การทำเกษตรในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำนาหรือปลูกพืชดั้งเดิมอีกต่อไป หลายชุมชนได้ค้นพบทางเลือกใหม่ที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน หนึ่งในนั้นคือการเพาะเห็ดหูหนูดำ ซึ่งกำลังเปลี่ยนวิถีชีวิตของชุมชนในอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
คุณบุญนำ เกษตรกรเจ้าของฟาร์มเห็ดหูหนู เล่าว่าเขามีพื้นเพเกิดที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนย้ายมาอยู่ราชบุรีเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ด้วยความชอบในอาชีพเกษตรกรรมมาตั้งแต่เด็ก แม้จะเคยทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมช่วงหนึ่ง แต่เมื่อได้พบกับภรรยาซึ่งมีพื้นที่ทำกินเป็นของตัวเอง จึงตัดสินใจเริ่มต้นทำเห็ดหูหนูด้วยเงินเก็บก้อนหนึ่ง
"ผมชอบเกษตรมาตั้งแต่เด็ก เห็นพ่อดำนาปลูกข้าว" คุณบุญนำเล่าถึงแรงบันดาลใจ "ตอนเริ่มต้น ผมลงทุนสร้างหนึ่งโรงเรือนก่อน พอขายผลผลิตได้แล้วพบว่ารายได้โอเค ปีหนึ่งสามารถทำได้สี่รอบต่อโรงเรือน ก็เลยเก็บเงินมาขยายกิจการเพิ่ม"
จากเริ่มต้นเพียงหนึ่งโรงเรือน ปัจจุบันฟาร์มของคุณบุญนำมีโรงเรือนถึง 26 หลัง สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
เห็ดหูหนูมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากเห็ดชนิดอื่น คือออกดอกด้านข้างเชือก และสามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี สภาพอากาศแถวอำเภอเมืองเจดีย์หักจึงเหมาะสมกับการเพาะเห็ดชนิดนี้ อีกทั้งยังมีคลองชลประทานส่งน้ำผ่านให้ใช้ตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ การทำเห็ดหูหนูยังมีข้อดีคือ สามารถรู้ต้นทุนและผลกำไรได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 - 3 เดือน โดยเห็ดหูหนูจะให้ผลผลิตต่อรอบประมาณ 500 - 600 กิโลกรัม และสามารถเก็บผลผลิตได้ถึง 6 - 8 ครั้งต่อก้อน หากไม่มีเชื้อรารบกวน
การผลิตก้อนเชื้อเห็ดเริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบ ซึ่งประกอบด้วย:
ความชื้นในส่วนผสมต้องอยู่ที่อย่างน้อย 70% ซึ่งสามารถทดสอบง่ายๆ โดยการกำดู หากกำแล้วเป็นก้อนเดียวแสดงว่าชื้นเกินไป แต่ถ้าแบมือออกแล้วแตกเป็น 3 ก้อนพอดี แสดงว่ามีความชื้นที่เหมาะสม
หลังจากอัดก้อนเชื้อเสร็จแล้ว จะใส่สำลีเพื่อกันความชื้นและป้องกันแมลงเชื้อรา จากนั้นนำไปนึ่งที่อุณหภูมิ 100 องศาเป็นเวลา 5 ชั่วโมง เมื่อนึ่งเสร็จต้องพักให้เย็นก่อนใส่เชื้อเห็ดหูหนู
เชื้อเห็ดหูหนูทำมาจากเมล็ดข้าวฟ่างที่เลี้ยงวุ้นให้เส้นใยเดินจนขาว การใส่เชื้อต้องทำในสภาพที่สะอาด โดยใช้แอลกอฮอล์ฉีดฆ่าเชื้อก่อน แล้วเขี่ยเชื้อลงไป 25-30 เม็ดต่อหนึ่งก้อน จากนั้นปิดด้วยสำลีและกระดาษ
เมื่อใส่เชื้อเสร็จแล้ว นำก้อนเชื้อไปเรียงในโรงบ่ม ซึ่งควรมีพื้นปูนเพื่อป้องกันโรคและแมลง และต้องมีอากาศถ่ายเทได้ดีเพื่อให้เส้นใยเดินสมบูรณ์ ใช้เวลาบ่มประมาณ 40 วัน
หลังบ่มครบ 40 วัน เส้นใยจะเดินเต็มก้อน จากนั้นทำการกรีดแผลเพื่อให้เห็ดออกดอก โดยหนึ่งก้อนจะกรีด 10 แผล แบ่งเป็นแผลที่ตูด 2 แผล และด้านข้าง 4 มุม มุมละ 2 แผล
สำคัญคือต้องกรีดเฉียง ไม่ใช่กรีดตรง เพราะถ้ากรีดตรง น้ำจะเข้าแผลง่ายและทำให้เสียหาย หลังกรีดเสร็จต้องดึงกระดาษ สำลี และคอออก แล้วโรยปูนขาวประมาณครึ่งถึงหนึ่งช้อนแกงเพื่อป้องกันก้อนชื้นและเสียง่าย
การโยงเห็ดเป็นเทคนิคเฉพาะของชุมชนนี้ ซึ่งแตกต่างจากแบบ "เห็ดคอนโด" โดยจะผูกก้อนเห็ดเป็นชุด ชุดละ 10 ก้อน แล้วแขวนไว้กับไม้หรือเหล็ก โดยให้ห่างจากพื้นประมาณ 50 ซม. เพื่อให้ได้รับความชื้นพอดี
หนึ่งไม้จะมี 7 พวง (70 ก้อน) โดยรอบในมี 5 พวง รอบนอกมี 2 พวง เพื่อกระจายน้ำหนักให้สมดุล หลังจากโยงเสร็จ รออีกประมาณ 20 วันก็จะได้เก็บผลผลิตชุดแรก
การเก็บเห็ดหูหนูควรทำในช่วงเช้ามืด (ประมาณตี 4) เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน โดยดูที่ช่อเห็ดที่บานแล้ว แล้วใช้มือดึงออกมาทีละช่อ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ
หลังเก็บเห็ดแล้ว ต้องนำมาตัดแต่งโดยใช้มีดเล็กเฉือนขี้เลื่อยออกให้หมด จากนั้นนำไปล้างด้วยน้ำเปล่าและแช่ประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อให้สิ่งสกปรกออกหมด ทำให้เห็ดดูสดและน่ารับประทาน
เห็ดหูหนูดำสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น
เห็ดหูหนูดำมีเอกลักษณ์คือความนุ่มหนึบ เด้ง และกรอบในเวลาเดียวกัน ทำให้อาหารมีรสชาติและสัมผัสที่พิเศษ
ก่อนหน้านี้ ชุมชนแถวนี้ทำนาเพียงปีละครั้ง หลังจากนั้นคนส่วนใหญ่ต้องออกไปทำงานโรงงาน ทำให้ในเวลากลางวัน หมู่บ้านเงียบสนิทจนเหมือน "ป่าช้า" คนวัยทำงานต้องออกจากชุมชนไปค้าแรงงาน กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำ
การริเริ่มทำเห็ดหูหนูในชุมชนเกิดจากการประชุมร่วมกันเพื่อหาอาชีพที่ให้คนในชุมชนได้ทำงานใกล้บ้าน โดยไม่ต้องออกไปรับจ้างข้างนอก จนกลายเป็นกองทุนหมู่บ้านที่ผลิตก้อนเชื้อเห็ดเอง ทำให้ต้นทุนต่ำลง
ปัจจุบัน แทบทุกครอบครัวในหมู่บ้านทำเห็ด คิดเป็นประมาณ 70% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยแต่ละครอบครัวมีประมาณ 5 โรงเรือน ซึ่งสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่ต้องทำอาชีพอื่น
นอกจากการสร้างอาชีพแล้ว การทำเห็ดหูหนูยังสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนผ่านการรีไซเคิลวัสดุเหลือใช้:
ระบบนี้ทำให้ไม่มีขยะเหลือทิ้งเลย ช่วยลดปัญหาขยะในชุมชนไปในตัว
จากการเริ่มต้นเพียงไม่กี่ครัวเรือน ปัจจุบันมีการผลิตก้อนเชื้อเห็ดวันละ 4,500 ก้อน เพื่อส่งให้กับสมาชิกวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นคนในชุมชน 100% ทั้งคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถไปทำงานที่อื่นได้
คนในชุมชนมีรายได้ทั้งจากการขายผลผลิตเห็ดและการรับจ้างในกระบวนการผลิต เช่น การตัดแต่งฐานเห็ด ซึ่งสร้างรายได้วันละ 200-300 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังมีพ่อค้ามารับซื้อก้อนเชื้อเห็ดที่หมดแล้วในราคาตันละ 400 บาท สร้างรายได้เสริมให้ชุมชน
คุณบุญนำได้รับใบรับรองมาตรฐาน GAP และ PGS จากสำนักงานเกษตรและกรมวิชาการเกษตร รับรองว่าเป็นเห็ดหูหนูที่ปลอดสาร เขาภูมิใจที่สามารถเลี้ยงครอบครัวและส่งลูกเรียนจบปริญญาด้วยอาชีพเกษตรกร
ในช่วงราคาเห็ดดี รายได้ต่อเดือนอาจสูงถึง 3-4 แสนบาท แม้ในช่วงราคาตกก็ยังไม่ขาดทุน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
"ผมภูมิใจที่เป็นเกษตรกรเต็มตัว สามารถดึงคนรอบข้างให้เห็นว่าเรามีพื้นที่ทำกิน ทำไมต้องออกไปทำงานต่างจังหวัดนอกถิ่นฐาน เราตื่นขึ้นมาเช้า มีงานทำ ก้าวออกจากบ้านมีรายได้เข้ามา โดยไม่ต้องขี่รถออกไปข้างนอก อยากกินอะไรเราก็ปลูกได้ ผมว่ามันดีนะ" คุณบุญนำกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
การเพาะเห็ดหูหนูดำในชุมชนเจดีย์หัก จังหวัดราชบุรี ไม่เพียงแค่เป็นอาชีพที่สร้างรายได้มั่นคง แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างรอบด้าน จากชุมชนที่เคยเงียบเหงาเหมือน "ป่าช้า" ในเวลากลางวัน กลายเป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวา มีการรวมกลุ่มทำงาน สร้างอาชีพ และพึ่งพาตนเองได้
ความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาด้านการเกษตร การรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้เห็ดหูหนูดำกลายเป็นมากกว่าพืชเศรษฐกิจ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
ประสบการณ์ของชุมชนเจดีย์หักและเรื่องราวของคุณบุญนำ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชุมชนอื่นๆ ในการสร้างอาชีพที่ยั่งยืน โดยใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในท้องถิ่น ซึ่งไม่เพียงสร้างรายได้ แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในชุมชนอีกด้วย
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
มหาอำนาจบ้านนา
นักเก็บเมล็ดพันธุ์ ถึงวันสิ้นโลกก็ยังปลูกได้
ของฝากจากบ้านนอก
ผักในรั้วบ้าน 2 งาน ขายได้ไม่มีวันหยุด
พุทราน้ำอ้อย กรอบอร่อย หวานฉ่ำจับใจ
มะละกอเรดเลดี้ สาวน้อยแก้มแดงหอมอร่อย
เห็ดหูหนูดำ นำชุมชนสู่ความยั่งยืน
ใบเหลียง ราชินีผักพื้นบ้านภาคใต้
เกษตรสนุก ความสุขที่ปลูกได้
กล้วยหอมทองเพชรบุรี มีดีตั้งเเต่รากจรดใบ
สับปะรดฉีกตา อร่อยจริงไม่จกตา
เห็ดแครงอินทรีย์ แพลนต์เบสที่โลกต้องการ
BSF แมลงจิ๋วกู้โลก
เป็ดไข่ไชยา ไข่ดกฟองใหญ่ GI สุราษฎร์ธานี
ปลาย่ำสวาท รสชาติสะท้านลิ้น
เห็ดถั่งเช่าสีทอง เห็ดของดี มีมูลค่าสูง
ทุเรียนชะนีเกาะช้าง GI กลางทะเล
งาดำอุบลราชธานี ซูเปอร์ฟูดเมล็ดจิ๋ว
ข่าอ่อนอินทรีย์ พืชแซ่บเผ็ดซ่าแดนอีสาน
มหาอำนาจบ้านนา
หมอลำทำเกษตร ชีวิตแฮปปีปลดหนี้หลักแสน
มหาอำนาจบ้านนา
หน่อเหรียงของดีปักษ์ใต้ 5 วันได้เงิน
พริกหวาน พืชเงินล้านบนยอดดอย
มหาอำนาจบ้านนา
นักเก็บเมล็ดพันธุ์ ถึงวันสิ้นโลกก็ยังปลูกได้
ของฝากจากบ้านนอก
ผักในรั้วบ้าน 2 งาน ขายได้ไม่มีวันหยุด
พุทราน้ำอ้อย กรอบอร่อย หวานฉ่ำจับใจ
มะละกอเรดเลดี้ สาวน้อยแก้มแดงหอมอร่อย
เห็ดหูหนูดำ นำชุมชนสู่ความยั่งยืน
ใบเหลียง ราชินีผักพื้นบ้านภาคใต้
เกษตรสนุก ความสุขที่ปลูกได้
กล้วยหอมทองเพชรบุรี มีดีตั้งเเต่รากจรดใบ
สับปะรดฉีกตา อร่อยจริงไม่จกตา
เห็ดแครงอินทรีย์ แพลนต์เบสที่โลกต้องการ
BSF แมลงจิ๋วกู้โลก
เป็ดไข่ไชยา ไข่ดกฟองใหญ่ GI สุราษฎร์ธานี
ปลาย่ำสวาท รสชาติสะท้านลิ้น
เห็ดถั่งเช่าสีทอง เห็ดของดี มีมูลค่าสูง
ทุเรียนชะนีเกาะช้าง GI กลางทะเล
งาดำอุบลราชธานี ซูเปอร์ฟูดเมล็ดจิ๋ว
ข่าอ่อนอินทรีย์ พืชแซ่บเผ็ดซ่าแดนอีสาน
มหาอำนาจบ้านนา
หมอลำทำเกษตร ชีวิตแฮปปีปลดหนี้หลักแสน
มหาอำนาจบ้านนา
หน่อเหรียงของดีปักษ์ใต้ 5 วันได้เงิน
พริกหวาน พืชเงินล้านบนยอดดอย