"ทุกฝ่ายในเมียนมา รวมทั้งตัวแทน ส.ส.ต้องมีส่วนร่วมแก้วิกฤตเมียนมา"
ทันทีที่เดินทางกลับถึงกรุงจาการ์ตา นางเร็ตโน มาซุดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ก็แถลงข่าวผ่านทางออนไลน์ เปิดเผยรายละเอียดการพบปะกับนายวันนา หม่อง ลิน (Wunna Muang Lwin) รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ที่สนามบินดอนเมือง ช่วงบ่ายวานนี้ (24 ก.พ. 64) โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศไทย นั่งร่วมวงด้วย
นางเร็ตโน มาซุดี บอกผู้สื่อข่าวว่า เธอพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา อย่างชัดเจนว่า สมาชิกอาเซียนทุกประเทศต้องยึดมั่นในกฎบัตรอาเซียน และยืนยันจุดยืนของอินโดนีเซียว่า วิกฤตการเมืองในเมียนมาต้องแก้ปัญหาด้วยการเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา โดยเฉพาะกองทัพ และ CRPH (Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw) สภาตัวแทนของ ส.ส. ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 63 เข้าร่วมด้วย
นางเร็ตโน มาซุดี บอกว่า เธอมีการติดต่อพูดคุยกับตัวแทน CRPH ด้วยเช่นกัน
รายงานจาก Jakarta Post และ Straits Times ระบุว่า เธอได้ย้ำกับรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ถึงความสำคัญของกระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมา สร้างสรรค์บรรยากาศการสร้างความเชื่อมั่น การพูดคุยเพื่อสร้างกระบวนการปรองดองภายในชาติ “อินโดนีเซียยืนเคียงข้างประชาชนเมียนมา” นางเร็ตโน มาซุดี กล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียเลือกที่จะไม่อยู่เงียบ ๆ “การนั่งเงียบ ๆ เลือกที่จะไม่ทำอะไรเลย ไม่ใช่หนทางของอินโดนีเซีย”
วิดีโอการพบปะอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย เมียนมา และไทย ที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ ถูกนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ MRTV ของรัฐบาลเมียนมา
ก่อนหน้านี้รอยเตอร์ส รายงานอ้างจากแหล่งข่าวระบุว่า อินโดนีเซียกำลังล็อบบี้ชาติสมาชิกอาเซียนให้ร่วมกันหาทางออกวิกฤตเมียนมา ด้วยการประนีประนอม คือ หาทางลงด้วยการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ตามที่กองทัพเมียนมาประกาศไว้ว่าจะจัดการเลือกตั้ง หลังประกาศภาวะฉุกเฉินสิ้นสุดลงในอีก 12 เดือน โดยที่รัฐบาลทหารเมียนมาต้องอนุญาตให้อาเซียนส่งผู้สังเกตการณ์ เพื่อเป็นหลักประกันการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม
ทันทีที่ข่าวนี้หลุดออกไป ก็มีเสียงวิจารณ์อินโดนีเซียและการชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตอินโดนีเซีย ในนครย่างกุ้ง และกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมาโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาแถลงข่าว ปฏิเสธว่ารายงานข่าวชิ้นนั้นไม่เป็นความจริง การพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ชาติอาเซียนที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ ไม่เป็นที่เปิดเผยมาก่อน โดยที่เมื่อค่ำวันที่ 16 ก.พ. 64 รอยเตอร์ส รายงานว่า นางเร็ตโน มีกำหนดเดินทางจากกรุงเทพฯ บินเข้าเมียนมาตอนเช้าวันที่ 24 ก.พ. 64 แต่ต่อมาตอนสาย ๆ วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ก็แถลงว่า แผนการเดินทางถูกยกเลิก เพราะสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม แต่ต่อมาตอนบ่าย รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งหลังการรัฐประหารก็เดินทางมาพบหารือกับนางเร็ตโน มาซุดี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย ที่กรุงเทพฯ
รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ได้มีโอกาสพบปะกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ที่ห้องรับรองกองบินกองทัพอากาศที่ดอนเมือง อย่างไม่เป็นทางการเป็นเวลาไม่นานนัก ก่อนที่รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา จะพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียและไทย
อินโดนีเซีย เป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญที่พยายามผลักดันให้อาเซียนจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวาระพิเศษ เพื่อหารือหาทางออกวิกฤตเมียนมา ซึ่งชาติสมาชิกอาเซียนที่มีท่าตอบรับชัดเจนแล้ว คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน
การพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา อินโดนีเซีย และไทย มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาวเมียนมาบนสื่อสังคมออนไลน์ ติติงว่า ไม่เหมาะสมเนื่องเพราะนายวันนา หม่อง ลิน ไม่มีความชอบธรรมในการเป็นตัวแทนรัฐบาลเมียนมา เป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร
"ทุกฝ่ายในเมียนมา รวมทั้งตัวแทน ส.ส.ต้องมีส่วนร่วมแก้วิกฤตเมียนมา"
ทันทีที่เดินทางกลับถึงกรุงจาการ์ตา นางเร็ตโน มาซุดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ก็แถลงข่าวผ่านทางออนไลน์ เปิดเผยรายละเอียดการพบปะกับนายวันนา หม่อง ลิน (Wunna Muang Lwin) รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ที่สนามบินดอนเมือง ช่วงบ่ายวานนี้ (24 ก.พ. 64) โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศไทย นั่งร่วมวงด้วย
นางเร็ตโน มาซุดี บอกผู้สื่อข่าวว่า เธอพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา อย่างชัดเจนว่า สมาชิกอาเซียนทุกประเทศต้องยึดมั่นในกฎบัตรอาเซียน และยืนยันจุดยืนของอินโดนีเซียว่า วิกฤตการเมืองในเมียนมาต้องแก้ปัญหาด้วยการเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา โดยเฉพาะกองทัพ และ CRPH (Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw) สภาตัวแทนของ ส.ส. ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 63 เข้าร่วมด้วย
นางเร็ตโน มาซุดี บอกว่า เธอมีการติดต่อพูดคุยกับตัวแทน CRPH ด้วยเช่นกัน
รายงานจาก Jakarta Post และ Straits Times ระบุว่า เธอได้ย้ำกับรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ถึงความสำคัญของกระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมา สร้างสรรค์บรรยากาศการสร้างความเชื่อมั่น การพูดคุยเพื่อสร้างกระบวนการปรองดองภายในชาติ “อินโดนีเซียยืนเคียงข้างประชาชนเมียนมา” นางเร็ตโน มาซุดี กล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียเลือกที่จะไม่อยู่เงียบ ๆ “การนั่งเงียบ ๆ เลือกที่จะไม่ทำอะไรเลย ไม่ใช่หนทางของอินโดนีเซีย”
วิดีโอการพบปะอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย เมียนมา และไทย ที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ ถูกนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ MRTV ของรัฐบาลเมียนมา
ก่อนหน้านี้รอยเตอร์ส รายงานอ้างจากแหล่งข่าวระบุว่า อินโดนีเซียกำลังล็อบบี้ชาติสมาชิกอาเซียนให้ร่วมกันหาทางออกวิกฤตเมียนมา ด้วยการประนีประนอม คือ หาทางลงด้วยการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ตามที่กองทัพเมียนมาประกาศไว้ว่าจะจัดการเลือกตั้ง หลังประกาศภาวะฉุกเฉินสิ้นสุดลงในอีก 12 เดือน โดยที่รัฐบาลทหารเมียนมาต้องอนุญาตให้อาเซียนส่งผู้สังเกตการณ์ เพื่อเป็นหลักประกันการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม
ทันทีที่ข่าวนี้หลุดออกไป ก็มีเสียงวิจารณ์อินโดนีเซียและการชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตอินโดนีเซีย ในนครย่างกุ้ง และกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมาโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาแถลงข่าว ปฏิเสธว่ารายงานข่าวชิ้นนั้นไม่เป็นความจริง การพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ชาติอาเซียนที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ ไม่เป็นที่เปิดเผยมาก่อน โดยที่เมื่อค่ำวันที่ 16 ก.พ. 64 รอยเตอร์ส รายงานว่า นางเร็ตโน มีกำหนดเดินทางจากกรุงเทพฯ บินเข้าเมียนมาตอนเช้าวันที่ 24 ก.พ. 64 แต่ต่อมาตอนสาย ๆ วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ก็แถลงว่า แผนการเดินทางถูกยกเลิก เพราะสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม แต่ต่อมาตอนบ่าย รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งหลังการรัฐประหารก็เดินทางมาพบหารือกับนางเร็ตโน มาซุดี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย ที่กรุงเทพฯ
รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ได้มีโอกาสพบปะกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ที่ห้องรับรองกองบินกองทัพอากาศที่ดอนเมือง อย่างไม่เป็นทางการเป็นเวลาไม่นานนัก ก่อนที่รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา จะพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียและไทย
อินโดนีเซีย เป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญที่พยายามผลักดันให้อาเซียนจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวาระพิเศษ เพื่อหารือหาทางออกวิกฤตเมียนมา ซึ่งชาติสมาชิกอาเซียนที่มีท่าตอบรับชัดเจนแล้ว คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน
การพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา อินโดนีเซีย และไทย มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาวเมียนมาบนสื่อสังคมออนไลน์ ติติงว่า ไม่เหมาะสมเนื่องเพราะนายวันนา หม่อง ลิน ไม่มีความชอบธรรมในการเป็นตัวแทนรัฐบาลเมียนมา เป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร