ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตำรวจเมียนมาไม่ยอมรับคำสั่งยิงประชาชน หนีเข้าอินเดียแล้วราว 100 คน

ออกอากาศ10 มี.ค. 64

ตำรวจเมียนมาไม่ยอมรับคำสั่งยิงประชาชน หนีเข้าอินเดียแล้วราว 100 คน

สำนักข่าวรอยเตอร์ส อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อาวุโสทางการอินเดีย เปิดเผยว่าตำรวจเมียนมาและครอบครัวหลบหนีข้ามพรมแดนเข้าไปลี้ภัยในรัฐมิโซรัม ประมาณ 100 คน ซึ่งทางการอินเดียได้จัดที่พักในเขตจัมปาย (Champai) เมืองที่ตั้งบริเวณชายแดนติดเมียนมา

รอยเตอร์สได้สัมภาษณ์ตำรวจเมียนมาหลายคน รวมทั้งได้เห็นเอกสารการสอบสวนของเจ้าหน้าที่อินเดีย และใบประจำตัวตำรวจเมียนมา ยืนยันได้ว่า ข่าวที่ระบุว่าตำรวจเมียนมาหลบหนีเข้าไปลี้ภัยในรัฐมิโซรัม เป็นเรื่องจริง

ตำรวจเมียนมาที่ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส ทุกคนให้เหตุผลที่หลบหนีเข้าไปลี้ภัยที่อินเดีย เพราะไม่สามารถยอมรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ยิงประชาชนที่ชุมนุมประท้วงอย่างสันติได้ เช่นเดียวกับตำรวจหญิง บอกว่าเธอได้รับคำสั่งให้ติดตามจับกุมผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านเผด็จการทหารเมียนมา ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเธอบอกว่า ไม่สามารถรับคำสั่งที่ขัดกับมโนสำนึกตัวเองได้เช่นกัน เมื่อไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาได้ พวกเขาจึงต้องหาทางหลบหนีข้ามพรมแดนไปลี้ภัยในประเทศอินเดีย

Tha Peng ตำรวจวัย 29 ปี บอกรอยเตอร์ส ว่าได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ใช้ปืนกลมือยิงใส่ผู้ชุมนุมประท้วงที่เมือง Khampat เมื่อวันที่ 27 ก.พ. แต่เขาปฏิเสธว่า ทำใจไม่ได้

วันต่อมาผู้บังคับบัญชาก็ถามอีกว่า “เป็นยังไง วันนี้ทำใจใช้ปืนยิงผู้ชุมนุมได้หรือยัง” Tha Peng บอกว่า เขาก็ตอบปฏิเสธอีกครั้ง และตัดสินใจลาออกจากตำรวจในวันนั้น หลังจากนั้น 1 มี.ค. Tha Peng ก็ใช้เวลา 3 วัน เดินทางจากเมือง Khampat ไปที่ชายแดนเมียนมา โดยใช้ช่วงกลางคืนเดินทางเป็นหลักเพื่อหลบหลีกการตรวจตราของเจ้าหน้าที่เมียนมา

Tha Peng บอกว่า นอกจากตัวเขาแล้วยังมีเพื่อนตำรวจอีก 6 คน ที่ไม่ยอมรับคำสั่งให้ยิงประชาชนที่ชุมนุมประท้วงมือเปล่า

รอยเตอร์ส อ้างว่าได้เห็นเอกสารการสอบสวนของตำรวจรัฐมิโซรัม ที่สอบสวนตำรวจเมียนมาที่ขอลี้ภัย พวกเขาให้ปากคำว่า "ในช่วงที่ขบวนการอารยะขัดขืนขยายวงกว้าง มีการชุมนุมประท้วงแทบทุกหัวระแหง พวกเขาได้รับคำสั่งให้ใช้ปืนยิงประชาชน ซึ่งพวกเขาบอกว่า ทำใจไม่ได้ และไม่สามารถยกปืนขึ้นยิงประชาชนที่ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ"

Tha Peng บอกว่า ตามแนวปฎิบัติในการสลายการชุมนุมประท้วง ตำรวจต้องใช้กระสุนยางยิงในบริเวณร่างกายผู้ชุมนุม ช่วงที่ต่ำกว่าหัวเข่า แต่ผู้บังคับบัญชา สั่งพวกเขาว่า "ยิงพวกมันให้ตาย" (shoot till they are dead)

รอยเตอร์ส รายงานว่า ตำรวจอย่างน้อยสามคนที่ถูกสัมภาษณ์ พูดตรงกันว่า พวกเขาเชื่อว่าตำรวจจำนวนไม่น้อยมีใจอยู่ข้างประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหาร

"ตามสถานีตำรวจต่าง ๆ ผมเชื่อว่าตำรวจ 90% มีใจสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชน แต่พวกเขาไม่มีผู้นำที่ทำหน้าที่รวบรวมตำรวจกลุ่มนี้ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" Tha Peng บอกรอยเตอร์ส

โซรัมทังกา มุขมนตรีรัฐมิโซรัม บอกกับ รอยเตอร์สว่า ผู้บังคับการตำรวจในท้องถิ่นเมืองชายแดนเมียนมา ได้ทำหนังสือขอให้ทางการอินเดียส่งตัวตำรวจเมียนมาที่ลี้ภัย ให้ทางการเมียนมา ซึ่งเรื่องนี้รัฐมิโซรัม ได้ส่งเรื่องต่อให้รัฐบาลกลางในกรุงเดลลี ตัดสินใจ

