ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผู้ส่งออก ชี้ “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ไทยเสี่ยงด้านพลังงาน สินค้าเกษตรต้นทุนพุ่ง

เศรษฐกิจ
13:29
278
ผู้ส่งออก ชี้ “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ไทยเสี่ยงด้านพลังงาน สินค้าเกษตรต้นทุนพุ่ง
อ่านให้ฟัง
09:06อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สรท. จับตาส่งออกไทย อิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ กระทบตลาดตะวันออกกลาง ไทยเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงาน หวั่นราคาพลังงานและสินค้าเกษตรต้นทุนพุ่ง กระทบชิ่งเศรษฐกิจไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้

วันนี้ ( 25 มิ.ย.2568) นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้ปฏิบัติการโจมตีทางทหารครั้งสำคัญต่ออิหร่าน มุ่งเป้าไปที่โรงงานนิวเคลียร์หลัก 3 แห่ง ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักและยกระดับความตึงเครียดในตะวันออกกลางสู่จุดสูงสุดครั้งใหม่

นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก

นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก

นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก

โดยสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันความสำเร็จของปฏิบัติการที่ใช้ชื่อรหัสว่า มิดไนท์ แฮมเมอร์ (Midnight Hammer)ระบุว่าเป็นการกระทำเพื่อขจัดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติจากโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

ขณะที่อิหร่านได้ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าวอย่างรุนแรง พร้อมทั้งมีมาตรการตอบโต้สำคัญคือรัฐสภาอิหร่านลงมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้ปิดช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก

ทั้งนี้ ช่องแคบฮอร์มุซ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเส้นทางพลังงานของโลก จากแหล่งน้ำมันดิบสำคัญในภูมิภาคซึ่งอยู่บริเวณโดยรอบอ่าวเปอร์เซียไปสู่ลูกค้าในภูมิภาคอื่นทั่วโลก ปี 2023 มีปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ ประมาณ 20.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่าหนึ่งใน 1 ใน 5 ของปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบทั่วโลก

โดยสัดส่วนของมูลค่าการส่งออกน้ำมันดิบในปี 2023 ซาอุดีอาระเบีย 16.1% เฉลี่ย 6.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน อิรัก 8.1% เฉลี่ย 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5.2% เฉลี่ย 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน คูเวต 4.6% เฉลี่ย 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน อิหร่าน 4.5% เฉลี่ย 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โอมาน และ กาตาร์ มีปริมาณการส่งออกประมาณ 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

สำหรับประเทศไทยแม้จะไม่ได้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน แต่ก็พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางและขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซเป็นหลัก ในปี 2567 ไทยนำเข้าพลังงาน (น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันสำเร็จรูป) มูลค่า 45,902.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการนำเข้าจากกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางมูลค่า 24,139.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 52% ของการนำเข้าสินค้ากลุ่มดังกล่าวทั้งหมดของไทย โดยนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เท่ากับ 28% ซาอุดิอาระเบีย 20% กาตาร์ 7% คูเวต 2%

ดังนั้น หากมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ จะส่งผลให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงาน และเนื่องจากเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่ต้องนำเข้าน้ำมันจะได้รับผลกระทบพร้อมกัน กลายเป็นแรงกดดันในการจัดหาซัพพลายพลังงานโลก ทำให้ ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้น

และหากไม่สามารถขนส่งมายังประเทศไทยได้ อาจเกิดภาวะที่ขาดแคลนน้ำมันดิบในภาคการผลิตเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงภาคขนส่งของไทยส่วนใหญ่ยังพึ่งพาเชื้อเพลิงจากน้ำมันเป็นพลังงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีการนำเข้าปุ๋ยซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับภาคการเกษตรจากตะวันออกกลางสูงถึง 42.37% จากมูลค่านำเข้ารวมทั้งหมด แบ่งเป็น ซาอุดิอาระเบีย 27.71% กาตาร์ 3.67% จอร์แดน 3.48% โอมาน 3.41% และบาห์เรน 2.3%

การปิดช่องแคบฮอร์มุซจะส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเกษตรของไทยพุ่งสูงขึ้น เกิดผลกระทบต่อทั้งค่าครองชีพของผู้บริโภคในประเทศ และคำสั่งซื้อจากคู่ค้าในตลาดโลก

อย่างไรก็ตามภูมิภาคตะวันออกกลาง (Middle East) ถือเป็นตลาดที่สำคัญต่อประเทศไทย มีสัดส่วนส่งออกของไทย ในปี 2567 เท่ากับ 3.5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

สินค้าที่เริ่มชะลอคำสั่งซื้อเพื่อรอดูถานการณ์ให้ชัดเจนมากขึ้นได้แก่ ข้าว ไก่ ยางพารา อาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่สินค้ายานยนต์จะได้รับผลกระทบจากการปิดช่องแคบฮอร์มุซในวงจำกัดเพราะสามารถขนส่งผ่านท่าเรือเจดดาห์และท่าเรืออื่นในทะเลแดง

ด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล เบื้องต้น สรท. ประเมินไว้ว่าหากมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซจริง ท่าเรือหลักในอ่าวเปอร์เซีย อาทิ Jabel Ali , Doha, Dammam มีโอกาสที่จะถูกปิด รวมถึงโครงข่ายการให้บริการโดยเรือ Feeder อาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และจะกระทบส่งออกไปทุกประเทศในอ่าวเปอร์เซียทั้งหมด

ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ (Linerlytica) ระบุว่าการปิดช่องแคบฮอร์มุซจะส่งผลกระทบต่อปริมาณตู้คอนเมนเนอร์ที่ราว 3.4% ของปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก หรือคิดเป็น 21 ล้าน TEU จากปริมาณตู้ทั้งหมดจำนวน 33.2 ล้าน TEU ซึ่งหมุนเวียนในภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด

ขณะที่ท่าเรือของอิหร่านเองก็ต้องพึ่งพาเส้นทางดังกล่าวเพื่อขนถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 2.5 ล้าน TEU เช่นกัน ซึ่งรวมถึงสินค้าที่ถูกส่งต่อไปยังประเทศอื่นผ่านท่าเรือของ UAE ด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าอิหร่านจะตัดสินใจปิดช่องแคบฮอร์มุซเมื่อใด ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้น้อยที่สุด สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มีข้อเสนอแนะแนวทางการปรับตัวของผู้ผลิต/ผู้ส่งออก ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน

ดังนี้ เร่งป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงาน การเตรียมพิจารณาปรับแหล่งจัดซื้ออื่นทดแทน / เพิ่ม stock น้ำมันดิบให้มากขึ้น โดยเฉพาะการสั่งซื้อพลังงานจากสหรัฐทดแทนให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สองทาง 1.2) สนับสนุนใช้พลังงานหมุนเวียนทั้ง

ในขณะที่ระดับครัวเรือน และในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงในระยะยาวได้เช่นกัน รวมถึงการ เพิ่มสัดส่วนแหล่งนำเข้าปุ๋ยจากแหล่งอื่นทดแทน อาทิ รัสเซีย จีน มาเลเซีย ลาว บรูไน เป็นต้น

ส่วนบริหารความเสี่ยงด้านการขนส่งสินค้าทางทะเล ผู้ส่งออกต้องวางแผนร่วมกับผู้ซื้อปลายทาง ถึงรูปแบบการขนส่งทางเลือกอื่น เช่น การเปลี่ยนไปขนถ่ายผ่านท่าเรือรองอื่น อาทิ Jeddah Port (Saudi Arabia), Salalah Port (Oman) เป็นต้น และขนส่งทางบกต่อไปยังพื้นที่ปลายทาง ด้วยการทำ Inland Transport

โดยตรวจสอบว่าผู้นำเข้าสามารถเดินพิธีการทางศุลกากรเพื่อนำสินค้าจากท่าเรืออื่นนั้นได้หรือไม่ หรือสายเรือ/ผู้ให้บริการมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เพื่อวางแผนล่วงหน้ากรณีสถานการณ์เป็นไปในทิศทางลบมากขึ้น

นอกจากนี้ควร พิจารณากรณีต้องส่งกลับสินค้าว่าต้องดำเนินการอย่างไร พิธีการศุลกากรขาเข้าอย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าใด เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ส่งออกต้องติดตามข้อมูล Customer Advisories บนเวปไซต์ของสายเรือ หรือสอบถามสายเรือที่ใช้บริการให้ชัดเจน ถึงเส้นทางเดินเรือ ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

อ่านข่าว:

 สงครามอิสราเอล-อิหร่าน เขย่าเงินเฟ้อโลก ราคาน้ำมันพุ่ง

หวั่นกระทบส่งออกครึ่งปีหลัง บิ๊กเอกชนห่วงเจรจาภาษีสหรัฐฯล่าช้า

ตลท.จับตาสงครามตะวันออกกลาง คาดตลาดผันผวนระยะสั้น