ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

SOGIESC : เข้าใจความหลากหลายที่มากกว่าคำว่า “เพศ”


วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

พุฒิเมธ เกียรติมณีศรี

แชร์

SOGIESC : เข้าใจความหลากหลายที่มากกว่าคำว่า “เพศ”

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2848

SOGIESC : เข้าใจความหลากหลายที่มากกว่าคำว่า “เพศ”

ในสังคมทุกวันนี้คำว่า “เพศ” ไม่ได้ถูกกำหนดอยู่กับแค่คำว่า ชาย หรือ หญิง ไม่ได้หมายความถึงใครรักกับใคร แต่งตัวแบบไหน แต่ครอบคลุมถึงตัวตนความรู้สึกภายในที่แต่ละบุคคลจะเลือกแสดงออก แนวความคิดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศเลยไม่อาจถูกกำหนดด้วยแค่คำง่าย ๆ เช่น “เพศที่สาม” หรือ “เพศทางเลือก” ดังนั้น “SOGIESC” (โซจีส) จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นหลักอธิบายในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความซับซ้อนของความหลากหลายทางเพศ แต่หลักการที่เป็นประโยชน์นี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในสังคมมากเท่าที่ควร แม้แต่ในชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศเอง คอนเทนต์นี้เกิดขึ้นเพื่อนำเสนอหลักการนี้เพื่อสร้างความเข้าใจตัวตนของผู้มีความหลากหลายทางเพศให้มากขึ้น

Bangkok Pride Parade 2025

พาไปรู้จักผู้มีความหลากหลายทางเพศ

สืบเนื่องจากงาน Bangkok Pride เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น มีผู้เข้าร่วมขบวนเป็นจำนวนมาก ทั้งเอกชน ราชการ คนธรรมดา นักกิจกรรม และเหล่าผู้มีความหลากหลายทางเพศ ต่างก็สร้างสีสันให้กับท้องถนนและเกิดภาพสุดไอคอนิก อย่างภาพของผู้มีความหลากหลายทางเพศชาวตะวันออกกลางสวมชุดโตปสีขาวที่ท่อนล่างยาวเป็นกระโปรงเดรสและสวมผ้าโพกหัวสีแดง เดินร่วมอยู่ในขบวน สร้างเสียงตอบรับไปในทิศทางบวกทั้งในขบวนและในโซเชียลแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างไรก็ตามมีเสียงอีกส่วนหนึ่งในโซเชียลฯ ก็วิพากษ์วิจารณ์การแต่งกายและการแสดงออกของเธอ ตัวอย่างเช่น การแสดงออกที่ไม่เข้ากับลักษณะหน้าตา หรือแนะนำให้โกนหนวดเคราเพื่อให้เข้ากับการแต่งกาย

หลังจากนั้นในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 ที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาได้เกิดเหตุฆาตกรรม โจนาธาน จอส หนึ่งในผู้พากย์เสียงให้กับซีรีส์ชื่อดังอย่าง “King of the Hill” ถูกยิงเสียชีวิตโดยเพื่อนบ้าน ด้านสามีทรานส์เจนเดอร์ ทริสตัน เคิร์น เดอ กอนซาเลซและครอบครัวเชื่อว่าเหตุสลดนี้เกิดจาก “ความเกลียดชังทางเพศ” ที่เพื่อนบ้านมีต่อพวกเขา เมื่อข่าวได้ประกาศออกไปก็ได้สร้างความตกใจและโกรธแค้นให้กับชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่โลกโซเชียลฯ ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และใช้เหตุการณ์นี้แสดงความสำคัญของ Pride Month แต่ก็มีความเห็นส่วนหนึ่งแสดงความเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโจนาธานและสามีทรานส์เจนเดอร์ ทั้งในเชิงตั้งคำถามเพราะความสงสัยและในเชิงเกลียดชัง

Bangkok Pride Parade 2025

เสียงของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ

แน่นอนว่าจากการวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะนี้นั้นย่อมสร้างกระแสตีกลับและความไม่พอใจให้กับชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ พวกเขาได้มีการแนะนำให้ผู้วิพากษ์วิจารณ์ควรไปทำความเข้าใจเรื่อง “sexual orientation” หรือ แรงดึงดูดทางเพศและแรงดึงดูดทางใจ เพื่อให้สามารถแยก 2 สิ่งนี้ออกจากอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identities) ได้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายของมิติทางเพศให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้น สิ่งนี้นำมาสู่คำถามที่ว่า ศัพท์เหล่านี้มีความหมายอย่างไรกันแน่และมีความแตกต่างกันอย่างไร และสังคมไทยนั้นเข้าใจเกี่ยวกับคำเหล่านี้มากน้อยเพียงใด

"คิว" คณาสิต พ่วงอำไพ คณะกรรมการ Thailand Pride และอนุกรรมาธิการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและความหลากหลายทางเพศ

SOGIESC ความสำคัญและความหมาย

คณาสิต พ่วงอำไพ (คิว) คณะกรรมการ Thailand Pride และอนุกรรมาธิการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและความหลากหลายทางเพศ อธิบายว่า แรงดึงดูดทางเพศและแรงดึงดูดทางใจ (Sexual Orientation) นั้นนับเป็นส่วนหนึ่งของ “SOGIESC” ซึ่งเป็นเครื่องมือทางสิทธิมนุษยชนในการตีกรอบทางความคิดเพื่อสร้างความเข้าใจในองค์ประกอบและความรู้เกี่ยวกับเรื่องความหลากหลายทางเพศ โดย SOGIESC มีองค์ประกอบ ดังนี้

     • SO (Sexual Orientation) สามารถแบ่งออกได้เป็นแรงดึงดูดทางเพศ (Physical Attraction) และแรงดึงดูดทางใจ (Romantic Attraction) ซึ่งสามารถเกิดได้กับทั้งเพศเดียวกันหรือมากกว่าหนึ่งเพศขึ้นไป

     • GI (Gender Identities) อัตลักษณ์ทางเพศ ความสำนึกรู้เกี่ยวกับตัวตนภายในของตนเอง การรับรู้ว่าตัวตนของเรานั้นเป็นใคร ชาย หญิง หรือนอนไบนารี

     • GE (Gender Expression) การแสดงออกทางเพศ ที่ไม่จำเป็นต้องยึดโยงกับอัตลักษณ์ทางเพศของตน เช่น อัตลักษณ์ทางเพศเป็นชาย แต่การแสดงออกทางเพศ เสื้อผ้า น้ำเสียง หรือบุคลิกภาพ มีความเป็นหญิง (Feminine) ผสมผสาน (Androgynous) หรือ ไม่สามารถระบุได้ (Gender Neutral)

     • SC (Sex Characteristics) ลักษณะทางชีววิทยาของมนุษย์ที่หลากหลาย เกี่ยวข้องกับลักษณะของโครโมโซม ระดับของฮอร์โมน อวัยวะสืบพันธุ์ที่ปรากฏทั้งภายนอกและภายใน เช่น ชาย หญิง intersex (ผู้ที่เกิดมาพร้อมความหลากหลายทางสเปกตรัมของลักษณะทางชีววิทยา)

โดยทั้ง 4 องค์ประกอบ สามารถเป็นอิสระต่อกันไม่จำเป็นต้องยึดโยงกัน ซึ่งหลักการของ SOGIESC ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างองค์การอนามัยโลก (WHO) และหลักการยอกยาการ์ตาต่างก็กล่าวถึง SOGIESC ในแง่ของการเป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่ในบริบทความเข้าใจของสังคมต่อ SOGIESC ยังอยู่ในแวดวงที่จำกัด รับรู้กันอยู่แค่เพียงในชุมชนหรือผู้ที่ทำงานในการขับเคลื่อน

Bangkok Pride Parade 2025

ชวนเข้าใจความหลากหลายทางเพศให้มากขึ้น

ไม่ใช่ทุกคนที่ตระหนักรู้เรื่องสิทธิทางเพศ “คิว” อธิบายว่า ผู้มีความหลากหลายทางเพศเองก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะตระหนักรู้เรื่องนี้ และผลักดันหรือออกมาใช้เสียงของตนหรือออกมาเป็นนักกิจกรรม โดยมองว่าต้นเหตุนั้นมาจากอิทธิพลของระบบสองเพศ (Gender Binary) และ ชายเป็นใหญ่ (Patriarchy) ที่อยู่คู่สังคมที่ทุกคนเติบโตและซึมซับมาตั้งแต่อดีต ซึ่งผลิตซ้ำความรู้ความเข้าใจและมุมมองต่อเพศต่าง ๆ ที่เหมือนกัน

