นักวิจัยเปลี่ยนเสาไฟฟ้าริมถนนในเมือง ให้กลายเป็นจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ในเมืองที่ไม่มีที่จอดส่วนตัวให้เข้าถึงแหล่งพลังงานได้ง่ายขึ้น
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต (Penn State University) พัฒนาเทคโนโลยีด้วยการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าริมถนนให้เป็นจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ในเมืองใหญ่ที่ไม่มีที่จอดรถส่วนตัวสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ได้สะดวกขึ้น โดยสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิมให้เกิดประโยชน์กับคนเมืองมากที่สุด
งานวิจัยนี้จัดทำโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต ซึ่งพัฒนาแนวคิดในการนำเสาไฟฟ้าริมถนนที่มีอยู่แล้วในเมืองมาดัดแปลงเป็นจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ระบบสายไฟฟ้าและแหล่งพลังงานเดิมในการจ่ายไฟ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบให้สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานมากนัก ลดทั้งต้นทุนและเวลาในการดำเนินการเมื่อเทียบกับการสร้างสถานีชาร์จแบบใหม่
แนวคิดนี้ตอบโจทย์ปัญหาการใช้งานของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมหรืออาคารชุดซึ่งไม่มีพื้นที่จอดรถส่วนตัว หรือไม่มีจุดชาร์จพลังงานในอาคาร การติดตั้งจุดชาร์จบนเสาไฟฟ้าช่วยให้สามารถชาร์จรถยนต์ได้ในขณะที่จอดริมถนน หรืออยู่ใกล้เสาไฟฟ้าริมถนนที่สะดวกต่อการหยุดจอด เช่น บริเวณที่พักอาศัยหรือสถานที่ทำงาน นักวิจัยระบุถึงการเข้าถึงจุดชาร์จในที่สาธารณะคือปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น
ต้นแบบของระบบนี้ใช้ตู้ควบคุมไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดติดตั้งบนเสาไฟ โดยมีช่องเสียบสำหรับหัวชาร์จมาตรฐาน การออกแบบให้มีขนาดเล็กช่วยลดผลกระทบต่อทัศนียภาพของเมือง และยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบจัดการพลังงานกลางเพื่อควบคุมการใช้งานแบบอัจฉริยะ เช่น การจำกัดเวลา การคิดค่าใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน หรือการบริหารพลังงานตามความต้องการของแต่ละพื้นที่
การจำลองใช้งานในเมืองจริง พบว่าการใช้เสาไฟฟ้าเป็นจุดชาร์จสามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายคันต่อวันโดยไม่กระทบต่อระบบจ่ายไฟหลัก ซึ่งการใช้โครงข่ายไฟฟ้าเดิมยังช่วยลดความซับซ้อนของการติดตั้งและบำรุงรักษา ทั้งยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเพิ่มจำนวนจุดชาร์จได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการของชุมชน
เทคโนโลยีนี้ยังสอดคล้องกับแนวโน้มของเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่มุ่งใช้โครงสร้างพื้นฐานให้เกิดประโยชน์หลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน เสาไฟฟ้าริมถนนซึ่งเดิมใช้เฉพาะให้แสงสว่าง สามารถทำหน้าที่ทั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ติดตามการใช้พลังงานได้ในอนาคต แนวทางดังกล่าวช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่ง และเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
ที่มาข้อมูล: newatlas, psu, techeblog, interestingengineering
ที่มาภาพ: psu
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech




















