นักดาราศาสตร์ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) ตรวจพบหลักฐานที่บ่งชี้ถึงดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงใหม่ โคจรอยู่รอบดาวอัลฟา เซนทอรี เอ (Alpha Centauri A) ดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์ที่อยู่ใกล้ระบบสุริยะของเราที่สุด อยู่ในระบบดาวอัลฟา เซนทอรี ซึ่งเป็นระบบดาวฤกษ์ 3 ดวง (ประกอบด้วย Alpha Centauri A และ B ซึ่งเป็นดาวคู่ และ Proxima Centauri) ห่างจากโลกเพียง 4 ปีแสง
NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ให้ความรู้ว่า ทีมนักดาราศาสตร์ใช้อุปกรณ์ MIRI (Mid-Infrared Instrument) ของ JWST ถ่ายภาพในช่วงคลื่นอินฟราเรดกลางของดาวอัลฟา เซนทอรี เอ โดยใช้หน้ากากบังแสงดาวในกล้องเพื่อลดแสงรบกวนจากดาวฤกษ์ ทำให้สามารถตรวจจับวัตถุที่มีความสว่างน้อยกว่ามากในบริเวณรอบ ๆ ได้ เช่น ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาว ข้อมูลที่บันทึกได้แสดงให้เห็นวัตถุหนึ่งซึ่งมีความสว่างน้อยกว่าดาวอัลฟา เซนทอรี เอ ถึงประมาณ 10,000 เท่า และอาจเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงใหม่
แม้วัตถุที่คาดว่าจะเป็นดาวเคราะห์ดวงนี้จะอยู่ใน “พื้นที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต” (Habitable Zone) ของดาวอัลฟา เซนทอรี เอ ซึ่งเป็นบริเวณที่ห่างจากดาวฤกษ์ในระยะพอเหมาะ หากมีดาวเคราะห์หินที่มีความดันบรรยากาศใกล้เคียงกับโลก น้ำจะสามารถคงสถานะของเหลวบนพื้นผิวดาวเคราะห์ดวงนั้นได้ แต่ดาวเคราะห์ที่ค้นพบใหม่ดวงนี้กลับเป็นดาวเคราะห์แก๊สยักษ์ จึงไม่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตแบบที่เรารู้จักได้ อย่างไรก็ตาม การค้นพบวัตถุที่อาจเป็นดาวเคราะห์ดวงนี้ถือเป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้น
การค้นพบวัตถุที่อาจเป็นดาวเคราะห์รอบดาวอัลฟา เซนทอรี เอ น่าจะได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ที่ติดตามนิยายวิทยาศาสตร์ เนื่องจากในภาพยนตร์ชื่อดัง Avatar ได้กล่าวถึง “แพนโดรา” (Pandora) ดวงจันทร์บริวารของดาวเคราะห์แก๊สยักษ์ที่โคจรรอบดาวอัลฟา เซนทอรี เอ ในจินตนาการของเรื่องนั้น
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ยังคงมีหลายประเด็นที่ต้องพิสูจน์เพิ่มเติม โดยเฉพาะระยะห่างเพียงประมาณ 2 หน่วยดาราศาสตร์จากดาวฤกษ์แม่ (ประมาณ 2 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกถึงดวงอาทิตย์) หากได้รับการยืนยันว่านี่คือดาวเคราะห์จริง จะนับเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดาวฤกษ์แม่ที่สุดเท่าที่นักดาราศาสตร์เคยถ่ายภาพได้ และยังเป็นดาวเคราะห์ดวงแรกที่โคจรรอบดาวฤกษ์ซึ่งมีอายุและอุณหภูมิใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ที่ถูกบันทึกภาพไว้สำเร็จอีกด้วย
ปัจจุบัน ระบบดาวอัลฟา เซนทอรี มีดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่ได้รับการยืนยันแล้ว 2 ดวง โดยทั้งคู่โคจรรอบดาวแคระแดง พร็อกซิมา เซนทอรี (Proxima Centauri) อย่างไรก็ตาม วัตถุที่เพิ่งค้นพบซึ่งอาจเป็นดาวเคราะห์รอบดาวอัลฟา เซนทอรี เอ ยังต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและยืนยันอีกหลายขั้นตอน กว่าจะสามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าเป็นดาวเคราะห์แก๊สยักษ์จริง และจะถูกบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะของระบบดาวอัลฟา เซนทอรีต่อไป
การสังเกตการณ์ในช่วงต่อมาของ JWST ไม่ได้แสดงหลักฐานเพิ่มเติมที่ยืนยันการมีอยู่ของวัตถุซึ่งคาดว่าเป็นดาวเคราะห์ดวงดังกล่าว แม้แบบจำลองเชิงทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์จะบ่งชี้ว่าดาวเคราะห์อาจอยู่ใกล้ดาวอัลฟา เซนทอรี เอ มากเกินไปจนไม่สามารถถ่ายภาพได้ก็ตาม ทั้งนี้ ทีมนักดาราศาสตร์คาดหวังว่าการสังเกตการณ์เพิ่มเติมจาก JWST ร่วมกับกล้องโทรทรรศน์อวกาศโรมัน (RST) ซึ่งมีกำหนดการปล่อยขึ้นสู่อวกาศในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2027 จะช่วยให้ได้หลักฐานที่จำเป็นต่อการยืนยันการมีอยู่ของดาวเคราะห์ดวงนี้
การค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ ไม่ว่าจะเป็นดวงใดก็ตาม ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถรวบรวมข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบดาวเคราะห์อื่น ๆ นอกเหนือจากระบบสุริยะของเราได้มากขึ้น โดยเฉพาะกรณีดาวเคราะห์ในระบบดาวคู่ที่อยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งนับเป็นความท้าทายที่จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ และเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับกระบวนการก่อตัว การดำรงอยู่ ตลอดจนวิวัฒนาการของดาวเคราะห์ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและวุ่นวายเช่นนี้
ทีมนักดาราศาสตร์ได้รายงานผลการค้นพบครั้งใหม่ในรายงานการวิจัย 2 ฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัย The Astrophysical Journal Letters เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2025 ที่ผ่านมา
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : space, พิสิฏฐ นิธิยานันท์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech