พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 กำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์การไว้ดังนี้

สถานะขององค์การ (มาตรา 5)

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเป็นนิติบุคคลเรียกโดย ย่อว่า "ส.ส.ท." และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "Thai Public Broadcasting Service" เรียกโดยย่อว่า "TPBS" ทำหน้าที่เป็นองค์การ สื่อสาธารณะด้านวิทยุ กระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบ ประมาณ แต่ดำเนินการภายใต้ทุน ทรัพย์สิน และรายได้ขององค์การ

วัตถุประสงค์ขององค์การ (มาตรา 7)

องค์การมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. ดำเนินกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่จะสนับสนุนการพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรม บนพื้นฐานของความเป็นไทย โดยผ่านทางบริการข่าวสารที่เที่ยงตรง รอบด้าน สมดุล และซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ
  2. ผลิตรายการทางด้านข่าวสาร สารประโยชน์ทางด้านการศึกษา และสาระบันเทิง ที่มีสัดส่วนอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพสูง เน้นความหลากหลายในมิติต่าง ๆ โดยมุ่งดำเนินการอย่างปราศจากอคติทางการเมืองและผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ และยึดถือผลประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ
  3. ส่งเสริมให้ความรู้แก่ประชาชนให้ก้าวหน้าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อประโยชน์ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นผ่านทางการให้บริการข่าวสารและสารประโยชน์อื่น
  4. ส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารเพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนได้รับข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน
  5. สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อมในการกำหนดทิศทางการให้บริการขององค์การเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  6. สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์อื่น

การดำเนินการตาม (2) (3) (4) และ (5) ให้คำนึงถึงการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมของประชาชน

อำนาจตามหลักกฏหมาย (มาตรา 8)

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 7 ให้องค์การมีอำนาจหน้าที่หลัก ดังต่อไปนี้

  • จัดให้มีสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ หรือเผยแพร่รายการในระบบอื่น หรือเทคโนโลยีทันสมัยอื่น โดยมีเครือข่ายให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศหรือให้มีสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์เพิ่มเติมเป็นเครือข่าย ไม่เก็บค่าสมาชิกและไม่หารายได้จากการโฆษณา เว้นแต่เป็นการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนองค์การ
  • ให้บริการผลิตสื่อโสตทัศน์ หรือบริการระบบเครือข่ายสารสนเทศอื่น หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่รายการ
  • ให้การสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพและการสร้างสรรค์การผลิตรายการของผู้ผลิตรายการอิสระ
  • ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรภาคเอกชน ชุมชน หรือหน่วยงานต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ หรือสถานีวิทยุหรือสถานีโทรทัศน์ขององค์การสื่อสารสาธารณะของต่างประเทศ ในการผลิตรายการอันเป็นการส่งเสริมความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะหรือสร้างความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกัน
  • กระทำการอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับหรือเนื่องในการจัดการให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์การ

อำนาจการดำเนินการ (มาตรา 9)

นอกจากอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 8 ยังให้องค์การมีอำนาจทำกิจการ ดังต่อไปนี้ด้วย

  • ถือกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สิน
  • ก่อตั้งสิทธิ หรือกระทำนิติกรรมใด ๆ ทั้งในและนอกราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขององค์การ
  • เข้าร่วมทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในกิจการที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ขององค์การ
  • เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าบริการ หรือค่าตอบแทนอื่นใดในการให้บริการ
  • ดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นหรือต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ

อำนาจด้านการเงิน (มาตรา 12)

องค์การมีรายได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

  • เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา 57
  • เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสมเป็นรายปี
  • เงินบำรุงองค์การที่จัดเก็บจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละหนึ่งจุดห้าของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบ ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต แล้วส่งเข้าเป็นเงินบำรุงองค์การ ทั้งนี้ ไม่เกินปีละสองพันล้านบาท
  • รายได้จากการโฆษณาหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากการประกอบกิจการตามมาตรา 8
  • รายได้หรือการหาประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การ
  • ดอกผลของเงินหรือรายได้จากทรัพย์สินขององค์การ
  • รายได้อื่นตามที่กฎหมายกำหนด

รายได้ขององค์การตามวรรคหนึ่ง ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

อำนาจคณะกรรมการนโยบาย (มาตรา 28)

คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

  1. กำหนดนโยบายโดยทั่วไปขององค์การ
  2. คุ้มครองรักษาความเป็นอิสระของคณะกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ และพนักงาน ให้ปลอดจากการแทรกแซงใด ๆ
  3. ส่งเสริมให้ความรู้แก่ประชาชนให้ก้าวหน้าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อประโยชน์ทั้งระดับชาติและระดับท้อง ถิ่นผ่านทางการ ให้บริการข่าวสารและสารประโยชน์อื่น
  4. ส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสาร เพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนได้รับข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน
  5. ควบคุมการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารให้เป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย
  6. กำหนดให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพของรายการ
  7. กำหนดข้อบังคับด้านจริยธรรมของกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ ผู้บริหารขององค์การ พนักงานและลูกจ้างขององค์การและบทลงโทษ
  8. กำกับดูแลเพื่อให้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและคำติชม ตลอดจนข้อร้องเรียนของประชาชนต่อองค์การได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว
  9. กำหนดระเบียบกลางเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การงบประมาณและทรัพย์สิน การมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหารดำเนินการต่าง ๆ และการดำเนินกิจการโดยทั่วไป
  10. แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารตามมาตรา 29
  11. แต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการตามมาตรา 31
  12. กำหนดค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการตามมาตรา 37
  13. กำหนดข้อบังคับด้านจริยธรรมของวิชาชีพเกี่ยวกับการผลิตและการเผยแพร่รายการขององค์การตามมาตรา 42
  14. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนตามมาตรา 46
  15. จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา และเผยแพร่ต่อสาธารณชนตามมาตรา 52
  16. ปฏิบัติการอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น

อำนาจคณะกรรมการบริหาร (มาตรา 29)

องค์การมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. ดำเนินการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ที่จะสนับสนุนการพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรม บนพื้นฐานของความ เป็นไทย โดยผ่านทางบริการข่าวสาร ที่เที่ยงตรง รอบด้าน สมดุล และซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ
  2. ผลิตรายการทางด้านข่าวสาร สารประโยชน์ทางด้านการศึกษา และสาระบันเทิง ที่มีสัดส่วนอย่างเหมาะสม และมีคุณภาพสูง เน้นความหลากหลายในมิติต่าง ๆ โดยมุ่งดำเนินการอย่างปราศจากอคติทางการเมืองและ ผลประโยชน์เชิงพาณิชย์และยึดถือผลประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ
  3. ส่งเสริมให้ความรู้แก่ประชาชนให้ก้าวหน้าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อประโยชน์ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นผ่านทางการให้บริการข่าวสารและสารประโยชน์อื่น
  4. ส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสาร เพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนได้รับข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน
  5. สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ในการกำหนดทิศทางการให้บริการขององค์การเพื่อประโยชน์สาธารณะ

การดำเนินการตาม (2) (3) (4) และ (5) ให้คำนึงถึงการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ของประชาชน

อำนาจผู้อำนวยการส.ส.ท. (มาตรา 32, 38, 39)

องค์การมีรายได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

  • เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา 57
  • เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสมเป็นรายปี
  • เงินบำรุงองค์การที่จัดเก็บจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละหนึ่งจุดห้าของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบ ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต แล้วส่งเข้าเป็นเงินบำรุงองค์การ ทั้งนี้ ไม่เกินปีละสองพันล้านบาท
  • รายได้จากการโฆษณาหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากการประกอบกิจการตามมาตรา 8
  • รายได้หรือการหาประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การ
  • ดอกผลของเงินหรือรายได้จากทรัพย์สินขององค์การ
  • รายได้อื่นตามที่กฎหมายกำหนด

รายได้ขององค์การตามวรรคหนึ่ง ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน