ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับกระแสการเมือง: รัฐบาลเพื่อไทย “กอดคอ”พรรคร่วมฯ สู้ครั้งสุดท้าย “ทำลายตัวเอง” ?

การเมือง
13:55
372
จับกระแสการเมือง: รัฐบาลเพื่อไทย “กอดคอ”พรรคร่วมฯ สู้ครั้งสุดท้าย “ทำลายตัวเอง” ?
อ่านให้ฟัง
08:50อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

แม้ก่อนหน้านี้ กรณ์ จาติกวณิช อดีตเพื่อนร่วมพรรคค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม จะออกมาเรียกร้องให้ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคฯรทสช.และรมว.อุตสาหกรรม “ถอยออกมาตั้งหลัก” หลังเสียงคลิปลุง-หลาน แต่สุดท้าย ไม่เฉพาะ “กรณ์”ที่ผิดหวัง เล่นเอาแฟนคลับและสมาชิกพรรคฯ ต้องโบกมือลา “รทสช.” ถาวร

อดีตส.ส.พัทลุงเลือดฟ้า “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” โพสต์ข้อความหน้าเพจระบุว่า “ขิง บอกว่า เรือกำลังจะผ่านมรสุม ถ้าทิ้งเรือ เรือก็จม ถามว่า แล้วในเรือมีโจรหรือพระล่ะ? ถ้าโจรนั่งอยู่ ทิ้งเรือเถอะ โจรจะได้ตายๆ ไป ไม่ต้องออกไปปล้นชาวบ้านอีก”

หลังก่อนหน้านี้ "ขิง" เอกนัฏ ที่เปรียบสถานการณ์พรรครทสช.ว่าเป็น “เรือกลางมรสุม” ที่ไม่สามารถทิ้งกันได้ในยามยาก

“เราต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ มันเป็นอย่างนั้นแหละ แต่เป็นเรื่องตัดสินใจยากหากผมเป็นแค่สมาชิกพรรค หรือผู้สนับสนุน ผมก็คงตัดสินใจเช่นนั้นแต่วันนี้ผมเป็นกัปตัน เรือก็กำลังล่องผ่านมรสุม ให้ผมทิ้งตอนนี้ คนบนเรือก็ตายกันหมด”

ลาแล้ว “เนเน่” รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี ลูกสาว “ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสเฟซบุ๊ก “ขอก้าวออกมา” และระบุ ขอออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมเขียนขอขอบคุณ หัวหน้า เลขาและ คณะผู้บริหาร รวมถึงพี่ ๆ ส.ส. และเพื่อนร่วมงานทุกท่าน ที่เคยให้โอกาส ให้การสนับสนุน และกำลังใจมาโดยตลอด

“ดิฉันยังศรัทธาและเชื่อมั่นในการเมืองสร้างสรรค์เหมือนเดิม...วันนี้ ขอก้าวออกมาเพื่อมองการเมืองจากข้างนอกอีกครั้ง ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่ยังรัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อธิปไตย และ ประชาธิปไตย เสมอมา และตลอดไป”

ส่วน มาดามเดียร์ “วทันยา บุนนาค” แม้ไม่ใช่เลือดเก่าของค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม แต่ก็ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่า รับไม่ได้กับการกระทำของกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ที่อยู่ร่วมรัฐบาลต่อ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวโดยเฉพาะในเรื่องตำแหน่ง

“เห็นด้วยที่ประเทศไทยจะต้องเป็นปึกแผ่น และเป็นเอกภาพในการที่จะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม และปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคการเมืองก็ต้องมาแก้กันภายใน …บอกว่าเป็นสุภาพบุรุษ แล้วจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อ ก็ควรที่จะออกมาพูดเลย เหมือนอย่างพรรคกล้าธรรมและพรรคประชาชาติ ไม่ใช่ยึกยักเพื่อหวังต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี โดยที่ไม่เห็นประโยชน์ของประชาชน" มาดามเดียร์ กล่าว

ต้องทำใจ “ชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ในฐานะเลขาพรรคประชา ธิปัตย์ และรมช.สาธารณสุข บอกพรรคประชาธิปัตย์ ศิษย์เก่าเรา เป็นพวกโมฆบุรุษ หรือพวกล้มละลายทางการเมือง ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปส่วนใหญ่ไม่โจมตีพรรคไหน มาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์เกือบทั้งหมด ต้องฝืนแรงเสียดทานสักหน่อยนึง” หลังนักข่าวถามตำแหน่งโควตารัฐมนตรีช่วยเพิ่มถือว่าเป็นผลงานหรือไม่ จากเดิมที่ถูกมองว่ามาเกาะพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมรัฐบาล

เดชอิศม์ ยอมรับว่า ประชาธิปัตย์ได้โควตารมช. เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง ส่วนจะได้ตำแหน่งรองนายกฯเพิ่มด้วยหรือไม่ ไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยเรื่อง ต้องถามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

โดยโควตารัฐมนตรีช่วยที่เพิ่มมา 1 ตำแหน่งจะเป็นของ “แทน” ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคฯ แต่ เดชอิศม์ บอกว่า ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดว่าเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงใด ส่วนเรื่องการกรอกประวัติ หากเป็นรัฐมนตรีเดิมไม่จำเป็นต้องส่งใหม่ เพราะคุณสมบัติผ่านอยู่แล้ว ส่วนของนายชัยชนะได้ส่งประวัติให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตรวจสอบแล้ว โดยไม่มีการส่งชื่อสำรองไว้รองรับหากคุณสมบัติมีปัญหา”

ชาติไทยพัฒนาก็ได้เพิ่มอีก 1 เก้าอี้ ท็อป  “วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) บอกว่า การปรับครม.ครั้งนี้ ได้ตำแหน่งเพิ่มมา 1 รมช. แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าอยู่กระทรวงใด เมื่อได้ข้อสรุปแล้วคงจะมีการอัพเดทให้ทราบ

“โควตา 1 รมช.ที่ได้เพิ่มมาจะ ขอให้ได้ข้อสรุปจากพรรคแกนนำรัฐบาลก่อน เพื่อจะได้สรรหาบุคคลต่อไป และขตำแหน่ง รมว.นั้น ผมยังอยู่ที่รมว.พม.เหมือนเดิม...ใครได้ข้อสรุปก็เก็คงสรุป แต่ถ้าคนไหนยังไม่ได้ข้อสรุปคงต้องรอ” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว

แม้โผครม.ใหม่จะยังจัดไม่เสร็จครบ 100 % แต่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายก ฯสะบัดปากกาลงนามคำสั่งร ที่ 184/68 เรื่องการแก้ไขคำสั่งเพิ่มเติม ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2568 โดยมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม สภาความมั่นคงแห่งชาติ สขช. สนง.ปปง. สนง.ป.ป.ท. ศอ.บต. และกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยเพิ่มเติม

ส่วนแกนนำกลุ่ม 3 มิตร “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เดิมดูแลกระทรวงการต่างประเทศ ,การท่องเที่ยวและกีฬา , คมนาคม ,วัฒนธรรม สนง.ก.พ. และสนง.ก.พ.ร. โดยคำสั่งใหม่ได้มอบหมายให้ดูแล “กระทรวงแรงงาน” และรักษาราชการแทนเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ยังเกลี่ยงาน 3 กระทรวงเดิมภูมิใจไทย ให้รองนายกฯ เพื่อไทย เข้าไปกำกับดูแล คือ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เดิมดูแล ท.ส. ด.ส. สธ. สทนช. สคทช. ให้กำกับดูแล กระทรวง อว. ศึกษาธิการ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เพิ่มเติม

และยังให้ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รักษาราชการแทน รมว.กระทรวงศึกษาธิการ และมอบหมายให้ “จิราพร สินธุไพร” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการ รมว.อว. แทนในช่วงนี้ ส่วนรัฐมนตรีอื่น ๆ ไม่มีการแก้ไขให้ใช้คำสั่งเดิม

เป็นการ “กอดคอ”ของรัฐบาลและพรรคร่วม ซึ่งการปรับครม.“แพทองธาร 2” ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกพรรคอาจจะอิ่มกันหมด แต่ชาวบ้านไม่ได้อะไรเลย จึงไม่แปลกที่ยอดเงินบริจาค ในการจัดกิจกรรมการชุมนุมสาธารณะเพื่อให้ความรู้แสดงความรักชาติปกป้องอธิปไตยที่จะจัดขึ้นที่ “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” 28 มิ.ย.นี้ จะทะลุเป้าเกินคาด

อ่านข่าว

กฎหมายไล่บี้ "แพทองธาร-โคม่า ทักษิณ-ตรีทูต" จุดเปลี่ยน ชินวัตร

ทั่วโลกเสียท่า 8 ล้านล้านบาท “กลโกงแบบใหม่” ภัยคอลเซนเตอร์