*** รายการท่องโลกกว้าง เป็นรายการที่ติดลิขสิทธิ์ต่างประเทศ จึงไม่มีให้บริการชมย้อนหลังผ่านทางเว็บไซต์ รับชมได้เฉพาะหน้าจอไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3
- มหัศจรรย์ธรรมชาติเอเชีย ตอน ปกป้อง ASIA EP.7 SAVING ASIA
ปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติคือความยากจน แม้ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะพยายามจับกุมชาวบ้านที่ลักลอบจับสัตว์ป่ามาขายแล้ว ก็ไม่อาจทลายกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติที่เป็นตัวบงการได้ ปัญหาจึงยังวนเวียนอยู่เช่นเดิม ขณะเดียวกัน ยังมีนักอนุรักษ์อีกหลายกลุ่มที่ช่วยกันคิดหาวิธีการที่พอจะเป็นตัวช่วยในการอนุรักษ์ธรรมชาติในพื้นที่ใกล้ตัวได้ หากความพยายามเหล่านี้สำเร็จได้บ้าง ทั่วโลกก็อาจยังพอมีหวัง
เรื่องราวของซิกา: การเริ่มต้นใหม่
หมีหมา สัตว์ลึกลับที่สุดชนิดหนึ่งของเอเชีย พวกมันเผชิญภัยคุกคาม จากการทำลายป่าและการลักลอบล่าสัตว์ จนไม่รู้ว่ามีหมีหมาเหลืออยู่ในธรรมชาติอีกกี่ตัว บ่อยครั้งที่ลูกหมีถูกจับมาขายเป็นสัตว์เลี้ยง ส่วนตัวที่ช่วยเหลือมาได้ก็มักลงเอยที่ศูนย์อนุรักษ์หมีหมาบอร์เนียว ดำเนินการโดย ดร.หว่อง ซิ่วเต๋อ หรือ "พ่อหมี" แห่งศูนย์อนุรักษ์หมีหมาบอร์เนียว
หนึ่งในสัตว์ที่ได้กลับสู่อิสระคือ ซิกา หมีหมาตัวหนึ่งที่ศูนย์อนุรักษ์ มันมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 เมื่ออายุเพียง 3-4 เดือน ตอนแรกที่มาถึง ซิกาดูเศร้าและไม่ยอมเข้าสังคม ทีมงานต้องรับบทเป็นแม่อุปถัมภ์ในการเลี้ยงดู
"ตอนแรกที่ได้มันมา มันอายุประมาณ 3-4 เดือน จะเห็นว่าแววตามันเศร้ามาก ไม่อยากสุงสิงกับใคร พวกเราที่นี่ต้องรับบทเป็นแม่อุปถัมภ์" ดร.หว่องเล่า
การฟื้นฟูและเลี้ยงดูลูกหมีเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาหลายปี ต้องอาศัยความรักและความอดทนอย่างมาก เมื่อซิกาโตขึ้นและแข็งแรงขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องส่งมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ภารกิจปล่อยคืนสู่ป่า
การปล่อยหมีหมากลับสู่ธรรมชาติเป็นงานที่เสี่ยงและต้องวางแผนอย่างรอบคอบ แม้จะมีขนาดเท่าสุนัขลาบราดอร์ แต่มีกรามที่แข็งแรงมากและสามารถเป็นอันตรายได้ ทีมงานจึงต้องยิงยาสลบก่อนการขนส่ง
ขั้นตอนการขนส่งเริ่มต้นในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนอันอาจเป็นอันตรายถึงตายได้สำหรับสัตว์ที่อยู่ในกล่องโลหะ จุดปล่อยที่เลือกต้องอยู่ลึกเข้าไปในป่า ที่ทีมันจะไม่ต้องพบเจอกับมนุษย์ใจร้ายอีก
ความท้าทายในขณะปฏิบัติการ
การเดินทางครั้งสุดท้ายของซิกาต้องอาศัยเฮลิคอปเตอร์ แต่เกิดปัญหาเมื่อยาสลบกำลังหมดฤทธิ์ อุณหภูมิสูงขึ้น และจุดลงจอดมีเมฆปกคลุม นักบินแจ้งว่าต้องรออย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย ทำให้ทีมงานเกิดความวิตกเพราะหมีอยู่ในกล่องโลหะมานานแล้ว เมื่ออากาศเปิดและเฮลิคอปเตอร์สามารถบินได้ ทีมงานต้องรีบปฏิบัติการ
หลังจากอยู่ในกล่องมายี่สิบกว่าชั่วโมง ในที่สุดซิกาก็ใกล้จะได้เป็นอิสระ
วินาทีแห่งอิสรภาพ
เจ้าหน้าที่วางกรงโลหะ ลงบนพื้นดิน และค่อย ๆ เปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิด ซิกาวิ่งเข้าไปในป่าทันที จากนั้นมันจะต้องพึ่งพาตัวเองในป่าใหญ่ ไม่มีมนุษย์เข้าช่วยเหลือมันได้อีกแล้ว
"ขอให้แกโชคดีนะ ขอให้โชคดี ขอให้โชคดี ขอให้มีความสุข อายุยืนยาว" คือประโยคอำลาที่ ดร.หว่องกล่าว ในวินาทีอิสรภาพของเจ้าซิกา
ข้อคิดและความหวังสำหรับอนาคต
"เราไม่อาจรับประกันได้ว่าหมีจะมีชีวิตอย่างเป็นสุขตลอดไป... แต่ผมเชื่อว่าถึงเราจะทำงานหนัก เป็นสิ่งที่ถูกต้อง หมีควรมีโอกาสได้อยู่ในป่าอีกครั้ง" ดร.หว่องกล่าวด้วยความหวัง
เรื่องราวของซิกาและดร.หว่อง สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของงานอนุรักษ์สัตว์ป่า ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความท้าทายและไม่อาจรับประกันผลลัพธ์ได้ แต่การให้โอกาสสัตว์เหล่านี้ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติที่พวกมันควรจะอยู่ คือสิ่งที่ถูกต้องและคุ้มค่าแก่การต่อสู้
การทำงานของ "พ่อหมี" และทีมงานที่ศูนย์อนุรักษ์หมีหมาบอร์เนียว เป็นแสงหวังเล็ก ๆ ในโลกที่หมีหมาและสัตว์ป่าอื่นๆ กำลังเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย
ติดตามชมรายการท่องโลกกว้าง วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 - 18.50 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
*** รายการท่องโลกกว้าง เป็นรายการที่ติดลิขสิทธิ์ต่างประเทศ จึงไม่มีให้บริการชมย้อนหลังผ่านทางเว็บไซต์ รับชมได้เฉพาะหน้าจอไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3
- มหัศจรรย์ธรรมชาติเอเชีย ตอน ปกป้อง ASIA EP.7 SAVING ASIA
ปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติคือความยากจน แม้ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะพยายามจับกุมชาวบ้านที่ลักลอบจับสัตว์ป่ามาขายแล้ว ก็ไม่อาจทลายกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติที่เป็นตัวบงการได้ ปัญหาจึงยังวนเวียนอยู่เช่นเดิม ขณะเดียวกัน ยังมีนักอนุรักษ์อีกหลายกลุ่มที่ช่วยกันคิดหาวิธีการที่พอจะเป็นตัวช่วยในการอนุรักษ์ธรรมชาติในพื้นที่ใกล้ตัวได้ หากความพยายามเหล่านี้สำเร็จได้บ้าง ทั่วโลกก็อาจยังพอมีหวัง
เรื่องราวของซิกา: การเริ่มต้นใหม่
หมีหมา สัตว์ลึกลับที่สุดชนิดหนึ่งของเอเชีย พวกมันเผชิญภัยคุกคาม จากการทำลายป่าและการลักลอบล่าสัตว์ จนไม่รู้ว่ามีหมีหมาเหลืออยู่ในธรรมชาติอีกกี่ตัว บ่อยครั้งที่ลูกหมีถูกจับมาขายเป็นสัตว์เลี้ยง ส่วนตัวที่ช่วยเหลือมาได้ก็มักลงเอยที่ศูนย์อนุรักษ์หมีหมาบอร์เนียว ดำเนินการโดย ดร.หว่อง ซิ่วเต๋อ หรือ "พ่อหมี" แห่งศูนย์อนุรักษ์หมีหมาบอร์เนียว
หนึ่งในสัตว์ที่ได้กลับสู่อิสระคือ ซิกา หมีหมาตัวหนึ่งที่ศูนย์อนุรักษ์ มันมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 เมื่ออายุเพียง 3-4 เดือน ตอนแรกที่มาถึง ซิกาดูเศร้าและไม่ยอมเข้าสังคม ทีมงานต้องรับบทเป็นแม่อุปถัมภ์ในการเลี้ยงดู
"ตอนแรกที่ได้มันมา มันอายุประมาณ 3-4 เดือน จะเห็นว่าแววตามันเศร้ามาก ไม่อยากสุงสิงกับใคร พวกเราที่นี่ต้องรับบทเป็นแม่อุปถัมภ์" ดร.หว่องเล่า
การฟื้นฟูและเลี้ยงดูลูกหมีเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาหลายปี ต้องอาศัยความรักและความอดทนอย่างมาก เมื่อซิกาโตขึ้นและแข็งแรงขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องส่งมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ภารกิจปล่อยคืนสู่ป่า
การปล่อยหมีหมากลับสู่ธรรมชาติเป็นงานที่เสี่ยงและต้องวางแผนอย่างรอบคอบ แม้จะมีขนาดเท่าสุนัขลาบราดอร์ แต่มีกรามที่แข็งแรงมากและสามารถเป็นอันตรายได้ ทีมงานจึงต้องยิงยาสลบก่อนการขนส่ง
ขั้นตอนการขนส่งเริ่มต้นในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนอันอาจเป็นอันตรายถึงตายได้สำหรับสัตว์ที่อยู่ในกล่องโลหะ จุดปล่อยที่เลือกต้องอยู่ลึกเข้าไปในป่า ที่ทีมันจะไม่ต้องพบเจอกับมนุษย์ใจร้ายอีก
ความท้าทายในขณะปฏิบัติการ
การเดินทางครั้งสุดท้ายของซิกาต้องอาศัยเฮลิคอปเตอร์ แต่เกิดปัญหาเมื่อยาสลบกำลังหมดฤทธิ์ อุณหภูมิสูงขึ้น และจุดลงจอดมีเมฆปกคลุม นักบินแจ้งว่าต้องรออย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย ทำให้ทีมงานเกิดความวิตกเพราะหมีอยู่ในกล่องโลหะมานานแล้ว เมื่ออากาศเปิดและเฮลิคอปเตอร์สามารถบินได้ ทีมงานต้องรีบปฏิบัติการ
หลังจากอยู่ในกล่องมายี่สิบกว่าชั่วโมง ในที่สุดซิกาก็ใกล้จะได้เป็นอิสระ
วินาทีแห่งอิสรภาพ
เจ้าหน้าที่วางกรงโลหะ ลงบนพื้นดิน และค่อย ๆ เปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิด ซิกาวิ่งเข้าไปในป่าทันที จากนั้นมันจะต้องพึ่งพาตัวเองในป่าใหญ่ ไม่มีมนุษย์เข้าช่วยเหลือมันได้อีกแล้ว
"ขอให้แกโชคดีนะ ขอให้โชคดี ขอให้โชคดี ขอให้มีความสุข อายุยืนยาว" คือประโยคอำลาที่ ดร.หว่องกล่าว ในวินาทีอิสรภาพของเจ้าซิกา
ข้อคิดและความหวังสำหรับอนาคต
"เราไม่อาจรับประกันได้ว่าหมีจะมีชีวิตอย่างเป็นสุขตลอดไป... แต่ผมเชื่อว่าถึงเราจะทำงานหนัก เป็นสิ่งที่ถูกต้อง หมีควรมีโอกาสได้อยู่ในป่าอีกครั้ง" ดร.หว่องกล่าวด้วยความหวัง
เรื่องราวของซิกาและดร.หว่อง สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของงานอนุรักษ์สัตว์ป่า ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความท้าทายและไม่อาจรับประกันผลลัพธ์ได้ แต่การให้โอกาสสัตว์เหล่านี้ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติที่พวกมันควรจะอยู่ คือสิ่งที่ถูกต้องและคุ้มค่าแก่การต่อสู้
การทำงานของ "พ่อหมี" และทีมงานที่ศูนย์อนุรักษ์หมีหมาบอร์เนียว เป็นแสงหวังเล็ก ๆ ในโลกที่หมีหมาและสัตว์ป่าอื่นๆ กำลังเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย
ติดตามชมรายการท่องโลกกว้าง วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 - 18.50 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