คนบางกลุ่มก็ยังไม่เข้าใจหรือไม่สนใจว่าชีวิตของตัวเองและสังคมว่ามีความไม่เท่าเทียมทางเพศอยู่ พอถูกมองเป็นเรื่องที่ไกลตัว คนจึงอาจละเลยและไม่ให้ความสำคัญ ส่งผลให้เกิดความไม่รู้ไม่เข้าใจ ทำให้ทัศนคติ อคติแบบเดิม ๆ ที่สืบต่อกันมาก็คงอยู่ต่อไป โดยการแก้ไขและเพิ่มพูนความเข้าใจเราก็คงยังต้องรณรงค์กันต่อไปสร้างความเข้าใจกันต่อไป และอีกส่วนที่สำคัญคือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เพื่อสร้างพลวัตให้กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไปพร้อม ๆ กัน

Bangkok Pride Parade 2025

“เราทุกคนเป็นคนเหมือนกัน” แต่ทำไม ? จึงควรมีอัตลักษณ์ทางเพศ

“คิว” เล่าว่า อัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identities) เป็นหนึ่งในมิติทางเพศที่สำคัญไม่แพ้มิติอื่น ๆ ใน SOGIESC อัตลักษณ์ทางเพศเป็นมิติที่เกี่ยวข้องกับตัวเราเพียงอย่างเดียว เราเท่านั้นที่เป็นคนกำหนดว่าเราเป็นเพศไหน ชาย หญิง หรือนอนไบนารี เป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของหลักสิทธิมนุษยชนนั่นคือเจตจำนงเสรี (Self Determination) ที่จะกำหนดเพศของตัวเอง และมีตัวตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขและมีศักดิ์ศรี

คิวกล่าวเพิ่มเติมว่า มนุษย์มีความหลากหลาย มีชนเผ่าอยู่มากมาย นับถือศาสนาที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่มีใครตั้งคำถามกับความหลากหลายนั้น ไม่มีใครพูดว่า “กลุ่มชาติพันธุ์ไม่ควรมี เพราะเป็นมนุษย์เหมือนกัน” หากพูดจริงคงมีแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบมากมาย เพราะคำพูดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการลบตัวตนของกลุ่มชาติพันธุ์ และจะนำไปสู่การละเลยความต้องการที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละกลุ่มคน ในทางกลับกันการมีอยู่ของผู้มีความหลากหลายทางเพศกลับถูกตั้งคำถาม

Bangkok Pride Parade 2025

อย่าปฏิเสธตัวตน (Misgender) เข้าใจเพื่อยอมรับในตัวตน

จากประสบการณ์ของ “คิว” ประโยค “เราทุกคนเป็นคนเหมือนกัน” มักออกมาจากกลุ่มคนที่ชอบปฏิเสธตัวตน (Misgender) คือ กลุ่มที่ปฏิเสธหรือไม่ยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศของผู้อื่น เช่น การที่ใครคนหนึ่งบอกว่าว่าตัวเองนั้นเป็นนอนไบนารี คนกลุ่มนี้ก็จะเข้ามาบอกว่า เขาหรือเธอนั้นเป็นเพียงชายคนหนึ่งหรือเป็นเพียงหญิงคนหนึ่ง หรือกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศถูกบอกว่าพวกเธอนั้นเป็นผู้ชาย

การปฏิเสธตัวตนเป็นประตูเริ่มแรกของความรุนแรงอื่น ๆ หากมีการปฏิเสธตัวตนตั้งแต่เริ่มต้น หลังจากนั้นก็จะมีการปฏิเสธการขับเคลื่อนเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ และอาจนำไปสู่การทำร้ายและอาจร้ายแรงถึงการฆาตกรรม เพราะเชื่อว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงและไม่ควรเป็นอย่างอื่น คำพูดที่ว่า “เราทุกคนเป็นคนเหมือนกัน” ไม่ได้ช่วยหรือเป็นคำพูดที่หวังดี แต่คือการลบตัวตนและปฏิเสธการพูดถึงปัญหาที่ชุมชนผู้มีความหลากหลายต้องพบเจอ

“สังคมเราสามารถรับรู้และเรียนรู้แก้ไขปัญหาไปพร้อม ๆ กันได้ ว่าคนกลุ่มนี้เป็นใคร เขามีปัญหาอะไร และเราจะทำอย่างไรให้พวกเรามีศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราควรตั้งคำถามมากกว่า” คณาสิต พ่วงอำไพ กล่าว

Bangkok Pride Parade 2025

ขณะที่โลกอาจเบี่ยงขวา ไทยยังยืนหยัดความเท่าเทียมทางเพศ

สำหรับ “คิว” สถานการณ์ด้านความเท่าเทียมทางเพศมีทิศทางเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีตหากมองเปรียบเทียบกับพลวัตของโลกที่กำลังเหวี่ยงขวา เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสหรัฐฯ มีเพียงสองเพศ หรือศาลอังกฤษตัดสินให้ผู้หญิงข้ามเพศ (Transwomen) นั้นไม่ใช่ผู้หญิง ถึงแม้การผลักดันเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทยจะเริ่มต้นช้า แต่เรามีศักยภาพในการเป็นผู้นำการขับเคลื่อนทางเพศและเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศในระดับอาเซียน และเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ หากเราทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

สมรสเท่าเทียม พอร์ช-อาม ภาพจาก : AFP

“สมรสเท่าเทียม” ประตูบานแรกสู่ความเท่าเทียม

จากการที่ประเทศไทยเพิ่งมีสมรสเท่าเทียมถือเป็นการสร้างโอกาสที่จะนำไปต่อยอดได้ ไม่ใช่เพียง ในด้านสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ แต่รวมถึงเศรษฐกิจที่มีศักยภาพซึ่งจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการเข้ามาท่องเที่ยว และสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยให้กับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งในปัจจุบันหลายประเทศยังเป็นเรื่องที่ยาก แต่ในประเทศไทยหากมองในมุมของ “คิว” ผู้เป็นนักขับเคลื่อนมองว่า ยังสามารถเพิ่มขึ้นจากในระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้อีก

โดยในต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรปให้ความสำคัญเรื่องนี้โดยมีกฎหมายรับรองเพศ กฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติ กฎหมายต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชัง LGBTQIAN+ โดยเฉพาะกลุ่มคนข้ามเพศ นอนไบนารี และ intersex ที่จะต้องไม่ถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน สามารถเยียวยาพวกเขาได้เพื่อให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี เติบโตในหน้าที่การงานได้เท่าเทียมกับเพศอื่น ๆ

Bangkok Pride Parade 2025

จากนักกิจกรรมถึงพันธมิตรความหลากหลายทางเพศ

ถึงคนที่พยายามเข้าใจคนในชุมชนผู้มีความหลากหลาย คิวกล่าวว่า อยากให้พยายามอดทน เข้าใจว่าอาจยากลำบาก มีอะไรที่ต้องเรียนรู้เยอะและเต็มไปด้วยความเจ็บปวดของคนในชุมชน บางครั้งในบทสนทนาหรือในที่อื่น ๆ อาจจะเจอความรุนแรงหรือความก้าวร้าวอะไรบางอย่างและรู้สึกว่านั่นเป็นการกระทำที่เกินขอบเขต แต่อยากให้เข้าใจว่าการที่สมาชิกในชุมชนแสดงออกมาในลักษณะนั้นเป็นเพราะพวกเขาถูกทำร้าย พวกเขาเจ็บปวด พวกเขาถูกกระทำ พวกเขาต้องอดทน อยากให้มองภาพรวมว่าจุดหมายคือความเท่าเทียมทางเพศ การพยายามทำความเข้าใจนั้นมีส่วนอย่างมากในการขับเคลื่อนเรื่องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ สร้างสังคมที่สงบสุขและมีความหลากหลายสำหรับคนทุกคน ความผาสุกมวลรวมของสังคมเป็นสิ่งที่เราต้องร่วมกันสร้างเพื่อให้เราทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีศักดิ์ศรี

“มุก” ศศิพินทุ์ ธนาสุทธิวัฒน์ เสียงจากตัวแทนกลุ่มผู้มีความหลากหลาย

โดย “มุก” ศศิพินทุ์ ธนาสุทธิวัฒน์ ได้อธิบายมิติทางเพศ (SOGIESC) ของตัวเองไว้ ดังนี้

     • แรงดึงดูดทางเพศและแรงดึงดูดทางใจ (SO) คือ asexual กล่าวคือ เธอไม่รู้สึกดึงดูดทางเพศต่อผู้อื่น (physical attraction) แต่ยังคงมีความรู้สึกทางใจ (romantic attraction) กับผู้อื่นได้อยู่

     • อัตลักษณ์ทางเพศ (GI) คือ นอนไบนารี (Nonbinary) ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ยึดติดอยู่ที่เพศชายและเพศหญิง เธอกล่าวว่ามันแสดงออกมาอย่างชัดเจนจากการที่เธอนั้นมีลักษณะการแต่งตัวและการไว้ทรงผมเหมือนเพศชาย

     • การแสดงออกทางเพศ (GE) เธออธิบายว่าลักษณะทางเพศของเธอนั้นมีความก้ำกึ่งระหว่างชายและหญิง (Androgynous) จากการแต่งกายและการไว้ทรงผมเหมือนผู้ชาย แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตอื่น ๆ การพูด การทำกิจกรรมต่าง ๆ ลักษณะทางกายภาพ และบุคลิกของเธอก็เป็นเหมือนผู้หญิง

     • เพศสรีระ (SC) คือ หญิง

“มุก” ศศิพินทุ์ ธนาสุทธิวัฒน์ เสียงจากตัวแทนกลุ่มผู้มีความหลากหลาย

การค้นหา “ตัวตน” ของตัวเอง

“มุก” กล่าวว่า เธอเริ่มตัดผมสั้นมาตั้งแต่จบมัธยมและเริ่มเปลี่ยนลุคการแต่งตัวให้ดูเป็นผู้ชายมากขึ้นอย่างจริงจังในช่วงมหาวิทยาลัยปี 2-3 เป็นช่วงเวลาที่เธอได้รับอิสระในการแต่งตัว ได้ลองชุดใหม่ ๆ ได้ทดลองกับตัวเองว่าการไว้ผมสั้นกับการใส่กระโปรงสามารถเข้ากันได้ไหม หรือการไว้ผมสั้นกับชุดแบบนั้นแบบนี้ข้ากันได้หรือไม่ มันก็มีจุดหนึ่งที่เธออยากลองไว้ผมยาว แต่พอเวลามองเข้าไปในกระจกคน ๆ นี้เหมือนไม่ใช่เธอเลย เกิดเป็น Gender Dysphoria หรือ สภาวะความทุกข์ที่เกิดจากเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด

ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกไม่ดี ไม่แต่งตัวไม่แต่งหน้า พอเริ่มสังเกตได้ว่าความรู้สึกไม่สบายใจนี้เกิดจากการไว้ผม เธอก็กลับไปไว้ผมสั้นและลองดันผม ใส่เสื้อผ้า oversize เพื่อปิดส่วนโค้งส่วนเว้า มุกกล่าวเสริมว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเดินเข้ามาและบอกว่าเธอ “หล่อ” แค่คำ ๆ เดียวก็เปลี่ยนชีวิตของเธอ เพราะเป็นการถูกชมในขณะที่เธอได้เป็นเธอ เธอคนเดียวกับคนที่เธอคิดไว้ในหัว เธอไม่ได้เห็นภาพเธอในหัวคนนี้ครั้งแรกตอนตัดผม แต่เธอเห็นภาพนี้มาตั้งแต่จำความได้แค่ไม่รู้ว่าจะไปสู่ภาพนั้นได้อย่างไร หลังจากนั้นเธอเลยรู้ตัวเกี่ยวกับการแสดงออกทางเพศ (Gender Expression) ของตัวเองว่าเป็นแบบไหนที่ทำให้สบายใจ

Bangkok Pride Parade 2025

เราต้องเข้าใจตัวเอง และพร้อมอธิบายให้คนอื่นเข้าใจตัวเรา

มุกกล่าวว่าในฐานะนอนไบนารี ในตอนที่ยังไม่เริ่มแต่งตัวเหมือนผู้ชาย เธอมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง อาจเป็นเพราะคนตีความจากการแต่งกาย เพศสรีระ และบุคลิกของเธอ ที่สามารถมองออกได้ง่าย แต่เมื่อเธอเริ่มแต่งตัวเหมือนชายก็ทำให้คนอื่นเข้าใจในตัวตนของเธอมากขึ้น

แต่เมื่อแต่งตัวเหมือนผู้ชาย ผู้คนก็จะตีความว่าเธอนั้นเป็น “ทอม” ซึ่งเป็นคำที่ไว้ใช้อธิบายถึงภาพลักษณ์ภายนอกของบุคคลที่มีเพศกำเนิดหญิงที่แต่งตัวและไว้ทรงผมเหมือนผู้ชาย มีรสนิยมทางเพศชอบผู้หญิง ที่คุ้นหูคนไทย ซึ่งก็ส่งผลให้คนตีความว่าเธอนั้นชอบแต่เพศหญิง โดยมุกอธิบายเพิ่มว่าส่วนตัวเธอไม่ได้มีปัญหากับคำว่า “ทอม” แต่สำหรับนอนไบนารีคนอื่น การถูกเรียกว่า “ทอม” นั้นอาจเป็นการตีตราและทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

ในบางครั้งเธอก็เลือกที่จะไม่ระบุอัตลักษณ์นอนไบนารีของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนนั้น เช่น ในวงสนทนาที่มีหัวข้อเกี่ยวกับการหาแฟนเธอก็จะระบุว่าอัตลักษณ์ของตัวเองนั้นเป็น Bisexual หรือกลุ่มคนที่มีรสนิยมทางเพศที่สามารถถูกดึงดูดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงเพราะน่าจะเป็นอัตลักษณ์ที่เข้าใจง่ายสำหรับคนไทย

Bangkok Pride Parade 2025

เข้าใจ SOGIESC เพื่อรู้จักมิติทางเพศมากขึ้น

สังคมไทยพยายามสร้างคำจำกัดความหรือผสาน รสนิยมทางเพศ (SO) การแสดงออกทางเพศ (GE) และอัตลักษณ์ทางเพศ (GI) ให้เหลือเพียงคำ ๆ เดียว เช่น “ทอม” เท่ากับผู้หญิงที่แต่งชายและชอบผู้หญิง “เก้ง” เท่ากับผู้ชายที่มีบุคลิกแสดงออกคล้ายหญิงและชอบผู้ชาย “เกย์” เท่ากับชายชอบชายและมีการแสดงออกทางเพศเป็นชาย

“มันอาจยาก อาจมีบางคนเข้าใจอัตลักษณ์เราผิดบ้างถูกบ้างก็ไม่เป็นไร แค่ปล่อยให้เราเป็นสิ่งที่อยากเป็นโดยไม่ทำร้ายกันก็พอ” ศศิพินทุ์ ธนาสุทธิวัฒน์ กล่าว

การรับรู้ว่า 3-4 อย่างที่กล่าวมาสามารถแยกออกจากกันได้เลยน่าจะเป็นเรื่องที่ชวนสับสนสำหรับสังคมไทยในตอนนี้ อยากบอกว่าสำหรับเธอมันไม่เป็นอะไรถ้าสังคมจะยังไม่ค่อยเข้าใจ เธอสังเกตเห็นได้ถึงความพยายามนั้น เราอาจต้องค่อย ๆ เรียนรู้กันไป การทำความเข้าใจหลักการนี้เป็นโอกาสหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนได้สำรวจความต้องการของตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่แค่กับคนในชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ แต่เราทุกคนอาจจะได้รู้จักตัวเองเพิ่มมากขึ้นจากการทำความเข้าใจ SOGIESC

นพ.อภิชาติ จริยาวิลาศ จิตแพทย์ประจำ Me Center Clinic

“จิตเวช” กับมุมมองด้านความหลากหลายทางเพศ

SOGIESC คืออะไรในด้านจิตเวช ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่ นพ.อภิชาติ จริยาวิลาศ จิตแพทย์ประจำ Me Center Clinic อธิบายว่า สำหรับความรู้ทางการแพทย์ในอดีตจะเข้าใจว่าเพศมีเพียงแค่ “ชาย-หญิง” และในส่วนของรสนิยมทางเพศหรือแรงดึงดูดทางเพศ ถ้าเกิดว่าชายไม่ได้ชอบหญิงหรือหญิงไม่ได้ชอบชาย ก็อาจเกิดการตั้งข้อสงสัยว่าเกิดความผิดปกติกับชายหญิงคนนั้นหรือไม่ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องอย่างรุนแรง

ปัจจุบันทางการแพทย์รู้แล้วว่า “รสนิยมทางเพศ” ไม่ใช่เรื่องความผิดปกติแต่อย่างใด เป็นเรื่องธรรมชาติ และในความเป็นจริงนั้นเพศมีมิติที่หลากหลายมากกว่าแค่การจำแนกแค่ “ชาย-หญิง” คำศัพท์ที่หลากหลายเหล่านี้ถูกพูดถึงมานานแล้วอย่าง LGBTQIAN+ และ SOGIESC ซึ่งก็คือ รสนิยมทางเพศ (SO) อัตลักษณ์ทางเพศ (GI) การแสดงออกทางเพศ (GE) และ เพศสรีระ (SC) ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรื่องของเพศไม่ใช่แค่ เพศไหนชอบเพศไหนอีกต่อไป

ความสำคัญของ SOGIESC คือการสร้างความเข้าใจในตัวของเราเองและคนอื่นในสังคมที่หลากหลายมากขึ้น หากไม่ให้ความสำคัญกับเครื่องมือนี้ ก็เป็นเหมือนการเพิกเฉยและเป็นเหมือนการลดคุณค่าของมนุษย์หรือตัวเองไป

Bangkok Pride Parade 2025

SOGIESC เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาได้ไหม ?

นพ.อภิชาติ อธิบายว่า เนื่องจาก SOGIESC มีถึง 4 มิติ มีทั้งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด มิติที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ได้แก่ รสนิยมทางเพศ (SO) และ อัตลักษณ์ทางเพศ (GI) ไม่สามารถเปลี่ยนได้ มันเป็นสิ่งที่มาจากพันธุกรรม เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด

มิติที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ได้แก่ การแสดงออกทางเพศ (GE) ที่พูดถึงการแสดงออก บุคลิกภาพ น้ำเสียง การแต่งตัวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามบริบทสังคมหรือช่วงวัย บริบทการทำงาน การใช้ชีวิต หรือความต้องการของตัวบุคคลเองที่มีการเติบโตขึ้น ได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่มีความหลากหลายขึ้นก็อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

ในส่วนของเพศสรีระ (SC) ในปัจจุบันด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยีทางการแพทย์ การแปลงเพศเปลี่ยนจากลักษณะภายนอกเพศชายให้เป็นเพศหญิงหรือเพศหญิงเป็นเพศชาย สิ่งนี้ปัจจุบันการแพทย์สามารถทำได้

Bangkok Pride Parade 2025

“มิติทางเพศ” กับการเข้าใจตัวเอง

นพ.อภิชาติ กล่าวว่า เรื่องเพศเป็นแค่ส่วนหนึ่งในความเป็นมนุษย์ ตัวเรายังคงเป็นตัวเราเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้เราแค่พยายามทำความเข้าใจกับความเป็นตัวเราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความชื่นชอบหรือความเป็นตัวตนของเรา

ในบางครั้งอาการสับสนสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ได้ผิดอะไร อย่างเช่น ในวัยรุ่นอาจเข้าใจว่าถ้าแสดงออกไม่ตรงกับเพศกำเนิด จะต้องเป็น LGBTQ+ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่เสมอไป การแสดงออกบางทีอาจจะเป็นเพียงแค่การแสดงออกเพราะความชอบส่วนตัว การค้นหาตัวตนหรืออัตลักษณ์ทางเพศอาจจะต้องใช้เวลาในการค้นหา เรายังคงมีเวลาและจงท่องไว้ว่า “มันไม่ใช่ทางเลือก มันเป็นสิ่งที่เราเป็น”

ถ้าเกิดถูกตีตราทางเพศ (Misgender) หรือว่าถูกปฏิเสธความเป็นตัวตนในบางครั้งอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกไม่ดี ได้รับผลกระทบต่อจิตใจในทางลบ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามอย่าไปซ้ำเติมตัวเอง อย่าด้อยค่าตัวเองหรืออย่าไปหลงเชื่อคำพูดของคนเหล่านั้น หากรู้สึกไม่สบายใจสามารถปรึกษากับคนที่ไว้ใจได้ หรือไม่อาจจะเริ่มคุยกับคนที่เข้าใจเราก่อน หรือหากไม่รู้ว่าจะคุยกับใครก็สามารถเข้ามารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ได้

