ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เมียนมา ข้าวยากหมากแพง ข้าวสาร น้ำมันพืช ราคาพุ่งสูง

ออกอากาศ16 มี.ค. 64

เมียนมา ข้าวยากหมากแพง ข้าวสาร น้ำมันพืช ราคาพุ่งสูง

โครงการอาหารแห่งสหประชาชาติ (WFP) แสดงความวิตกกับราคาสินค้าอาหารที่แพงขึ้นมากในช่วงสองเดือนนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหาร โดยเฉพาะสินค้าจำเป็นเช่น น้ำมันปาล์มสำหรับทำอาหาร ราคาที่จำหน่ายในนครย่างกุ้ง แพงขึ้น 20% ขณะที่ราคาข้าวสารที่เมืองมัณฑะเลย์ ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาแพงขึ้น 4%

เมืองในชนบทที่ห่างไกล เช่นที่ Bhamo และ Putao ในรัฐคะฉิ่น ราคาข้าวสารแพงขึ้นถึง 35%

น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นสินค้าจำเป็นอีกตัวที่ราคาแพงขึ้นมาก เนื่องจากการนำเข้าติดขัดสืบเนื่องจากการนัดหยุดงานอย่างกว้างขวางของพนักงานธนาคาร ทำให้การทำเอกสารการชำระเงิน หรือการโอนเงินเพื่อจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ไม่คล่องตัว

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขณะนี้แพงขึ้น 15% เทียบกับเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ยิ่งในเมืองที่ห่างไกลในรัฐยะไข่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในรัฐยะไข่ขยับขึ้นไปถึง 35%

สตีเฟ่น แอนเดอร์สัน ผู้แทน WFP ประจำเมียนมาแสดงตวามกังวลว่า หากวิกฤตการเมืองในเมียนมายืดเยื้อออกไป วิกฤติเศรษฐกิจจะยิ่งเลวร้ายซ้ำเติมคนเมียนมามากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้าการรัฐประหาร เศรษฐกิจเมียนมาก็เจอปัญหารุมเร้าหนักอยู่แล้ว จากวิกฤตโควิด-19 มีคนตกงานมากมายจากการปิดตัวของโรงงาน เช่นเดียวกันคนเมียนมาที่ทำงานหาเงินในต่างประเทศก็เจอปัญหาตกงานจำนวนมากเช่นกัน ทำให้พวกเขาไม่สามารถส่งเงินไปจุนเจือญาติพี่น้องในเมียนมา

แอนเดอร์สัน บอกว่า ก่อนหน้าการระบาดไวรัสโควิด-19 ประมาณว่า 6 ใน 10 ครัวเรือนเมียนมา มีอาหารการกินไม่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ และเมื่อเจอวิกฤตโควิด-19 รุมเร้า ปัญหาเศรษฐกิจยิ่งรุนแรง ประมาณว่าทุก ๆ 4 ใน 5 ครอบครัว รายได้ลดลงประมาณ 50%

“ปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่าน เพราะขณะที่รายจ่ายค่าอาหารสินค้าจำเป็นสูงขึ้น รายได้คนเมียนมากลับลดลง คนจำนวนไม่น้อยไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ในช่วงที่ทหาร ตำรวจ เพิ่มความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม” ผู้แทน WFP ประจำเมียนมา กล่าว

เมียนมา ข้าวยากหมากแพง ข้าวสาร น้ำมันพืช ราคาพุ่งสูง

โครงการอาหารแห่งสหประชาชาติ (WFP) แสดงความวิตกกับราคาสินค้าอาหารที่แพงขึ้นมากในช่วงสองเดือนนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหาร โดยเฉพาะสินค้าจำเป็นเช่น น้ำมันปาล์มสำหรับทำอาหาร ราคาที่จำหน่ายในนครย่างกุ้ง แพงขึ้น 20% ขณะที่ราคาข้าวสารที่เมืองมัณฑะเลย์ ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาแพงขึ้น 4%

เมืองในชนบทที่ห่างไกล เช่นที่ Bhamo และ Putao ในรัฐคะฉิ่น ราคาข้าวสารแพงขึ้นถึง 35%

น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นสินค้าจำเป็นอีกตัวที่ราคาแพงขึ้นมาก เนื่องจากการนำเข้าติดขัดสืบเนื่องจากการนัดหยุดงานอย่างกว้างขวางของพนักงานธนาคาร ทำให้การทำเอกสารการชำระเงิน หรือการโอนเงินเพื่อจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ไม่คล่องตัว

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขณะนี้แพงขึ้น 15% เทียบกับเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ยิ่งในเมืองที่ห่างไกลในรัฐยะไข่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในรัฐยะไข่ขยับขึ้นไปถึง 35%

สตีเฟ่น แอนเดอร์สัน ผู้แทน WFP ประจำเมียนมาแสดงตวามกังวลว่า หากวิกฤตการเมืองในเมียนมายืดเยื้อออกไป วิกฤติเศรษฐกิจจะยิ่งเลวร้ายซ้ำเติมคนเมียนมามากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้าการรัฐประหาร เศรษฐกิจเมียนมาก็เจอปัญหารุมเร้าหนักอยู่แล้ว จากวิกฤตโควิด-19 มีคนตกงานมากมายจากการปิดตัวของโรงงาน เช่นเดียวกันคนเมียนมาที่ทำงานหาเงินในต่างประเทศก็เจอปัญหาตกงานจำนวนมากเช่นกัน ทำให้พวกเขาไม่สามารถส่งเงินไปจุนเจือญาติพี่น้องในเมียนมา

แอนเดอร์สัน บอกว่า ก่อนหน้าการระบาดไวรัสโควิด-19 ประมาณว่า 6 ใน 10 ครัวเรือนเมียนมา มีอาหารการกินไม่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ และเมื่อเจอวิกฤตโควิด-19 รุมเร้า ปัญหาเศรษฐกิจยิ่งรุนแรง ประมาณว่าทุก ๆ 4 ใน 5 ครอบครัว รายได้ลดลงประมาณ 50%

“ปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่าน เพราะขณะที่รายจ่ายค่าอาหารสินค้าจำเป็นสูงขึ้น รายได้คนเมียนมากลับลดลง คนจำนวนไม่น้อยไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ในช่วงที่ทหาร ตำรวจ เพิ่มความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม” ผู้แทน WFP ประจำเมียนมา กล่าว

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย