เว็บในเครือ
ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2551 โดย พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียง และแพร่ภาพ สาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ในฐานะองค์การสื่อสาธารณะ ที่ไม่แสวงผลกำไร แห่งแรกของประเทศไทยเพื่อดำเนินการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่สนับสนุนการพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรมบนพื้นฐาน ของความเป็นไทยโดยผ่านทางบริการ ข่าวสารที่เที่ยงตรง รอบด้าน สมดุล และซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ
ความเป็นอิสระและความเป็นสาธารณะของไทยพีบีเอสได้รับการรองรับภายใต้ พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย โดยมีคณะกรรมการนโยบาย ที่ผ่านการสรรหาโดยกระบวนการที่เป็นอิสระและโปร่งใสเป็นผู้กำหนดนโยบายและควบคุมการดำเนินงานของผู้อำนวยการและคณะกรรมการบริหารองค์การฯ ส.ส.ท. มีรายได้จากภาษีสรรพสามิตที่เก็บจากสุราและยาสูบ โดยมีรายได้สูงสุดปีงบประมาณละไม่เกิน 2,000 ล้านบาท
ก้าวแรกที่มั่นคง สู่สังคมคุณภาพ
31 ตุลาคม พ.ศ. 2550 สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติ 106 ต่อ 44 เสียง เห็นชอบพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 เพื่อจัดตั้งสถานีโทรทัศน์สาธารณะแห่งแรกของไทย โดยได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศใช้พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงฯ ในวันที่ 14 มกราคม 2551 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคม 2551
2550
2551
นับหนึ่งทีวีสาธารณะ
สื่อที่ทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของ
15 มกราคม พ.ศ. 2551 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพ สาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai Public Broadcasting Service) หรือ ส.ส.ท. ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในฐานะองค์การ สื่อสาธารณะที่ไม่แสวงผล กำไรแห่งแรกของไทยโดยมีเป้าหมายที่ จะเป็นสถานีโทรทัศน์รายงานข่าวที่เที่ยงตรง รอบด้าน เสนอ รายการที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามข้อบังคับด้านจริยธรรม ขององค์การ ยึดถือประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้ง
สะท้อนสังคม
จากมุมมองของประชาชน
สื่อสาธารณะให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับเสียงของประชาชนจากทุกภาคส่วน ไทยพีบีเอสจึงได้ออกแบบรายการที่หลากหลาย พร้อมเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากความเป็นสื่อสาธารณะ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการแก้ไขปัญหาสังคม เป็นที่พึ่งของประชาชน สร้างการรับรู้เป็นวงกว้าง จนนำไปสู่แนวทาง ในการแก้ไขปัญหา พร้อมขยายช่องทางสร้างการรับรู้ ผ่านสื่อ สังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น Facebook, YouTube, Twitter ผ่านชื่อบัญชี Thai PBS อย่างเป็นทางการ
2552
2553
ฝ่าวิกฤตการเมืองไทย
เปิดเวทีร่วมหาทางออกให้ประเทศ
ช่วงวิกฤตการเมือง ปี พ.ศ.2553 นอกจากการรายงานข่าวจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว ไทยพีบีเอสให้ความสำคัญกับการเปิดเวทีให้กับคู่ขัดแย้งและภาคส่วนต่าง ๆ เป็นตัวกลางในการพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ควบคู่ไปกับการนำเสนอข่าวอย่างรอบด้าน เที่ยงตรง และสมดุล โดยได้ยกเลิกผังรายการปกติและเพิ่มรายการพิเศษ “ฝ่าวิกฤตการเมืองไทย” เพื่อให้เป็นเวทีสะท้อนสถานการณ์อย่างรอบด้าน
ฝ่าวิกฤตน้ำท่วมไปด้วยกัน
เกิดวิกฤตนึกถึงไทยพีบีเอส
ภาวะวิกฤตเป็นห้วงเวลาที่ข้อมูลข่าวสารมีความหมายมากที่สุด ไทยพีบีเอสรายงานข่าวน้ำท่วมแบบเจาะลึก ผ่านรายการเฉพาะกิจ “ฝ่าวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ไปด้วยกัน” ออกอากาศ 24 ชั่วโมง เน้นการเตือนภัยที่มีความรวดเร็ว ทันสถานการณ์ เป็นแหล่งข้อมูลและศูนย์กลางประสานการช่วยเหลือ ทำให้ผู้ประสบภัยสามารถรับมือได้อย่างมีสติ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการทำหน้าที่ในฐานะเพื่อนของประชาชน ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้อัตราการเติบโตของสมาชิก Facebook เพิ่มสูงขึ้น 462% ส่วน Twitter เพิ่มสูงขึ้นถึง 531%
2554
2555
ก้าวสู่การยอมรับ ในระดับสากล
ข่าวและรายการเป็นที่ยอมรับและเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมีการนำเสนอเนื้อหาหรือประเด็นที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลง และความตื่นตัวให้กับสังคมไทย จนทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไข เช่น คดีทุจริตตรวจรับจำนำข้าว พร้อมส่งสัญญาณภาพโทรทัศน์ในระบบ HD ที่สมบูรณ์ที่สุดเป็นสถานีแรกของประเทศไทย รวมไปถึงการได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยการเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดด้านสื่อสารมวลชนแห่งเอเชีย Asia Media Summit: AMS 2012 17 กรกฎาคม 2555 : สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำ เนินมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสำนักงานใหญ่ไทยพีบีเอส ในโอกาสนี้ ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ความเป็นมา ของไทยพีบีเอส และทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย ชื่ออาคารสำนักงานใหญ่
ทีวีดิจิทัล
พลิกโฉมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทย
ไทยพีบีเอสพลิกโฉมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทย เตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล วางแผนขยายโครงข่ายเพื่อให้บริการครอบคลุมจำนวนร้อยละ 98.39 ของจำนวนครัวเรือนภายใน 4 ปี มีสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ในโครงข่ายรวมทั้งสิ้น 180 สถานี พร้อมได้รับใบอนุญาตการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกระจายเสียงหรือโทรทัศน์เป็นระยะเวลา 15 ปี
2556
2557
ยืนยัดหลักการ สื่อสาธารณะ
สถานการณ์การเมืองภายในประเทศกำลังร้อนระอุ โดยในวันที่มีการประกาศรัฐประหาร 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ได้มีคำสั่งให้ยุติการออกรายการทุกสถานี ให้มีเพียงการถ่ายทอดสดการออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติเท่านั้น ไทยพีบีเอสได้ใช้ช่องทางออนไลน์จัดรายการพิเศษเพื่อรายงานสถานการณ์ทางการเมือง “ฝ่าวิกฤตการเมืองไทย” ถ่ายทอดออกอากาศผ่านทาง YouTube เพื่อยืนหยัดในหลักการสื่อสาธารณะ ที่ประชาชนทุกคนต่างมีสิทธิและเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารอย่างเท่าเทียม
สื่อเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ไทยพีบีเอสนำเสนอข่าวที่มุงผลประโยชน์สาธารณะประเด็นปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น การนำเสนอผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จ.พิษณุโลก และ จ.พิจิตร ที่ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องย้ายออกจากพื้นที่ ประสบภาวะล้มป่วยและเสียชีวิตโดยมีทราบสาเหตุ กระตุ้นให้สาธารณะชนตระหนักถึงการถูกละเมิดสิทธิจนเกิดการรวบรวมรายชื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรี จนนำไปสู่การปิดเหมืองแร่ จากกรณีดังกล่าวศูนย์บริการวิชาการแห้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ประเมินการนำเสนอข่าวนี้ว่ามีมูลค่าทางสังคมเป็นอย่างมาก
2558
2559
สนับสนุนสังคมประชาธิปไตย
ปรับผังรายการนำเสนอรายการพิเศษ “สาระประชามติ ลงประชามติรัฐธรรมนูญ 2559” เนื่องจากเป็นช่วงสำคัญที่ประชาชนต้องตัดสินใจ เน้นเจาะลึกทุกมุมมองที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญ สร้างการรับรู้ กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว พร้อมนำเสนอข้อมูลเชื่อมโยงกับช่องทางสื่อออนไลน์ ส่งผลให้ผู้ชมติด Hashtag Thai PBS บน Facebook กลายเป็นยอดการค้นหาอันดับ 1 ได้รับความคิดเห็นในเชิงบวกในด้านการนำเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมและการนำเสนออย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดให้บริการ LINE Official Account @ThaiPBS ขยายช่องทางการรับรู้
แสงจากพ่อสู่ความยั่งยืน
เปลี่ยนความสูญเสียเป็นพลังทางสังคม โดยนำเสนอวาระ ”แสงจากพ่อสู่ความยั่งยืน” เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาสื่อสารผลักดันให้คนในสังคมเกิดการปฏิบัติ เพื่อเป็นพลังและสร้างแรงบันดาลใจก้าวเดินตามรอยเส้นทางแห่งคุณความดี นอกจากนี้ยังมีเริ่มใช้ Facebook LIVE API รายการ “ข่าวเที่ยง” สดผ่านทางหน้าจอ Facebook เป็นครั้งแรก รวมไปถึงออกอากาศในระบบดิจิทัลภาคพื้นดินครบ 168 สถานีทั่วประเทศ ครอบคลุมร้อยละ 95 ของจำนวนครัวเรือน
2560
2561
แตกต่างบนความยั่งยืน
More information, More Screen ในยามวิกฤตคนต้องการข้อเท็จจริงมากกว่าความเร็ว คือ แนวทางที่ไทยพีบีเอสสื่อสารเพื่อเกาะติดสถานการณ์ 13 นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย จากแนวทางดังกล่าวไทยพีบีเอสจึงไม่ได้ทำเพียงแค่รายงานข่าว แต่ร่วมมือกับทุกหน่วยงาน หาทางช่วยเหลือ สร้างเป็น One Team พร้อมออกอากาศทั้งทางโทรทัศน์และทางออนไลน์ต่อเนื่อง 18 วัน นำเสนอเรื่องราวรอบด้านจากทุกแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ เพื่อช่วยวิเคราะห์คาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า ทำหน้าที่ด้านการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายคือ 13 ชีวิตต้องรอดปลอดภัย จนได้รับการจัดอันดับในสังคมออนไลน์ว่าเป็นสถานีโทรทัศน์ที่รายงานข่าวถ้ำหลวงได้ดีที่สุด
ส่งเสียงประชาชน...
ให้เสียงประชาชนไปไกลกว่าการเลือกตั้ง
ในวาระสำคัญระดับประเทศ ไทยพีบีเอสได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการวาระเลือกตั้ง 62 โดยร่วมมือกับภาคีสื่อสาธารณะ 9 องค์กร ทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง รวบรวมและขยายเสียงของประชาชนส่งต่อไปให้ถึงพรรคการเมืองในการกำหนดนโยบาย ด้วยการเปิดพื้นที่ฟังเสียงประชาชนทั้งในภูมิภาคและส่วนกลาง พร้อมยกพื้นที่หน้าจอโทรทัศน์และพื้นที่สื่อออนไลน์ทั้งหมดให้กับการรายงานข่าวเลือกตั้งถ่ายทอดสดตั้งแต่ก่อนเปิดหีบจนถึงนับคะแนนเสร็จ และรายงานผลการนับคะแนนแบบ real time ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ทางเลือกต่าง ๆ ของการจับขั้วพรรคการเมือง เกาะติดสถานการณ์ต่อเนื่องมาจนถึงการจัดตั้งรัฐบาลและการจัดทำนโยบาย
2562
2563
รู้สู้ภัยโควิด-19
ไทยพีบีเอสปรับผังรายการเกือบ 100% เปิดเว็บไซต์พิเศษ เพื่อเกาะติดวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในทุกมิติ มุ่งนำเสนอข่าวสารที่ครอบคลุมทั้งสถานการณ์ความรู้ความเข้าใจเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และมาตรการทางสาธารณสุขที่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ นำเสนอทิศทางเพื่อร่วมนำประเทศให้พ้นจากวิกฤต นอกจากนี้เพื่อช่วยหาทางออกให้กับคนไทยที่ต้องตกงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ผ่านรายการใหม่ ยอดคนมหางาน รายการที่เปิดพื้นที่ให้คนหางานกับงานที่หาคนมาเจอกันและช่วยแก้ไขปัญหา เป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับอาชีพและธุรกิจ พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจดีๆ จากบุคคลในแขนงต่างๆ เพื่อต่อยอดสู่การอยู่รอดอย่างยั่งยืน
จุดประกายความคิด
และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตผ่านละคร
ไทยพีบีเอสมีความมุ่งมั่นผลิตละครสะท้อนสังคมเพื่อส่งความบันเทิงให้ผู้ชมพร้อมไปกับการบันทึกภาพเหตุการณ์ของสังคมในแต่ละมิติ รวมทั้งสื่อสารแง่คิด การใช้ชีวิต การสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม และสร้างอนาคตของสังคม เช่น ละครเรื่อง จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี ละครพีเรียดที่ว่าด้วยเรื่องราวของคนตัวเล็ก ๆ ที่แทบไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ คนไทยที่ถูกกวาดต้อนไปอยู่ที่ประเทศพม่า ในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2 มีการเล่าเรื่องที่จุดประกายให้ผู้ชมอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดความรู้ และมอบมุมมองใหม่ให้กับผู้ชม จนได้รับรางวัลไปกว่า 10 รางวัลจาก 5 เวที ซึ่งนับว่าเป็นการการันตีถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพเผยแพร่สู่สังคม
2564
2565
ให้ความสำคัญกับทุกความคิดเห็น คำนึงถึงพฤติกรรม และรสนิยมของผู้ชม
ไทยพีบีเอสนำเสนอเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ของสื่อสาธารณะ โดยให้ความสำคัญกับประชากรทุกกลุ่ม จึงออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการโดยคำนึงถึงพฤติกรรมและรสนิยมผู้ชม โดยมีเครื่องมือพัฒนาเนื้อหาในหลากหลายรูปแบบ เช่น Media Lab การประเมินรายการจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ชมรายการการสำรวจพฤติกรรมการรับชม และกลไกรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เป็นต้น หากมีความผิดพลาดจากการเสนอเนื้อหาจะมีการแก้ไขอย่างทันเวลา จนได้รับการยอมรับจากประชาชนในการทำหน้าที่สื่อสาธารณะ โดยผลสำรวจของ “สถาบันรอยเตอร์” ในปี 2564 และ 2565 ระบุว่า ไทยพีบีเอสเป็นแบรนด์สื่อที่ได้รับความเชื่อถือเป็นอันดับ 1 ของไทยติดต่อกันถึง 2 ปี
การสื่อข่าวสาร
เพื่อหาทางออกให้สังคม
ไทยพีบีเอสจัดแคมเปญ “เลือกตั้ง 66 เลือกอนาคตประเทศไทย” สื่อสารผ่านรายการข่าว รายการพิเศษในช่วงวาระการเลือกตั้งและครอบคลุมไปถึงหลังการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลในทุกช่องทางสื่อ โดยให้ความสำคัญกับการเปิดพื้นที่สื่ออย่างสร้างสรรค์ มีการนำเสนอนโยบายพรรคการเมือง คิดเป็นร้อยละ 52.01 ของเนื้อหาการเลือกตั้งทั้งหมด และนำเสนอข้อเสนอจากประชาชน คิดเป็นร้อยละ 47.99 ได้รับคิดเห็นจากผู้ชมในเชิงบวก ในการเป็นพื้นที่สื่อสร้างสรรค์และให้ความเท่าเทียมกับประชาชนผ่านการร่วมแสดงความคิดเห็น และมีการให้ข้อเท็จจริงตรงประเด็น แม่นยำ รวมไปถึงสามารถทำข่าววิเคราะห์ได้เข้าใจง่าย เป็นการให้ข้อมูลความรู้แก่ประชาชนเพื่อประกอบการตัดสินใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส่งผลให้ภาพรวมทุกดิจิทัลแพลตฟอร์มมีอัตราเติบโตสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการติดตามผลคะแนนในวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ทางเว็บไซต์ www.thaipbs.or.th มีการเข้าชมในวันดังกล่าวถึง 21,800,000 Views (จากค่าเฉลี่ยปกติอยู่ที่วันละ 150,000-200,000 Views) ขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ของเว็บไซต์ของประเทศไทยในวันดังกล่าวจากการจัดอันดับของ Truehits นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการเว็บไซต์ไทยพีบีเอสในปี 2551
2566
2567
สร้างเสริมระบบนิเวศสื่อ
ไทยพีบีเอสยังมีบทบาทมากกว่าการเป็นสถานีโทรทัศน์ แต่เป็นองค์กรสื่อในการพัฒนาสังคม สนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศสื่อที่สำคัญ 4 ด้าน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่มีคุณภาพ เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีส่วนร่วม ในการเปลี่ยนแปลงสังคมผ่านสื่อยุคดิจิทัล ประกอบด้วย ระบบนิเวศสื่อด้านข่าว ผลิตและเผยแพร่ข่าวที่เที่ยงตรง น่าเชื่อถือ และรอบด้าน ส่งเสริมการรายงานเชิงลึกและวารสารศาสตร์เพื่อการหาทางออก (Solution Journalism) ระบบนิเวศสื่อด้านการเรียนรู้ ผลิตและเผยแพร่เนื้อหาด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต ใช้สื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษา ระบบนิเวศสื่อด้านสื่อดิจิทัล ขยายบทบาทจากการเป็นสถานีโทรทัศน์สู่การพัฒนาแพลตฟอร์ม OTT ชื่อ VIPA เพื่อคัดสรรเนื้อหาที่มีคุณภาพตามแนวคิดสื่อสาธารณะให้กับผู้ชมทางด้านออนไลน์ ระบบนิเวศสื่อด้านเสริมสร้างพลังพลเมือง เปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสื่อสารและแสดงความคิดเห็น สนับสนุนผู้ผลิตสื่อพลเมืองและสื่อชุุมชนให้เกิดการรายงานข่าวจากฐานรากในรูปแบบนักข่าวพลเมือง
