หลังโดนความกดดันทำพิษ ส่งผลให้ อาร์เซนอล พุ่งชนกับผล “เสมอ” 3 นัดรวด จาก 9 แต้มที่ควรเก็บได้ กลับได้มาเพียง 3 ทำเสียรังวัดอย่างยิ่ง จนอาจจำผิดที่ผิดทางเลยทีเดียว เสียโมเมนตัมทีมที่จะเป็น “แชมป์” หลังจากนำเป็นจ่าฝูงตั้งแต่เดือน สิงหาคม ปี 65 เริ่มหม่นหมอง เนื่องจากแม้ “ปืนใหญ่” จะนำ 5 คะแนน แต่แข่งมากกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี 2 นัดนั่นเอง
เช็กโปรแกรมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง “แมนฯ ซิตี” กับ “อาร์เซนอล”
ดังนั้นแมตช์ อาร์เซนอล บุกเยือน แมนฯ ซิตี คืนนี้ (26 เม.ย. 66) เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย จึงสำคัญกับฝั่ง “เดอะ กันเนอร์ส” เป็นพิเศษต้องชนะอย่างเดียวหากอยากเหวี่ยงโมเมนตัมคว้าแชมป์มาทางฝั่งตัวเอง เนื่องจาก “เรือใบ” สามารถเสมอได้ (มี 2 เกมตกค้างอยู่ในมือเหมือนเดิม) แต่เชื่อขนมกินได้ลูกทีมของ “เปป กวาร์ดิโอลา” ไม่มีอุดแน่นอน ด้วยเหตุนี้อัตราความสนุกยิ่งเพิ่มทวีคูณเพราะต่างฝ่ายต่างเปิดเกมรุกเพื่อเป็นผู้ชนะในเกมนี้ให้จงได้
เมื่อเปิดสถิติเฮดทูเฮดที่ทั้ง 2 ทีมเจอกัน พบว่าอาการ “ปืนใหญ่” ค่อนข้างดูน่าเป็นห่วงอยู่ไม่หน่อย เกมลีก 11 นัดที่เจอกัน แพ้ แมนฯ ซิตี เรียบวุธ ขณะที่การบุกเยือนเอติฮัด สเตเดียม 7 นัดล่าสุดรวมทุกรายการพ่ายรวด ส่วนผลงานการพบกันในซีซันนี้ก็เป็น “เรือใบ” คว้าชัยได้ทั้ง 2 เกม งานนี้จึงเป็นงานยากยิ่งกว่าเข็น “ปืน” ขึ้นภูเขา ในการบุกคว้า 3 คะแนนกลับเอมิเรตส์ สเตเดียม
เนื่องจากแมตช์นี้เป็นงานยากอย่างยิ่งสำหรับ “ปืนใหญ่” นักวิเคราะห์ข้อมูล Nielsen Gracenote ได้ให้คะแนน “ซิตี” ว่ามีโอกาสถึง 79% ที่จะคว้าแชมป์ แม้ว่าชัยชนะของอาร์เซนอลจะทำให้พวกเขากลายเป็นทีมวางอันดับหนึ่งอีกครั้งด้วยโอกาส 55% ในขณะที่โอกาสจะเป็นแชมป์จะลดลงเหลือ 11% หาก “เรือใบ” คว้าชัยได้ในคืนนี้
ด้วยเหตุนี้ “มิเกล อาร์เตตา” จึงได้ออกมากระตุ้น เหล่านักเตะ “อาร์เซนอล” ให้โชว์ฟอร์มสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงเพื่อเหวี่ยงโมเมนตัมการคว้าแชมป์กลับมาที่ “ปืนใหญ่”
อ่านข่าว : อยากเป็นแชมป์เกมนี้ต้องชนะ ! “มิเกล อาร์เตตา” กระตุ้น นักเตะ “อาร์เซนอล” เค้นฟอร์มเก่งบุกชนะ “แมนฯ ซิตี”
ขณะที่ “เปป” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อลดแรงกดดันให้กับลูกทีมว่า ถึงจะเป็นเกมสำคัญ แต่ยังไม่ถึงกับเป็นแมตช์ชี้แชมป์เสียทีเดียว (แต่หากเกมนี้ แมนฯ ซิตีชนะ จะลดช่องว่างให้เหลือ 2 แต้ม และยังเหลือโปรแกรมที่แข่งน้อยกว่าอีก 2 นัด) เนื่องจากไม่มีความสมบูรณ์แบบ 100% ในเกมฟุตบอล ผลแพ้-ชนะเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นการเจอกับทีมระดับท็อป อย่างเช่น อาร์เซนอล มาตรฐานของคุณต้องสูงมากเอาไว้ก่อน เพื่อกำหนดเกมของตัวเอง
แม้สถิติเฮดทูเฮดจะเป็นรอง แต่ก็พอมีเรื่องให้เหล่า “กูนเนอร์ส” ใจชื้นอยู่บ้าง ทั้งสถิติการเล่นเกมเยือนในลีกซีซันนี้ค่อนข้างดี โดยชนะ 11 จาก 16 นัด (เสมอ 3 แพ้ 2), การไม่แพ้ใครในลีกมา 10 เกมติด (3 เกมหลังสุดเสมอ) ขณะที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี แนวรุกบราซิเลียนฟอร์มกำลังฮอต ยิง 8 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเกมลีก 10 นัดหลังสุด
หันมาเทียบสถิติฝั่ง แมนฯ ซิตี กันบ้าง หากนับเฉพาะปีนี้ (2023) “เรือใบ” คว้าชัย 100% ในบ้านตัวเอง จากการลงเตะ 11 นัดรวมทุกรายการ และยิงถึง 40 ประตู ขณะที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวซัลโวของทีมฟอร์มดุเหลือร้าย เกมเหย้า 4 นัดหลังสุด ยิง 11 ประตู ต้องการยิงในเกมลีกอีกเพียง 2 ประตูเท่านั้น ก็จะขึ้นไปเทียบเท่า แอนดี โคล กับ อลัน เชียเรอร์ ในฐานะผู้เล่นที่ทำประตูศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากสุดในฤดูกาลเดียว ที่ 34 ประตู
หาก “เรือใบสีฟ้า” ชนะ “ปืนใหญ่” โอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้เพิ่มขึ้นอีกมาก หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยที่ได้ 2 ครั้ง ในฤดูกาล 1998-1999, 1999-2000 และ 2000-2001 ครั้งที่ 2 ฤดูกาล 2006-2007, 2007-2008 และ 2008-2009
นอกจากนี้ยังอาจฝันไกลไปถึง 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียวทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เข้ารอบรองฯ เจอ เรอัล มาดริด, เอฟเอ คัพ เข้ารอบชิงฯ เจอ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่หากเจอทีเด็ดของศิษย์เก่าในค่ำคืนนี้ไม่ว่าจะเป็น กาเบรียล เชซุส หรือ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ก็ดี ที่ปล่อยตัวไปให้ อาร์เซนอล ทำ “เรือใบ” พ่ายคาบ้าน คงทำ “เปป” ข่มตาไม่ค่อยหลับหลายคืน...