ไฟไหม้เครื่องยนต์ (Engine Fire) ในอากาศยานนั้นเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุทางอากาศที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในด้านการบินพาณิชย์ เนื่องจาก “เครื่องยนต์เครื่องบิน” นั้นเปรียบเสมือนพัดลมที่ใช้น้ำมันขนาดใหญ่ ต้องทำงานอย่างหนักตลอดเวลาเพื่อสร้างลมที่แรงพอที่จะผลักเครื่องบินไปข้างหน้าได้ ด้วยเหตุนี้ หากชิ้นส่วนใด ๆ ของเครื่องยนต์เสียหายหรือแตกหัก “เชื้อเพลิงเครื่องบิน” ก็อาจจะหลุดรั่วออกมาจากห้องสันดาปของเครื่องยนต์จนเครื่องยนต์ติดไฟได้
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่านักบินรับมือกับเครื่องยนต์ไฟไหม้อย่างไร
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเครื่องยนต์ของเครื่องบินพาณิชย์ที่เราบินกันส่วนใหญ่นั้นคือเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน (Turbofan) เทอร์โบแฟนเปรียบเสมือนพัดลมขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงในการจุดระเบิดเพื่อปั่นพัดลมของเครื่องยนต์และอัดอากาศด้วย คอมเพรสเซอร์ให้เพียงพอเพื่อสร้างแรงอากาศมหาศาลและผลักเครื่องบินไปข้างหน้า
ดังนั้นเทอร์โบแฟนจึงประกอบไปด้วยชุดพัดลมจำนวนมากเพื่อดึงและอัดอากาศโดยที่ภายในคือห้องสันดาปเพื่อฉีดเชื้อเพลิงเข้าไปในอากาศและจุดระเบิดเพื่อสร้างแรงดัน แน่นอนว่าจุดที่จะเกิดไฟไหม้ก็คือภายในห้องสันดาปนี่เอง ซึ่งจะอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์อีกที
การเกิดไฟไหม้ในเครื่องยนต์ของเครื่องบินนั้นมีสองลักษณะ ซึ่งไม่ใช่การแบ่งประเภทอย่างเป็นทางการ แต่แบ่งจากมุมมองของผู้โดยสาร แบบที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดคือ “Compressor Stall” ซึ่งเกิดจากการที่กระแสลมของเครื่องยนต์นั้นถูกรบกวนทำให้เครื่องยนต์มีอากาศไม่เพียงพอต่อการจุดระเบิดสันดาป เป็นเหตุให้อัตราอากาศต่อเชื้อเพลิง (Air-to-fuel Ratio) ผิดเพี้ยนและเครื่องยนต์เกิดติดไฟอย่างเห็นได้ชัดจากท่ออากาศท้ายเครื่องยนต์ ในมุมมองของผู้โดยสาร การเกิด Compressor Stall จะมีลักษณะเป็นเปลวไฟที่ติด ๆ ดับ ๆ หลังเครื่องยนต์
การติดไฟของเครื่องยนต์ในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นชั่วคราว เนื่องจากเมื่อกระแสอากาศกลับมาเป็นปกติ เครื่องยนต์ก็จะทำงานได้อย่างปกติอีกครั้ง
เหตุการณ์ที่อันตรายกว่าคือเมื่อเครื่องยนต์นั้นติดไฟจากความเสียหายของตัวเครื่องยนต์เอง ไม่ว่าจะเกิดจากการสึกหรอ การบำรุงที่ไม่ดี หรือปัจจัยภายนอกอย่างการชนเข้ากับวัตถุแปลกปลอม เช่น นก (Bird Strike) ก็อาจทำให้เครื่องยนต์นั้นได้รับความเสียหายหนักจนการจุดระเบิดภายในเครื่องยนต์หลุดรั่วออกมาจากห้องสันดาป เป็นเหตุให้เครื่องยนต์ติดไฟ
ความเสียหายในลักษณะนี้มักแบ่งแยกย่อยได้อีกสองกรณีคือ “Contained” และ “Uncontained” โดยที่การเกิดเครื่องยนต์ไฟไหม้แบบ Contained Engine Fire/Failure คือ ไม่มีชิ้นส่วนใดของเครื่องยนต์หลุดออกมาจากเครื่องยนต์ ในขณะที่ Uncontained คือการระเบิดของเครื่องยนต์ ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์กระจายออกมานอกเครื่องยนต์ และอาจสร้างความเสียหายกับโครงสร้างอื่น ๆ ของเครื่องบินได้ เช่น ใบพัดกระเด็นไปปักทะลุหน้าต่างห้องโดยสาร ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว หรือชิ้นส่วนกระเด็นไปสร้างความเสียหายให้กับปีก
การเกิดเครื่องยนต์ไฟไหม้ในลักษณะนี้ถือเป็นกรณีฉุกเฉินร้ายแรง และนักบินมักจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและลงจอดในท่าอากาศยานใกล้เคียงให้เร็วที่สุด
แล้วนักบินดับไฟในเครื่องยนต์ได้อย่างไรระหว่างการบิน
ขั้นตอนการรับมือหลังเกิดไฟไหม้ขึ้นในเครื่องยนต์คือการดับเครื่องยนต์ที่มีปัญหาทันที และการตัดการจ่ายเชื้อเพลิง ตัดท่ออากาศหมุนเวียน (Bleed Air) ตัดกระแสไฟฟ้า (Disconnect Generator) และตัดปั๊มไฮดรอลิก (Hydraulic) จากเครื่องยนต์ที่มีปัญหาดังกล่าว จากนั้นนักบินจึงจะใช้ระบบดับไฟในเครื่องยนต์ (Engine Fire Extinguisher) เพื่อดับไฟ
ระบบดับไฟดังกล่าวมีลักษณะเป็นถังดับเพลิงที่ติดอยู่ภายในตัวเครื่องบินและเมื่อถูกเปิดใช้งาน จะมีการฉีดสารดับเพลิงเคมีไปยังเครื่องยนต์ที่นักบินเลือกเพื่อดับเพลิง โดยที่ในเครื่องบินหลายเครื่องยนต์นั้น ระบบถังดับเพลิงมักจะถูกใช้งานร่วมกันระหว่างสองเครื่องยนต์
เรียบเรียงโดย โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech