คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ สหรัฐเตรียมตอบโต้ปฏิวัติเมียนมา
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกามีปฏิกิริยาแข็งกร้าวกับการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศเมียนมา เรียกร้องให้นานาชาติผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวต้านคณะทหารยึดอำนาจ
The Guardian รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ กรณีรัฐประหารในประเทศเมียนมา มีใจความว่า
“สหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเมียนมาเมื่อหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่มีพัฒนาการทางการเมืองเข้าสู่การการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อความก้าวหน้าทางการเมือง ถูกดึงในถอยหลัง สหรัฐก็มีความจำเป็นต้องนำกฎหมายการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมกับเมียนมา ต่อไป”
สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับประเทศเมียนมา ในปี 2559 ภายหลังมีการจัดการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย เมียนมากำลังก้าวย่างเข้าสู่ประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านสหรัฐยังคงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างมีเป้าหมายเจาะจง (targeted sanction) กับนายทหารพม่าจำนวนหนึ่ง
นายยางฮี ลี (Yanghee Lee) อดีตผู้เขียนรายงานสถานการณ์ในประเทศเมียนมา ของสหประชาชาติ (UN Rappoteur on Myanmar) ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CNN เมื่อวันจันทร์ เสนอให้มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจนายทหารพม่า เช่นกัน
“สหรัฐอเมริกาจะยืนหยัดเคียงข้างประชาธิปไตยในทุกหนแห่งที่ระบอบประชาธิปไตยถูกโจมตี” ข้อความในแถลงการณ์ของประธานาธิบดีไบเดน “ประชาคมโลกควรร่วมมือกดดันคณะนายทหารเมียนมา ให้คืนอำนาจที่ยึดมา คืนให้กับประชาชน และปล่อยตัวนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกจับกุมทั้งหมด ยกเลิกมาตรการปิดกั้นระบบสื่อสารโทรคมนาคม และหยุดทำร้ายประชาชน”
ทางด้านเจน พาสกี (Jen Psaki) โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการหารือกับพันธมิตรทั่วโลก อย่างเคร่งเครียดแท็กที่เกี่ยวข้อง:
คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ สหรัฐเตรียมตอบโต้ปฏิวัติเมียนมา
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกามีปฏิกิริยาแข็งกร้าวกับการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศเมียนมา เรียกร้องให้นานาชาติผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวต้านคณะทหารยึดอำนาจ
The Guardian รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ กรณีรัฐประหารในประเทศเมียนมา มีใจความว่า
“สหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเมียนมาเมื่อหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่มีพัฒนาการทางการเมืองเข้าสู่การการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อความก้าวหน้าทางการเมือง ถูกดึงในถอยหลัง สหรัฐก็มีความจำเป็นต้องนำกฎหมายการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมกับเมียนมา ต่อไป”
สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับประเทศเมียนมา ในปี 2559 ภายหลังมีการจัดการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย เมียนมากำลังก้าวย่างเข้าสู่ประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านสหรัฐยังคงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างมีเป้าหมายเจาะจง (targeted sanction) กับนายทหารพม่าจำนวนหนึ่ง
นายยางฮี ลี (Yanghee Lee) อดีตผู้เขียนรายงานสถานการณ์ในประเทศเมียนมา ของสหประชาชาติ (UN Rappoteur on Myanmar) ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CNN เมื่อวันจันทร์ เสนอให้มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจนายทหารพม่า เช่นกัน
“สหรัฐอเมริกาจะยืนหยัดเคียงข้างประชาธิปไตยในทุกหนแห่งที่ระบอบประชาธิปไตยถูกโจมตี” ข้อความในแถลงการณ์ของประธานาธิบดีไบเดน “ประชาคมโลกควรร่วมมือกดดันคณะนายทหารเมียนมา ให้คืนอำนาจที่ยึดมา คืนให้กับประชาชน และปล่อยตัวนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกจับกุมทั้งหมด ยกเลิกมาตรการปิดกั้นระบบสื่อสารโทรคมนาคม และหยุดทำร้ายประชาชน”
ทางด้านเจน พาสกี (Jen Psaki) โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการหารือกับพันธมิตรทั่วโลก อย่างเคร่งเครียดแท็กที่เกี่ยวข้อง: