท และกางเกงขาสั้นฮ็อทแพนท์ ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัย และยืนยงอยู่จนถึงปัจจุบัน

แฟชั่นอังกฤษเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหลังวิกฤติเศรษฐกิจในยุค 70's ทำให้เกิดการว่างงานสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ คนหนุ่มสาวระบายความคับแค้นผ่านบทเพลงพั้งค์ร็อคของ Sex Pistol หรือ The Clash ที่ก่นด่าสังคม แฟชั่นถูกใช้ไปเพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านค่านิยมเก่าๆ อย่าง เสื่อยืดขาดๆ สกรีนข้อความปลุกต่อต้านค่านิยมเก่าในสังคม แจ็คเก็ตหนังติดหมุดโลหะ โดยมีดีไซเนอร์อย่าง วิเวียน เวสต์วู้ด เป็นแกนนำ

โทนี่ เกล็นวิล ผู้อำนวยการสถาบัน ลอนดอน คอลเลจ ออฟ แฟชั่น กล่าวว่า แฟชั่นในอังกฤษไม่ใช่เรื่องของความหรูหรา แต่เป็นเรื่องของความแปลกใหม่และเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งได้แรงบรรดาลใจจากวิถีชีวิตและความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้งานลอนดอนแฟชั่นวี้คถูกจับตามมองในฐานะ 1 ใน 4 ของงานแฟชั่นที่สำคัญที่สุดของโลก