ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ประเทศที่ทหารหันกระบอกปืนใส่เพื่อนร่วมชาติ เป็นเรื่องที่น่าอับอาย” รมต.ตปท.สิงคโปร์

ออกอากาศ5 มี.ค. 64

“ประเทศที่ทหารหันกระบอกปืนใส่เพื่อนร่วมชาติ เป็นเรื่องที่น่าอับอาย” รมต.ตปท.สิงคโปร์

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์วันนี้ (5 มี.ค.) เรียกร้องอีกครั้งให้ผู้นำกองทัพเมียนมา พยายามหาทางออกวิกฤตการเมืองบนแนวทางสันติวิธี

“เป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับประเทศที่ทหารหันปากกระบอกปืนใส่เพื่อนร่วมชาติ” นายบาลากริชนัน ให้สัมภาษณ์ “สิงคโปร์รู้สึกขมขื่นกับการใช้ความรุนแรงกับประชาชน”

ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า มีผู้ชุมนุมต่อต้านเผด็จการทหารเสียชีวิตจากการปราบปรามของทหาร ตำรวจเมียนมา แล้วอย่างน้อย 54 คน และถูกจับกุมกว่า 1,700 คน ซึ่งมีสื่อมวลชนรวมอยู่ด้วย 29 คน

รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนประชุมอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันอังคาร และมีแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน

หลังจากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง รัฐบาลทหารเมียนมาก็ใช้กระสุนปืนจริงปราบปรามผู้ชุมนุมทั่วประเทศเมื่อวันพุธ มีผู้เสียชีวิตวันเดียวมากถึง 38 คน

นายบาลากริชนัน บอกว่า ทุกวันนี้รัฐมนตรีต่างประเทศในอาเซียนก็ยังโทรศัพท์พูดคุยปรึกษาหารือเรื่องวิกฤตการเมืองในเมียนมา

“มองย้อนกลับไปในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ากองทัพเมียนมาไม่ได้กังวลหรือใส่ใจเรื่องการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่แยแสเสียงประณามจากประชาคมโลก แม้กระทั่งปฏิญญาอาเซียนว่าด้วย สิทธิมนุษยชนและกฎบัตรอาเซียน ที่มีการย้ำในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้นำกองทัพเมียนมา” รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์กล่าว

ทูตพิเศษสหประชาชาติทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในเมียนมา Christine Schraner Burgener เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายพลอาวุโสซอ วิน (Soe Win) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้นำทหารหมายเลข 2 ของเมียนมา เมื่อวันพุธ หลังเกิดเหตุการณ์ปราบปรามนองเลือด ทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทั่วเมียนมา อย่างน้อย 38 คน

เมื่อวันพุธทูตพิเศษสหประชาชาติด้านเมียนมา Christine Schraner Burgener เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายพลอาวุโสซอ วิน (Soe Win) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้นำทหารหมายเลข 2 ของเมียนมา ได้เตือนผู้นำกองทัพเมียนมาว่า จะต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรโดยตรงกับธุรกิจและกิจการที่บรรดานายทหารได้รับผลประโยชน์ รุนแรงยิ่งขึ้น และจะต้องยอมรับกับการถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ

คำตอบที่ได้รับจากนายพลอาวุโสซอ วิน ก็คือ

“พวกเราคุ้นชินกับการถูกคว่ำบาตร และพวกเราก็สามารถเอาตัวรอดได้” ทูตพิเศษด้านเมียนมา เล่าให้ผู้สื่อข่าวที่นิวยอร์กฟัง และเล่าต่อว่า “เมื่อดิฉันเตือนว่า ทำอย่างนี้เมียนมาจะถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ”

นายพลอาวุโสซอ วินตอบว่า “พวกเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ตามลำพังกับเพื่อนไม่กี่คน”

หมายเหตุภาพ AP ตำรวจปราบจลาจลยืนคุมเชิงในย่านธุรกิจกลางนครย่างกุ้ง ดูแลไม่ให้ประชาชนรวมตัวชุมนุมประท้วงต่อต้านเผด็จการทหาร วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม

“ประเทศที่ทหารหันกระบอกปืนใส่เพื่อนร่วมชาติ เป็นเรื่องที่น่าอับอาย” รมต.ตปท.สิงคโปร์

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์วันนี้ (5 มี.ค.) เรียกร้องอีกครั้งให้ผู้นำกองทัพเมียนมา พยายามหาทางออกวิกฤตการเมืองบนแนวทางสันติวิธี

“เป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับประเทศที่ทหารหันปากกระบอกปืนใส่เพื่อนร่วมชาติ” นายบาลากริชนัน ให้สัมภาษณ์ “สิงคโปร์รู้สึกขมขื่นกับการใช้ความรุนแรงกับประชาชน”

ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า มีผู้ชุมนุมต่อต้านเผด็จการทหารเสียชีวิตจากการปราบปรามของทหาร ตำรวจเมียนมา แล้วอย่างน้อย 54 คน และถูกจับกุมกว่า 1,700 คน ซึ่งมีสื่อมวลชนรวมอยู่ด้วย 29 คน

รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนประชุมอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันอังคาร และมีแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน

หลังจากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง รัฐบาลทหารเมียนมาก็ใช้กระสุนปืนจริงปราบปรามผู้ชุมนุมทั่วประเทศเมื่อวันพุธ มีผู้เสียชีวิตวันเดียวมากถึง 38 คน

นายบาลากริชนัน บอกว่า ทุกวันนี้รัฐมนตรีต่างประเทศในอาเซียนก็ยังโทรศัพท์พูดคุยปรึกษาหารือเรื่องวิกฤตการเมืองในเมียนมา

“มองย้อนกลับไปในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ากองทัพเมียนมาไม่ได้กังวลหรือใส่ใจเรื่องการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่แยแสเสียงประณามจากประชาคมโลก แม้กระทั่งปฏิญญาอาเซียนว่าด้วย สิทธิมนุษยชนและกฎบัตรอาเซียน ที่มีการย้ำในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้นำกองทัพเมียนมา” รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์กล่าว

ทูตพิเศษสหประชาชาติทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในเมียนมา Christine Schraner Burgener เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายพลอาวุโสซอ วิน (Soe Win) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้นำทหารหมายเลข 2 ของเมียนมา เมื่อวันพุธ หลังเกิดเหตุการณ์ปราบปรามนองเลือด ทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทั่วเมียนมา อย่างน้อย 38 คน

เมื่อวันพุธทูตพิเศษสหประชาชาติด้านเมียนมา Christine Schraner Burgener เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายพลอาวุโสซอ วิน (Soe Win) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้นำทหารหมายเลข 2 ของเมียนมา ได้เตือนผู้นำกองทัพเมียนมาว่า จะต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรโดยตรงกับธุรกิจและกิจการที่บรรดานายทหารได้รับผลประโยชน์ รุนแรงยิ่งขึ้น และจะต้องยอมรับกับการถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ

คำตอบที่ได้รับจากนายพลอาวุโสซอ วิน ก็คือ

“พวกเราคุ้นชินกับการถูกคว่ำบาตร และพวกเราก็สามารถเอาตัวรอดได้” ทูตพิเศษด้านเมียนมา เล่าให้ผู้สื่อข่าวที่นิวยอร์กฟัง และเล่าต่อว่า “เมื่อดิฉันเตือนว่า ทำอย่างนี้เมียนมาจะถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ”

นายพลอาวุโสซอ วินตอบว่า “พวกเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ตามลำพังกับเพื่อนไม่กี่คน”

หมายเหตุภาพ AP ตำรวจปราบจลาจลยืนคุมเชิงในย่านธุรกิจกลางนครย่างกุ้ง ดูแลไม่ให้ประชาชนรวมตัวชุมนุมประท้วงต่อต้านเผด็จการทหาร วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย