ไทยพีบีเอส ระดมความคิด ร่วมพัฒนารายการ
ไทยพีบีเอสเปิดประเด็นแลกเปลี่ยน ระดมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด สื่อสารดิจิทัล และ สส.-สว หาแนวทางร่วมพัฒนารายการไทยพีบีเอส มุ่งใช้ Data Analytic และ Customer Centric Approach สร้างกลยุทธ์ พร้อมจับมือเครือข่ายร่วมขยายพื้นที่สำหรับเนื้อหารายการเพื่อสาธารณประโยชน์
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 67 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท) หรือ ไทยพีบีเอส จัดระดมความคิดเรื่อง “รายการดี ต้องมีคนดู” เพื่อร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็น ที่สืบเนื่องจากสมาชิกรัฐสภาได้ให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ไว้ว่ารายการของไทยพีบีเอส เป็นรายการที่ดี มีคุณภาพ แต่ไม่มีคนดู หรือคนดูน้อย
โดยมีกรรมการนโยบาย นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธานกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. กรรมการบริหาร นำโดยรองศาสตราจารย์ ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คณะผู้บริหาร ส.ส.ท.
พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคการเมือง ซึ่งเป็นผู้ที่ได้เคยอภิปรายการดำเนินงานของไทยพีบีเอสในที่ประชุมสภาไว้ และตอบรับมาร่วมการเสวนา ได้แก่ นายพิศาล มาณวพัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และโฆษกพรรคก้าวไกล, นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล, นางสาวสิริลภัส กองตระการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล และนายเกียรติคุณ ต้นยาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล
รวมถึงผู้เข้าร่วมระดมความคิดจากภาคการตลาด ได้แก่ นายแดน ศรมณี ที่ปรึกษาเรื่องแบรนด์ บริษัท Brandology จำกัด, นายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด, นายรติ พันธุ์ทวี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และนายธนวัฒน์ มีสวัสดิ์ รองนายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ฝ่ายประสานงานภาครัฐ และมีนายเทพชัย หย่อง ผู้เชี่ยวชาญ ส.ส.ท. เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
ผู้ร่วมเสวนาจากภาคการเมืองให้คำยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่า ต้องการสนับสนุนให้ไทยพีบีเอสยึดมั่น ในหลักการแบบสื่อสาธารณะตามที่ได้ทำมาตลอดนี้ คือ การรักษาความเป็นอิสระเพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ประชาชน และการไม่ปล่อยให้กลไกตลาดทำให้เรื่องที่เป็นประโยชน์แต่ไม่สนองตอบตลาด (Underserve) หายไปจากพื้นที่สื่อ เช่น สารคดีความรู้ เรื่องของคนไร้สิทธิไร้เสียง พื้นที่ดีเบตที่เป็นกลางทางการเมือง เป็นต้น สื่อสาธารณะจึงไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับสื่อพาณิชย์อื่น ๆ แต่จะต้องช่วยส่งเสริม ผลักดันให้ระบบนิเวศแบบสื่อสาธารณะขยายกว้างขึ้น ทั้งในด้านคนดู และผู้ผลิตสื่ออื่น ๆ
ด้านผู้เชี่ยวชาญการตลาดของสื่อ ต่างเห็นว่า ไทยพีบีเอสได้พัฒนาเนื้อหา (Content) และช่องทางการเข้าถึง (Platform) ไปสู่ผู้ชมในยุคดิจิทัลได้ค่อนข้างดีแล้ว ดูได้จากจำนวนผู้เข้าชมและมีส่วนร่วมในสื่อดิจิทัลออนไลน์ทุกประเภทของไทยพีบีเอสที่มีจำนวนสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่อาจจะยังวัดผลความนิยมไม่ตรงจุด ทำให้กลายเป็นว่า “รายการดี ไม่มีคนดู” เป็นต้น
วงเสวนาได้ร่วมกันให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และสอดคล้องกับหลักการคุณค่าของสื่อสาธารณะ สรุปได้เป็น 2 ประเด็นใหญ่ ๆ คือ คำแนะนำด้านการวางกลยุทธ์ และ คำแนะนำด้านการพัฒนารูปแบบ อาทิ
- ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) เข้ามาช่วย กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ใช้กลยุทธ์ Customer-Centric-Approach เพื่อสร้างเนื้อหาให้เข้าถึงผู้ชมอย่างถูกกลุ่ม ถูกที่ ถูกเวลา
- ต่อยอดจากจุดแข็งของไทยพีบีเอสที่ได้รับการยอมรับอยู่แล้ว เช่น ความน่าเชื่อถือ ความเป็นกลาง สื่อสร้างความรู้ สื่อสำหรับเด็กและครอบครัว สื่อพลเมือง ฯลฯ เพื่อขยายให้เติบโตขึ้น และร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงสื่ออื่น ๆ ในอุตสาหกรรมนี้
- การเพิ่มมูลค่าของแบรนด์สื่อสาธารณะ
- กำหนดเป้าหมายและใช้เครื่องมือการวัดผลที่เหมาะสม ชัดเจน
- พัฒนาวิธีการเล่าเรื่อง (Story Telling) และ บุคลิกของสื่อ (Personality) ให้เข้ากับพฤติกรรมและความสนใจของผู้ชมกลุ่มเป้าหมายที่แยกย่อย หลากหลายกลุ่มวัย ด้วยรูปแบบและกลยุทธ์ที่ต้องพร้อมปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ
หลังจากนี้ ไทยพีบีเอสจะรวบรวมเอาทุกคำแนะนำ ทุกความคิดเห็น ที่ได้รับไปปรับปรุง พัฒนา ต่อยอด รวมถึงการชักชวนภาคีสื่อ และเครือข่ายพันธมิตรอื่น ๆ ร่วมกันขยายพื้นที่สำหรับสร้างสรรค์เนื้อหารายการ คุณภาพที่ตรงใจผู้ชม และขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะ
สามารถติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่
▪ Social Media Thai PBS : Facebook, YouTube, X , LINE, TikTok, Instagram, Threads
▪ Website : www.thaipbs.or.th
▪ Application : Thai PBS
