สวนสัตว์เปิดมอบประสบการณ์สุดตื่นเต้นให้กับผู้มาเยือนได้สัมผัสชีวิตสัตว์อย่างใกล้ชิดในสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับธรรมชาติมากที่สุด แต่ทว่าอิสระที่เพิ่มขึ้นของสัตว์เหล่านี้ ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความปลอดภัยให้มีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ครอบคลุมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและนักท่องเที่ยว ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สวนสัตว์เปิดทุกแห่งต้องให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและการรับประกันสวัสดิภาพของทั้งคนและสัตว์
จากเหตุการณ์สุดสลดที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ชวนให้เราเกิดการตั้งคำถามว่า ข้อกำหนดทางกฎหมายที่สวนสัตว์ทุกแห่งในประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิบัติตามนั้นมีอะไรบ้าง รวมไปถึงมาตราการรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่เพียงพอแล้วหรือยังในการปกป้องเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและนักท่องเที่ยว เพื่อร่วมทำความเข้าใจ และหวังร่วมกันว่าเหตุการณ์สุดสลดจะไม่เกิดขึ้นอีก
กฎหมายแม่บทสวนสัตว์ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายแม่บทที่ควบคุมการประกอบกิจการสวนสัตว์ในประเทศไทย โดยใน มาตรา 33 ได้กำหนดให้การจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งการออกใบอนุญาตจะพิจารณาจากมาตรฐานต่าง ๆ รวมถึง มาตรฐานด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย และการปฏิบัติการและมาตรการฉุกเฉิน สวนสัตว์ทุกแห่งมีคู่มือการปฏิบัติงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ เช่น การให้อาหาร การทำความสะอาด การเคลื่อนย้ายสัตว์ ซึ่งระบุขั้นตอนอย่างละเอียดเพื่อลดความเสี่ยงให้มากที่สุด
กำหนดมาตรฐานของสวนสัตว์ ประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เพื่อขยายความข้อกำหนดในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออก ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการประกอบกิจการสวนสัตว์และสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ พ.ศ. 2567 ซึ่งรวมถึงมาตรการด้านความปลอดภัย โดยจากเอกสารของกรมอุทยานฯ ได้ระบุข้อกำหนดที่สำคัญ ที่มีความเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ไว้ดังนี้
ส่วนที่ 1 มาตรฐานด้านการจัดการพื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่จัดแสดงสัตว์
ข้อที่ 3 จัดให้มีแนวกั้นสัตว์เพื่อควบคุมสัตว์ให้อยู่ในพื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่จัดแสดงสัตว์ที่มีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย ทั้งแบบที่อยู่ในพื้นที่จำกัดและเลี้ยงสัตว์แบบปล่อยอิสระ และจัดให้มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาแนวกั้นสัตว์อย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่เป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่จัดแสดงสัตว์ดุร้ายต้องจัดให้มีแนวกั้นผู้เข้าชมที่มีความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันมิให้ผู้เข้าชมใกล้ชิดกับสัตว์มากเกินไปจนอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้เข้าชม
ข้อที่ 9 หากเป็นสวนสัตว์ซึ่งมีการเลี้ยงสัตว์หรือจัดแสดงสัตว์แบบปล่อยอิสระ ต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(ก) มีลักษณะของพื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่จัดแสดงสัตว์ตามชนิดของสัตว์ และจัดให้มีแนวกั้นสัตว์ที่มีความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
(ข) มีแผนการดำเนินการด้านความปลอดภัยของผู้เข้าชมเฉพาะในส่วนของการเลี้ยงหรือจัดแสดงสัตว์แบบปล่อยอิสระ
(ค) ยานพาหนะในการเข้าชมสัตว์ที่สวนสัตว์จัดไว้บริการต้องมีความแข็งแรง สามารถป้องกันอันตรายจากสัตว์ในพื้นที่จัดแสดงได้ และมีแนวทางการดำเนินการกรณีเกิดเหตุยานพาหนะในการเข้าชมสัตว์ขัดข้อง หรือมีปัญหาเครื่องยนต์ขณะอยู่ในพื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่จัดแสดงสัตว์แบบปล่อยอิสระ
(ง) กรณีผู้เข้าชมนำยานพาหนะส่วนตัวเข้าไปชมสัตว์ด้วยตนเอง สวนสัตว์ต้องมีการกำหนดลักษณะหรือประเภทยานพาหนะที่สามารถนำเข้าชมสัตว์ได้ รวมถึงแนวทางการดำเนินการตาม (ค)
(จ) หากเป็นการแสดงสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์ดุร้าย ต้องจัดทำแผนการควบคุมสัตว์ แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การปฐมพยาบาล และแผนการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ
(ฉ) มีข้อปฏิบัติหรือข้อห้ามต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้แก่ผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์
ส่วนที่ 6 มาตรฐานด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
ข้อที่ 6 ในกรณีมีการจัดแสดงสัตว์ที่ให้ผู้เข้าชมเข้าร่วมกิจกรรมกับสัตว์หรือสัมผัสสัตว์โดยตรงต้องมีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด และต้องดำเนินการเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
(ก) จัดทำแผนการควบคุมสัตว์ การปฐมพยาบาล และเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยละเอียด
(ข) จัดให้มีประกันอุบัติเหตุหรือประกันชีวิตแก่ผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์
(ค) จัดให้มีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ชำนาญในการควบคุมสัตว์ รวมถึงอุปกรณ์จับบังคับสัตว์ในพื้นที่จัดแสดงในจุดที่เข้าถึงได้ง่ายอย่างเพียงพอ เช่น ปืนยิงยาสลบ เครื่องช็อตไฟฟ้า ไม้กระบองตาข่าย หรือสวิงควบคุมสัตว์ เป็นต้น เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าชม
(ง) มีมาตรการตรวจป้องกัน ควบคุม โรคติดต่อที่สามารถแพร่ระบาดจากสัตว์สู่คนและจากคนสู่สัตว์
(จ) มีพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ภายในพื้นที่จัดแสดงสัตว์นั้น
มาตราการสวนสัตว์ เพียงพอแล้วหรือไม่กับการป้องกันเหตุร้าย
หากประเมินตามตัวบทกฎหมายจากข้อมูลดังกล่าวมาตรการที่ระบุไว้ ถือได้ว่าเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งและครอบคลุมประเด็นสำคัญที่จำเป็นต่อความปลอดภัยในสวนสัตว์ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นเต็มไปด้วยปัจจัยที่ไม่คาดคิด ทั้งพฤติกรรมของสัตว์และมนุษย์ มาตรการดังกล่าวอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ อาจมีการเพิ่มข้อกำหนดบางอย่างเข้าไปเพื่อเสริมความปลอดภัยให้มีมากยิ่งขึ้น
- กฎการทำงานเป็นคู่ กฎข้อนี้เป็นข้อกำหนดพื้นฐานของสมาคมสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของสหรัฐอเมริกา ห้ามเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ของสัตว์อันตรายเพียงลำพังโดยเด็ดขาด จะต้องมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 คนเสมอ โดยคนหนึ่งทำหน้าที่หลัก และอีกคนทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ความปลอดภัย คอยจับตาดูตำแหน่งของสัตว์ และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
- จัดการซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าใจบทบาทของตนเองและสามารถประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง โดยมีการจับเวลาและประเมินผล เหมือนกับบ้านเราที่มีการซ้อมหนีไฟอยู่เป็นประจำ
- ดูแลสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากความเครียดและความเหนื่อยล้าสะสม อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความผิดพลาดในการปฏิบัติงานได้
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อได้ว่าหลังจากนี้คงมีการถอดบทเรียน ออกกฎข้อบังคับขึ้นมาใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุสลดใจเกิดขึ้นซ้ำอีก แต่ก็อาจจะต้องทำความเข้าใจด้วยว่าความปลอดภัยคือกระบวนการที่ต้องพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอ อัพเดทให้ทันสถานการณ์ บังคับใช้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดทั้งเจ้าหน้าที่และผู้เข้าชม
ติดตามอ่านบทความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- สิงโตรุมขย้ำ จนท.เสียชีวิต ในสวนสัตว์ดัง กทม.
- อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งสอบสวนเหตุสิงโตสวนสัตว์รุมขย้ำคนเลี้ยง
- ตร.เร่งสอบเหตุสิงโตกัดพนักงานในสวนสัตว์
- "สิงโต" ไม่ใช่สัตว์ป่าที่ทุกคนจะเลี้ยงได้
อ้างอิง
- ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการประกาศราชกิจจานุเบกษา (e-ratchakitcha)