เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2568 คณะกรรมาธิการจากสภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม, นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค, นายกัณวีร์ สืบแสง คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน, และ นายสมดุล อุตเจริญ คณะกรรมาธิการสวัสดิการสังคม ลงพื้นที่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์สารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกก ซึ่งพบสารหนูและโลหะหนัก เกินค่ามาตรฐาน สร้างความกังวลต่อการใช้น้ำในการอุปโภค บริโภค และเกษตรกรรม
นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ระบุว่า ปัญหานี้ดำเนินมากว่า 4-5 เดือน แต่รัฐบาลยังไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลง รียกร้องให้รัฐเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และบ่อน้ำบาดาลใกล้เคียง เพื่อยืนยันว่าพื้นที่ใดปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังคัดค้านแนวคิดของรัฐบาลที่วางแผนสร้าง ฝายดักตะกอน 14 แห่ง ด้วยงบประมาณเกือบ 8,000 ล้านบาท มองว่าเป็นการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและอาจไม่ได้ผลตามคาด เสนอให้ติดตั้ง ระบบบำบัดสารหนู ในโรงงานผลิตน้ำประปาที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย รวมถึงตรวจสอบทิศทางการไหลของน้ำบาดาลเพื่อยืนยันความปลอดภัย
นายพูนศักดิ์ย้ำว่า การแก้ปัญหาต้องเริ่มที่ต้นเหตุ ซึ่งมีข้อมูลชัดเจนว่าเกิดจาก การทำเหมืองในรัฐฉานและรัฐคะฉิ่น ประเทศเมียนมา พร้อมเสนอให้ประเทศไทยใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมออกแบบระบบบำบัดหรือป้องกันมลพิษที่ต้นทาง โดยร่วมมือกับกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น กลุ่มว้า ในรัฐฉาน การกำจัดตะกอนที่มีสารพิษต้องทำในพื้นที่พิเศษ เช่น ที่จังหวัดราชบุรีหรือสระบุรีในไทย หรือที่ย่างกุ้งในเมียนมา แต่ยกตัวอย่างกรณี คลิตี้ จ.กาญจนบุรี และ วังสะพุง จ.เลย ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จในการกำจัดมลพิษอย่างยั่งยืน
มลพิษข้ามพรมแดน ความท้าทายระดับนานาชาติ
นายกัณวีร์ สืบแสง เน้นย้ำว่า ปัญหาสารพิษในแม่น้ำกกเป็นมลพิษข้ามพรมแดน ที่ประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขเพียงลำพังได้ เนื่องจากต้นตอมาจากเหมืองในรัฐฉานและคะฉิ่น ซึ่งอาจมี บริษัทจีน เป็นผู้ดำเนินการ เขาเสนอให้ใช้กลไกการเจรจา ไตรภาคี ระหว่าง ประเทศไทย เมียนมา และจีน รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่เหมือง
หากการเจรจาทวิภาคีหรือไตรภาคีไม่สำเร็จ ควรยกระดับไปสู่เวทีนานาชาติ เช่น ความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ซึ่งมีสมาชิก 6 ประเทศ (กัมพูชา จีน ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม) หรือการประชุม COP และ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) เพื่อกดดันให้ผู้ก่อมลพิษรับผิดชอบ.
นายกัณวีร์ชี้ว่า การทำเหมืองที่ขาดความรับผิดชอบด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค ประเทศไทยต้องเป็นผู้นำในการผลักดันประเด็นนี้ เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ที่ อ.แม่อาย และ เชียงราย เผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาด ปลาตาย และผลกระทบต่อการเกษตรและการท่องเที่ยว เช่น ที่แพเปียกแม่น้ำกก ซึ่งเคยคึกคักแต่ปัจจุบันเงียบเหงา

ตั้งแต่ต้นปี 2568 ชาวบ้านใน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย สังเกตว่าแม่น้ำกกมีสีขุ่นผิดปกติและปลาป่วย ทำให้มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบคุณภาพน้ำ ผลการตรวจโดย สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 พบสารหนูและตะกั่วเกินค่ามาตรฐาน รัฐบาลสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการต่างประเทศ เร่งแก้ปัญหา โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำคณะทำงานด้านเทคนิคเพื่อเจรจากับเมียนมา
อย่างไรก็ตาม การเจรจากับเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ยังไม่คืบหน้า เนื่องจากทางการเมียนมาอ้างว่าไม่พบสารพิษเกินมาตรฐานในน้ำ
ภาคประชาชน เช่น สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้ออกมาเรียกร้องให้ปิดเหมืองในเมียนมาถาวร และกำหนดให้มีการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่เพื่อคัดกรองโรคจากโลหะหนัก จ.เชียงใหม่ ได้จัดตั้ง ศูนย์เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อน ที่ ต.ท่าตอน เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ นอกจากนี้ มีการแจกจ่ายเครื่องกรองน้ำระบบ RO และจัดตั้งจุดจ่ายน้ำเคลื่อนที่ในพื้นที่ห่างไกล
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการย้ำว่า การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุในเมียนมาเป็นสิ่งจำเป็น โดยอาจใช้ความร่วมมือด้านเทคนิคจากวิศวกรไทยเพื่อออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียจากเหมือง หรือป้องกันการปล่อยมลพิษลงสู่แม่น้ำ การสร้างฝายดักตะกอนอาจช่วยลดตะกอนในน้ำ แต่ไม่สามารถกำจัดสารพิษได้อย่างสมบูรณ์ และตะกอนที่ปนเปื้อนยังต้องถูกกำจัดในพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสถานที่จัดการมลพิษที่ได้ผลในไทยหรือเมียนมา
การเจรจานานาชาติ เช่น ผ่านคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) หรือ กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) อาจเป็นทางออกระยะยาว แต่ต้องอาศัยความเป็นผู้นำของไทยในการผลักดันให้จีนและเมียนมารับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น หากกลไกเหล่านี้ล้มเหลว การยกระดับสู่ศาลโลกอาจเป็นทางเลือกสุดท้ายเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
อ่านข่าวอื่น :
ศาลออกหมายจับ พ.ร.ก.ควบคุมฯ "2 ผู้ต้องสงสัย" ขนอุปกรณ์ประกอบระเบิด
กบน. ปรับลดเงินชดเชย ราคาดีเซลหน้าปั๊มอยู่ที่ 31.94 บาท/ลิตร