จบไปแล้ว !! งานอีเวนต์โคตรไทย Empower THAINESS “ความเป็นไทย” ทำไงให้จึ้ง

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา Thai PBS ร่วมกับ BrandThink และมิวเซียมสยาม จัดอีเวนต์สุดพิเศษที่จะพาทุกคนไปหาคำตอบว่า ‘อะไรคือไทยแท้’ และเราจะสามารถทำอย่างไร ให้ความเป็นไทยกลายเป็นทุนทางวัฒนธรรม และกลายเป็น Soft Power ได้ในที่สุด

บรรยากาศภายในงานคึกคักไปด้วยผู้เข้าร่วมงานมากมาย ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ที่ให้ความสนใจในเรื่องของความเป็นไทยผ่านนิทรรศการ และได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมแต่ละบูธ พร้อมรับของรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไป ทั้งกิจกรรมการเสี่ยงเซียมซี เพื่อพาทุกคนเข้าใจกลุ่มชาติพันธุ์ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากขึ้น

ภายในงานยังมีกิจกรรมร่วมโหวตความเป็นไทยที่คนส่วนใหญ่ ต้องการที่จะผลักดันให้กลายเป็น Soft Power โดยมีผู้ร่วมโหวตในกลุ่มของ “อาหาร (Food)” มากที่สุด รองลงมาเป็น “เทศกาลและประเพณีไทย (Festival)” และ “ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting)” ตามลำดับ

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้ร่วมรับฟังเสวนา “โคตรไทย โคตรทอล์ค” กับ Session แรก ที่พาไปแลกเปลี่ยนมุมมองกับตัวแทนสื่อชั้นนำ ที่เป็นแนวหน้าในการสื่อสารความเป็นไทยผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ สมยศ เกียรติอร่ามกุล รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ด้านสร้างสรรค์และหลอมรวมเนื้อหา, กนกพร ประสิทธิ์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส และผู้บริหาร Platform VIPA และ สุขุมาล ผดุงศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ มิวเซียมสยาม โดยมี จักรพันธุ์ ขวัญมงคล บรรณาธิการ จาก BrandThink ที่มาทำหน้าพิธีกรร่วมพูดคุยกับเหล่า Guest Speaker ไปพร้อมกัน

เมื่อถามว่า ความเป็นไทยคืออะไร “สุขุมาล ผดุงศิลป์” ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ มิวเซียมสยาม กล่าวว่า ความเป็นไทยคือความหลากหลาย ทั้งทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ และชาติพันธุ์ ซึ่งสื่อก็เป็นอีกฟันเฟืองเพื่อกระตุ้นและปลูกฝังทุนทางวัฒนธรรม

เช่นเดียวกับ “สมยศ เกียรติอร่ามกุล” รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ด้านสร้างสรรค์และหลอมรวมเนื้อหา เสริมว่า โลกสมัยใหม่นั้นสนับสนุนให้คนเกิดกระบวนการเรียนรู้มากขึ้น ปัจจุบันมีการตั้งทฤษฎีมากมาย ซึ่งทุกทฤษฎีมีความเป็นไปได้ทั้งหมด จนสุดท้ายแล้ว เราก็พบว่า ความหลากหลายนั่นเองคือความเป็นไทย

ส่วนในมุมมองของโลกดิจิทัล “กนกพร ประสิทธิ์ผล” ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส และผู้บริหาร Platform VIPA พบว่า ความเป็นไทยไม่ได้จางหายเมื่อมีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น แต่ยังทำให้เกิดการนำเสนอความเป็นไทยจากผู้คนหลากหลายยิ่งขึ้นไปอีกในที่สุด

ทั้งหมดนี้จึงเป็นการเน้นย้ำว่า การสื่อสารความเป็นไทยในขณะนี้คือการให้คุณค่าของความหลากหลาย ทั้งที่เป็นศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ค่านิยม และโลกสมัยใหม่ยังมีส่วนสนับสนุนให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ ในกระบวนการสื่อสารความเป็นไทยมากขึ้น

สำหรับ Session 2 ที่จะพาไปร่วมรับฟังไอเดีย และมุมมองที่น่าสนใจจากตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการ กับการพาความเป็นไทยไปจึ้งไกลทั้งในและนอกประเทศ กับ ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์ สถาปนิก, บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับภาพยนตร์ และ พิมพ์พยัพ ศรีกาญจนา ผู้บริหารเครือ Narathai Cuisine โดยมี กตัญญู สว่างศรี นักเขียน นักคิด ครีเอเตอร์สายสร้างสรรค์ รับหน้าที่เป็นพิธีกรสุดพิเศษใน Session นี้ พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างสนุกสนานเป็นกันเองกับการพาความเป็นไทยให้กลายเป็น Soft Power แถมท้ายที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมในไลฟ์ได้ส่งคำถามสุดหินมาให้ผู้ร่วมเวทีได้ตอบด้วย

ส่วนมุมมองที่น่าสนใจสำหรับการพาความเป็นไทยไป Soft Power นอกเหนือจากการอนุรักษ์แล้วตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการ ยังระบุตรงกันว่า คือ การพัฒนาและเปลื่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามบริบทของสังคมไทย “ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์” สถาปนิก ย้ำว่า ความเป็นไทยต้องถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ในแง่การออกแบบอาคารที่มีการพัฒนาจากภูมิปัญญาพื้นถิ่นให้ดียิ่งขึ้นตามยุคสมัย

เช่นเดียวกับ “พิมพ์พยัพ ศรีกาญจนา” ผู้บริหารเครือ Narathai Cuisine ระบุว่า เหตุที่คนไทยยังชอบที่จะมารับประทานที่ร้านอยู่ เพราะที่มีความคิดที่ไม่ใช่ไทยดั้งเดิม เราพบว่าสังคมไทยตอนนี้ไม่ใช่ การกินอาหารแบบรสมือแม่อีกแล้ว แต่อาจเป็นหมูกระทะแบบเพื่อนฝูง ซึ่งก็ต่างเป็นความเป็นไทยเช่นกัน

ขณะที่ “บรรจง ปิสัญธนะกูล” ผู้กำกับภาพยนตร์ เสริมว่า ส่วนสำคัญอีกอย่างคือ ความต่อเนื่องในการนำเสนอสิ่งที่ตั้งใจให้เป็น Soft Power เช่นที่เคยมีภาพยนตร์เป็นที่นิยมในประเทศจีน มีฉากดื่มนมเย็น-นมชมพู ก็ทำให้เครื่องดื่มนี้เป็นที่นิยมในช่วงข้ามคืน ซึ่งหากต้องการให้เป็น Soft Power ตนเห็นว่าต้องมีความต่อเนื่องจากอีกหลาย ๆ ภาคส่วนมาช่วยกันด้วยจึงจะสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ

ปิดท้ายด้วยไฮไลต์ของงานที่ชวนย้อนอดีต ไปสัมผัสกับบรรยากาศในยามค่ำคืน กับหนังกลางแปลง เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย (2498)” ที่มีผู้คนทุกช่วงวัย ทั้งเด็ก นักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ได้ให้ความสนใจ มาร่วมสัมผัสบรรยากาศไทย ๆ นั่งชมหนังกลางแปลงไปด้วยกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ณ สนามหญ้าลานอัฒจันทร์ที่มิวเซียมสยาม

ทุกท่านสามารถติดตามรับชม “โคตรไทย โคตรทอล์ก” ทั้ง 2 Session ในงานโคตรไทย Empower THAINESS “ความเป็นไทย” ทำไงให้จึ้ง ย้อนหลังได้ทาง FACEBOOK FANPAGE : VIPA | สาระดี Thai PBS | BrandThink

และชวนเข้าใจ ‘ความเป็นไทย’ ในมิติทางสังคมกันให้มากยิ่งขึ้น จากการตั้งคำถาม มุมมอง ความคิดเห็น ข้อมูลที่แตกต่าง หลากหลาย ของผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ บุคคลที่น่าสนใจ ที่ www.thaipbs.or.th/CodeThaiCampaign และติดตามรับชมเนื้อหา “โคตรไทย” เพิ่มเติมได้ทาง www.VIPA.me