Bangkok Pride Parade 2025

สถานการณ์ด้าน “จิตเวช” กับความหลากหลายทางเพศในปัจจุบัน

นพ.อภิชาติ อธิบายว่า ในปัจจุบันหลายกรณีที่มาพบจิตแพทย์ มีทั้งที่เจ้าตัวเดินมาเอง ครอบครัวพามา หรือบางทีพาครอบครัวมา ถ้าในอดีตพวกเขาอาจมาเพราะมองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา แต่กลับกันในปัจจุบันพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้มองความหลากหลายทางเพศของบุตรหลานว่าเป็นปัญหา พวกเขาเข้ามาเพื่อขอคำปรึกษาว่าพวกเขาจะทำยังไงในฐานะคนที่พยายามเข้าใจแต่ยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างเต็มที่ หรือบางกรณีก็มีผู้ปกครองที่อาจจะเข้าใจในตัวตนของบุตรหลานและสนับสนุนเรื่องของความหลากหลายทางเพศมากกว่าเจ้าตัว ในบางกรณีเจ้าตัวเองก็เป็นฝ่ายที่รู้สึกผิดกับครอบครัว บางครั้งผู้ปกครองก็เป็นฝ่ายให้กำลังใจและสร้างความมั่นใจให้กับตัวบุตรหลานเอง และบางกรณีผู้ปกครองก็มีความเข้าใจเรื่องนี้มากกว่าตัวบุตรหลานเอง

Bangkok Pride Parade 2025

สังคมจะพูดคุยเรื่อง “มิติทางเพศ” อย่างไร ? โดยไม่ทำร้ายจิตใจซึ่งกันและกัน

เรื่องเพศกับความหลากหลายอยู่คู่กันมานานแล้ว แต่ว่าคนเราเพิ่งจะตระหนักหรือเพิ่งเข้าใจ นพ.อภิชาติกล่าวว่า สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของยุคสมัย ไม่ใช่เรื่องของค่านิยมหรือกระแส แต่เป็นเรื่องที่มีอยู่มาโดยตลอด เพียงแต่คนเราไม่เข้าใจ หรือคนเรายังมองแค่มิติบางมิติเท่านั้น ลองเปิดใจและมองดู “ความเป็นจริงตามธรรมชาติ” นี้

และไม่ว่าจะเป็นยังไง การเคารพซึ่งกันและกัน เคารพตัวเองเคารพผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญ การตัดสินโดยที่ใช้อคติเดิม ๆ ในสมัยก่อนเป็นสิ่งที่ปัจจุบันไม่ควรทำและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ดังนั้นบางครั้งหากเราไม่เข้าใจเรื่องเพศของคนอื่น การไม่เข้าใจนั้นไม่เป็นไร แต่ไม่จำเป็นต้องแสดงความไม่เคารพ หรือด้อยคุณค่าของคนอื่น ในกรณีที่เราไม่เข้าใจ เราอาจจะค่อย ๆ หาข้อมูลอย่างสุภาพและมีการพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร

คอนเทนต์นี้ไม่ใช่แค่เขียนเพื่อเล่าเรื่อง SOGIESC แต่คือการ “สร้างความเข้าใจ” ว่าผู้มีความหลากหลายทางเพศนั้นมีตัวตน มีเรื่องเล่าของพวกเขาเอง มีความรู้สึก มีประสบการณ์ และมีสิทธิ์ที่จะได้รับความเข้าใจ ความหลากหลายไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวอีกต่อไป และความหลากหลายเป็นเรื่องของพวกเราทุกคน “เราทุกคนเป็นคนเหมือนกัน” ก็จริง แต่เราไม่เหมือนกันในรายละเอียด และนี่คือความงามของมนุษย์ หวังว่าคอนเทนต์นี้จะช่วยให้ใครหลายคนที่ยังไม่เข้าใจหรือกำลังพยายามทำความเข้าใจในเรื่องมิติความหลากหลายทางเพศ ได้เข้าใจมากขึ้น – พร้อมเปิดใจฟังเสียงของความหลากหลายกว่าที่เคย…

หากใครรู้สึกโดดเดี่ยว โปรดเข้าใจว่ายังมีคนที่พยายามเข้าใจคุณอยู่เสมอ..


อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

แท็กที่เกี่ยวข้อง

SOGIESCโซจีสความหลากหลายทางเพศเพศเพศวิถีความเท่าเทียมทางเพศกลุ่มหลากหลายทางเพศPride Monthวิทย์น่ารู้วิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์น่ารู้Thai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Science
พุฒิเมธ เกียรติมณีศรี

ผู้เขียน: พุฒิเมธ เกียรติมณีศรี

เด็กวรรณกรรมที่สนใจทาโรต์ หนังสือ และหมาแมว นักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด