น่านฟ้าหรือ Airspace ในด้านการบินนั้นสามารถแบ่งได้เป็นหลายส่วน เรียกว่า Airspace Class ซึ่งมีการใช้งานในด้านการบินที่แตกต่างกัน นอกจาก Airspace Class แล้ว น่านฟ้ายังมีการแบ่งโซนหรือพื้นที่แยกย่อยตามความต้องการต่าง ๆ ของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินอย่าง ICAO หรือ International Civil Aviation Organization
ICAO ได้ระบุจุดประสงค์ของการแบ่งแยกน่านฟ้าไว้ดังนี้:
- เพื่อการแยกอากาศยานหลายลำออกจากกัน หรือการเว้นระยะระหว่างหลายเครื่องบินออกจากกัน เพื่อป้องกันการชนกัน
- การให้ข้อมูลด้านการจราจรทางอากาศ เช่น อันตรายต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในน่านฟ้า
- การบินภายใต้กฎการบินหรือ Flight Rules ที่แตกต่างกัน เช่น VFR (Visual Flight Rules) Instrument Flight Rules (IFR) และ Special Visual Flight Rules (SVFR)
ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าใจ Flight Rules แต่ละแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้ในการบังคับใช้น่านฟ้าแต่ละชนิด
Visual Flight Rules (VFR) คือ กฎการบินที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด หมายถึงการบินด้วยการใช้สายตาเป็นหลัก ผ่านการหาจุดอ้างอิงทางสายตาเพื่อการนำทาง ในปัจจุบัน ด้วยการเข้ามาของอุปกรณ์มากมาย การบินแบบ VFR นั้นปลอดภัยเป็นอย่างมากเนื่องจากนักบินจะใช้อุปกรณ์การนำทางอย่างอื่นมาช่วยเหลือในการนำทางด้วยสายตาด้วย
Instrument Flight Rules (IFR) คือ กฎการบินที่ใช้เมื่อการบินด้วย VFR นั้นไม่ปลอดภัย เช่น ระหว่างที่มีทัศนวิสัยย่ำแย่ ทำให้ไม่สามารถหาจุดอ้างอิงทางสายตาที่ดีพอได้ ระหว่างการบินด้วย IFR นั้น นักบินจะนำทางด้วยอุปกรณ์นำทางเป็นหลัก เช่น การลงจอดด้วยระบบ ILS (Instrument Landing System) หรือการนำทางด้วย VOR (Very-high-frequency Omnidirectional Radio Range)
ส่วน Special Visual Flight Rules (SVFR) เป็นกฎการบิน VFR ที่อาจจะมีข้อกำหนดเพิ่มเติม เช่น นักบินจะต้องเป็นนักบิน IFR-rated หรือ นักบินที่ได้รับอนุญาตให้บินด้วยกฎการบิน IFR ได้
น่านฟ้าในการกำหนดโดย ICAO นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 7 ชนิด คือ Class A ถึง Class G โดยที่ 5 ชนิด (Class A–E) เป็นน่านฟ้าที่มีการควบคุม ส่วนอีก 2 น่านฟ้า (Class F–G) นั้นไม่มีการควบคุม น่านฟ้าที่มีการควบคุมหมายถึงน่านฟ้าที่มีการกำกับดูแลโดยผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ
Class A นั้นเป็นน่านฟ้าที่มีการควบคุมหนาแน่นที่สุด กล่าวคือทุกเที่ยวบินจะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ควบคุมการจราทางอากาศหรือ ATC นอกจากนี้ ทุกเที่ยวบินจะต้องนำทางด้วยกฎการบิน IFR
Class B ถึง Class E นั้นสามารถบินได้ด้วยกฎการบินใดก็ได้ แต่อาจมีการขออนุญาตและการจัดระเบียบการจราจรทางอากาศที่แตกต่างกัน เช่น Class E ที่การบินด้วย VFR ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจาก ATC และสามารถทำได้เลย
ส่วนน่านฟ้า Class F นั้นเป็นน่านฟ้าที่ไม่มีการควบคุมโดย ATC อย่างไรก็ตาม ATC ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงสามารถออก Traffic Advisory หรือคำแนะนำทางการจราจรทางอากาศได้ เช่น การแจ้งเตือนพายุ ใน Class F นั้นนักบินสามารถบินด้วยกฎการบิน VFR หรือ IFR ก็ได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจาก ATC
ส่วนน่านฟ้า Class G นั้นคือน่านฟ้าที่ไม่มีการควบคุมใด ๆ โดย ATC เลย
น่านฟ้าแต่ละชนิดที่กำหนดโดย ICAO นั้นมักจะถูกนำไปปรับใช้กับน่านฟ้าของแต่ละประเทศโดยหน่วยงานกำกับดูแลการบินของประเทศนั้น ๆ เช่น FAA ของสหรัฐฯ ที่กำหนดให้พื้นที่รอบ ๆ ท่าอากาศยานหลายแห่งเป็นน่านฟ้า Class B
ส่วนน่านฟ้าที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างน่านฟ้าเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก (NAT) นั้นเป็นน่านฟ้า Class A เนื่องจากเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกนั้น สัญญาณการสื่อสารจาก ATC นั้นมักไม่แข็งแรงพอที่จะสื่อสารกับอากาศยานได้ ทำให้การนำทางทั้งหมดต้องทำโดยระบบอัตโนมัติและนักบิน
เรียบเรียงโดย : โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
พิสูจน์อักษร : ศุภกิจ พัฒนพิฑูรย์
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech