สิงคโปร์พูดชัดเจนไม่ยอมรับสถานะรัฐบาลทหารเมียนมา
Straits Times สื่อสิงคโปร์ รายงานว่า นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศ พูดในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน อย่างไม่ทางการเมื่อวันจันทร์ ว่า
“สิงคโปร์ไม่ยอมรับคณะนายทหารผู้ปกครองเมียนมา ในฐานะรัฐบาลเมียนมา”
เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ เผยแพร่ คำแถลงของนายบาลากริชนัน ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เมื่อคืนวันอังคาร ก่อนหน้าเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการอาเซียน เผยแพร่ Chair’s Statement สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ เสียอีก
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ พูดในที่ประชุมที่มีนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศรัฐบาลทหารเมียนมา ร่วมประชุมอยู่ด้วยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
“สิงคโปร์ไม่ยอมรับผู้นำกองทัพเมียนมาในฐานะรัฐบาลเมียนมา แม้ตระหนักดีว่า รัฐธรรมนูญเมียนมา ปี 2008 กำหนดบทบาทพิเศษให้กับกองทัพ มีสถานะเป็นสถาบันหนึ่งในระบบการเมืองเมียนมาก็ตาม”
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวในที่ประชุมว่า อาเซียนประสงค์มีบทบาทช่วยแก้ปัญหาในเมียนมา ด้วยการพัวพันอย่างสร้างสรรค์ (constructive engagement) เพื่อให้เกิดการปรองดอง
“รัฐบาลสิงคโปร์ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวประธานาธิบดีวิน มินต์ และนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ รวมทั้งผู้ต้องหาคดีทางการเมืองทั้งหมด” นายบาลากริชนัน กล่าวพร้อมกับย้ำว่า นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนในระยะยาว
ตอนหนึ่งของคำแถลง นายบาลากริชนัน ย้ำว่า “สิงคโปร์ยึดมั่นในหลักการ อนาคตของเมียนมาต้องกำหนดโดยประชาชน รัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยในเมียนมา ช่วง 10 ปีที่ผ้านมา และจะสนับสนุนต่อไป รัฐบาลสิงคโปร์มีความหวังทางออกในเมียนมา บนแนวทางที่สอดคล้องผลประโยชน์และเจตจำนงของประชาชนเมียนมา”
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวในที่ประชุมเรียกร้องให้ กองทัพเมียนมายืนยันต่อสาธารณะอย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะในรูปคำแถลง หรือ เอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่ปราบปรามประชาชนด้วยวิธีการรุนแรง อันอาจก่อให้เกิดการนองเลือดอีก
เป็นที่น่าสังเกตว่า คำแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน มีความชัดเจนตรงไปตรงมา มากกว่าแถลงการณ์
Chair’s Statement ที่มีสาระสำคัญ สรุปได้ว่า อาเซียนเร่งรัดให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงกับประชาชน และขอให้เคารพเจตน์จำนงของประชาชนเมียนมา
แถลงการณ์การประชุม รมต.ต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่ามีเสียงร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง โดยไม่ได้ระบุชื่อประธานาธิบดีวิน มินต์ และนางอองซาน ซูจี
ทางด้านนายเร็ตโน มาซุดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย แถลงหลังภายหลังการประชุมว่า อินโดนีเซียยืนยันว่า “เจตน์จำนงของประชาชนเมียนต้องได้รับการเคารพ” พร้อมย้ำว่า อาเซียนพร้อมที่จะทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยเพื่อสร้างความปรองดองภายในชาติเมียนมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเมียนมาไม่เปิดประตูต้อนรับอาเซียน
ท่าทีของอาเซียนที่มีต่อเมียนมา ในเวลานี้จึงสะท้อนว่า อาเซียนเห็นว่าการพัวพันกับเมียนมา เป็นสิ่งที่ควรกระทำมากกว่าการโดดเดี่ยวเมียนมา
ทางด้าน ส.ส.เมียนมาที่ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ไม่เห็นด้วยกับอาเซียนที่ตั้งโต๊ะพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศที่มาจากรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งพวกเขาเรียกว่า “กลุ่มก่อการร้าย” พร้อมกับติงว่า การกระทำเช่นนั้น ถูกตีความได้ว่า เป็นการยอมรับสถานะรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร
สมาคมศิษย์เก่าโครงการเยาวชนอาเซียนในประเทศเมียนมา ออกแถลงการณ์ถึงอาเซียน คัดค้านรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่พูดคุยรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา
“ขอให้อาเซียนรับรู้ว่า ประชาชนเมียนมาไม่ยอมรับการรัฐประหาร และไม่ยอมรับการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่
หมายเหตุภาพ AFP นายบาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์พูดคุยกับนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในระหว่างการประชุม Asean-UN Summit ที่กรุงเวียงจันทร์ ปี 2559
สิงคโปร์พูดชัดเจนไม่ยอมรับสถานะรัฐบาลทหารเมียนมา
Straits Times สื่อสิงคโปร์ รายงานว่า นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศ พูดในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน อย่างไม่ทางการเมื่อวันจันทร์ ว่า
“สิงคโปร์ไม่ยอมรับคณะนายทหารผู้ปกครองเมียนมา ในฐานะรัฐบาลเมียนมา”
เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ เผยแพร่ คำแถลงของนายบาลากริชนัน ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เมื่อคืนวันอังคาร ก่อนหน้าเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการอาเซียน เผยแพร่ Chair’s Statement สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ เสียอีก
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ พูดในที่ประชุมที่มีนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศรัฐบาลทหารเมียนมา ร่วมประชุมอยู่ด้วยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
“สิงคโปร์ไม่ยอมรับผู้นำกองทัพเมียนมาในฐานะรัฐบาลเมียนมา แม้ตระหนักดีว่า รัฐธรรมนูญเมียนมา ปี 2008 กำหนดบทบาทพิเศษให้กับกองทัพ มีสถานะเป็นสถาบันหนึ่งในระบบการเมืองเมียนมาก็ตาม”
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวในที่ประชุมว่า อาเซียนประสงค์มีบทบาทช่วยแก้ปัญหาในเมียนมา ด้วยการพัวพันอย่างสร้างสรรค์ (constructive engagement) เพื่อให้เกิดการปรองดอง
“รัฐบาลสิงคโปร์ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวประธานาธิบดีวิน มินต์ และนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ รวมทั้งผู้ต้องหาคดีทางการเมืองทั้งหมด” นายบาลากริชนัน กล่าวพร้อมกับย้ำว่า นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนในระยะยาว
ตอนหนึ่งของคำแถลง นายบาลากริชนัน ย้ำว่า “สิงคโปร์ยึดมั่นในหลักการ อนาคตของเมียนมาต้องกำหนดโดยประชาชน รัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยในเมียนมา ช่วง 10 ปีที่ผ้านมา และจะสนับสนุนต่อไป รัฐบาลสิงคโปร์มีความหวังทางออกในเมียนมา บนแนวทางที่สอดคล้องผลประโยชน์และเจตจำนงของประชาชนเมียนมา”
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวในที่ประชุมเรียกร้องให้ กองทัพเมียนมายืนยันต่อสาธารณะอย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะในรูปคำแถลง หรือ เอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่ปราบปรามประชาชนด้วยวิธีการรุนแรง อันอาจก่อให้เกิดการนองเลือดอีก
เป็นที่น่าสังเกตว่า คำแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน มีความชัดเจนตรงไปตรงมา มากกว่าแถลงการณ์
Chair’s Statement ที่มีสาระสำคัญ สรุปได้ว่า อาเซียนเร่งรัดให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงกับประชาชน และขอให้เคารพเจตน์จำนงของประชาชนเมียนมา
แถลงการณ์การประชุม รมต.ต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่ามีเสียงร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง โดยไม่ได้ระบุชื่อประธานาธิบดีวิน มินต์ และนางอองซาน ซูจี
ทางด้านนายเร็ตโน มาซุดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย แถลงหลังภายหลังการประชุมว่า อินโดนีเซียยืนยันว่า “เจตน์จำนงของประชาชนเมียนต้องได้รับการเคารพ” พร้อมย้ำว่า อาเซียนพร้อมที่จะทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยเพื่อสร้างความปรองดองภายในชาติเมียนมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเมียนมาไม่เปิดประตูต้อนรับอาเซียน
ท่าทีของอาเซียนที่มีต่อเมียนมา ในเวลานี้จึงสะท้อนว่า อาเซียนเห็นว่าการพัวพันกับเมียนมา เป็นสิ่งที่ควรกระทำมากกว่าการโดดเดี่ยวเมียนมา
ทางด้าน ส.ส.เมียนมาที่ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ไม่เห็นด้วยกับอาเซียนที่ตั้งโต๊ะพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศที่มาจากรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งพวกเขาเรียกว่า “กลุ่มก่อการร้าย” พร้อมกับติงว่า การกระทำเช่นนั้น ถูกตีความได้ว่า เป็นการยอมรับสถานะรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร
สมาคมศิษย์เก่าโครงการเยาวชนอาเซียนในประเทศเมียนมา ออกแถลงการณ์ถึงอาเซียน คัดค้านรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่พูดคุยรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา
“ขอให้อาเซียนรับรู้ว่า ประชาชนเมียนมาไม่ยอมรับการรัฐประหาร และไม่ยอมรับการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่
หมายเหตุภาพ AFP นายบาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์พูดคุยกับนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในระหว่างการประชุม Asean-UN Summit ที่กรุงเวียงจันทร์ ปี 2559