ตำรวจเมียนมาไม่ยอมรับคำสั่งยิงประชาชน หนีเข้าอินเดียแล้วราว 100 คน

สำนักข่าวรอยเตอร์ส อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อาวุโสทางการอินเดีย เปิดเผยว่าตำรวจเมียนมาและครอบครัวหลบหนีข้ามพรมแดนเข้าไปลี้ภัยในรัฐมิโซรัม ประมาณ 100 คน ซึ่งทางการอินเดียได้จัดที่พักในเขตจัมปาย (Champai) เมืองที่ตั้งบริเวณชายแดนติดเมียนมา

รอยเตอร์สได้สัมภาษณ์ตำรวจเมียนมาหลายคน รวมทั้งได้เห็นเอกสารการสอบสวนของเจ้าหน้าที่อินเดีย และใบประจำตัวตำรวจเมียนมา ยืนยันได้ว่า ข่าวที่ระบุว่าตำรวจเมียนมาหลบหนีเข้าไปลี้ภัยในรัฐมิโซรัม เป็นเรื่องจริง

ตำรวจเมียนมาที่ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส ทุกคนให้เหตุผลที่หลบหนีเข้าไปลี้ภัยที่อินเดีย เพราะไม่สามารถยอมรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ยิงประชาชนที่ชุมนุมประท้วงอย่างสันติได้ เช่นเดียวกับตำรวจหญิง บอกว่าเธอได้รับคำสั่งให้ติดตามจับกุมผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านเผด็จการทหารเมียนมา ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเธอบอกว่า ไม่สามารถรับคำสั่งที่ขัดกับมโนสำนึกตัวเองได้เช่นกัน เมื่อไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาได้ พวกเขาจึงต้องหาทางหลบหนีข้ามพรมแดนไปลี้ภัยในประเทศอินเดีย

Tha Peng ตำรวจวัย 29 ปี บอกรอยเตอร์ส ว่าได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ใช้ปืนกลมือยิงใส่ผู้ชุมนุมประท้วงที่เมือง Khampat เมื่อวันที่ 27 ก.พ. แต่เขาปฏิเสธว่า ทำใจไม่ได้

วันต่อมาผู้บังคับบัญชาก็ถามอีกว่า “เป็นยังไง วันนี้ทำใจใช้ปืนยิงผู้ชุมนุมได้หรือยัง” Tha Peng บอกว่า เขาก็ตอบปฏิเสธอีกครั้ง และตัดสินใจลาออกจากตำรวจในวันนั้น หลังจากนั้น 1 มี.ค. Tha Peng ก็ใช้เวลา 3 วัน เดินทางจากเมือง Khampat ไปที่ชายแดนเมียนมา โดยใช้ช่วงกลางคืนเดินทางเป็นหลักเพื่อหลบหลีกการตรวจตราของเจ้าหน้าที่เมียนมา

Tha Peng บอกว่า นอกจากตัวเขาแล้วยังมีเพื่อนตำรวจอีก 6 คน ที่ไม่ยอมรับคำสั่งให้ยิงประชาชนที่ชุมนุมประท้วงมือเปล่า

รอยเตอร์ส อ้างว่าได้เห็นเอกสารการสอบสวนของตำรวจรัฐมิโซรัม ที่สอบสวนตำรวจเมียนมาที่ขอลี้ภัย พวกเขาให้ปากคำว่า "ในช่วงที่ขบวนการอารยะขัดขืนขยายวงกว้าง มีการชุมนุมประท้วงแทบทุกหัวระแหง พวกเขาได้รับคำสั่งให้ใช้ปืนยิงประชาชน ซึ่งพวกเขาบอกว่า ทำใจไม่ได้ และไม่สามารถยกปืนขึ้นยิงประชาชนที่ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ"

Tha Peng บอกว่า ตามแนวปฎิบัติในการสลายการชุมนุมประท้วง ตำรวจต้องใช้กระสุนยางยิงในบริเวณร่างกายผู้ชุมนุม ช่วงที่ต่ำกว่าหัวเข่า แต่ผู้บังคับบัญชา สั่งพวกเขาว่า "ยิงพวกมันให้ตาย" (shoot till they are dead)

รอยเตอร์ส รายงานว่า ตำรวจอย่างน้อยสามคนที่ถูกสัมภาษณ์ พูดตรงกันว่า พวกเขาเชื่อว่าตำรวจจำนวนไม่น้อยมีใจอยู่ข้างประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหาร

"ตามสถานีตำรวจต่าง ๆ ผมเชื่อว่าตำรวจ 90% มีใจสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชน แต่พวกเขาไม่มีผู้นำที่ทำหน้าที่รวบรวมตำรวจกลุ่มนี้ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" Tha Peng บอกรอยเตอร์ส

โซรัมทังกา มุขมนตรีรัฐมิโซรัม บอกกับ รอยเตอร์สว่า ผู้บังคับการตำรวจในท้องถิ่นเมืองชายแดนเมียนมา ได้ทำหนังสือขอให้ทางการอินเดียส่งตัวตำรวจเมียนมาที่ลี้ภัย ให้ทางการเมียนมา ซึ่งเรื่องนี้รัฐมิโซรัม ได้ส่งเรื่องต่อให้รัฐบาลกลางในกรุงเดลลี ตัดสินใจ

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย