ตรวจสอบที่มาแผงยาแก้หวัดที่ทิ้งในเชียงใหม่

ดีเอสไอ เร่งรวบรวมสำนวนคดียาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมสารซูโดอีเฟดรีน หายจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเชื่อมโยงคดี ขณะที่กำลังตรวจสอบแหล่งที่มาของแผงยาแก้หวัดจำนวนมาก ที่ถูกนำมาทิ้งในที่รกร้าง จังหวัดเชียงใหม่

เจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเข้าตรวจสอบจุดที่พบแผงยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน จำนวนมาก ถูกทิ้งไว้ใน ตำบลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณริมแม่น้ำกก ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย เพราะยังมีแผงยาอีกจำนวนมาก ถูกทิ้งไว้ริมแม่น้ำ

นอกเหนือจากของกลางที่ตำรวจภูธรแม่อาย ยึดได้ 2 กระสอบ หรือ ประมาณ 1 ล้านเม็ด เมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องกับคดียาแก้หวัดหายจากโรงพยาบาลต่างๆ นพ.วิศิษย์ ตั้งนภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 15 เปิดเผยว่า นอกจากโรงพยาบาลดอยหล่อ และโรงพยาบาลฮอด ที่พบว่ามีเภสัชกรแอบอ้างใช้ชื่อของโรงพยาบาล สั่งซื้อยาแก้หวัดรวมทั้งกรณียาแก้หวัดหายไปจากสต๊อกยาแล้ว ล่าสุด พบว่า โรงพยาบาลชุมชน ในอำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง มีเภสัชกรใช้ชื่อโรงพยบาลสั่งซื้อยา แล้วนำไปขายในร้านขายยาของตนเอง จำนวน 120,000 เม็ด แม้เภสัชกรรายนี้ จะลาออกจากราชการไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว แต่หากพบว่าเป็นการทุจริต จะเปลี่ยนเป็นให้ออกจากราชการแทน ขณะที่การตรวจสอบคดียาแก้หวัด หายจากโรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ กว่า 300,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะเข้ารับสำนวนกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธกมลาไสย ในวันนี้ (29 มี.ค.)

คดีนี้ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 10 คน รวมทั้งตรวจสต๊อคยา เพื่อหาความเชื่อมโยงกับยาแก้หวัด ที่หายจากโรงพยาบาลหลายแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอยู่ระหว่างตรวจสอบขั้นตอนการนำยาออกจากคลังยา ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า รวมถึงการเอาผิดทางวินัยกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ห้องยา หรือ ผู้บริหารของโรงพยาบาล