วันนี้ (21 พ.ย.2568) สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า ประธานสหพันธ์แรงงานแห่งชาติกัมพูชา ยื่นคำร้องถึงสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย สหภาพยุโรป รวมถึงหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องทั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน เพื่อประณามเหตุการณ์ที่ อ้างว่าทหารไทยในเครื่องแบบสีดำ 7 นาย ทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศแรงงานกัมพูชา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาติมหาอำนาจเหล่านี้เข้ามาแทรกแซงกรณีดังกล่าว
ประธานสหพันธ์แรงงานแห่งชาติกัมพูชาย้ำว่า การกระทำของทหารไทยถือเป็นการละเมิดสิทธิสตรีและสิทธิของแรงงานข้ามชาติอย่างร้ายแรง ทั้งที่ต้องได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเข้มงวด
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้แทนถาวรกัมพูชาประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เข้าพบกับประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เพื่อชี้แจงการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยทหารไทยต่อพลเรือนกัมพูชา ทั้งกรณีเปิดฉากยิงใส่พื้นที่พลเรือนที่บ้านหนองหญ้าแก้วจนมีผู้เสียชีวิต 1 คน และกรณีล่วงละเมิดทางเพศแรงงานกัมพูชาล่าสุด พร้อมทั้งแสดงความกังวลต่อสวัสดิภาพของทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ยังถูกทางการไทยควบคุมตัวอยู่ด้วย
ขณะที่สำนักข่าวเดอะ พนมเปญ โพสต์รายงานอ้างว่า ทางการจังหวัดบันเตียเมียนเจยว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านเปรยจานและโจกเจยยังคงสงบ รวมถึงไม่พบทหารไทยวางลวดหนามเพิ่มเติมอย่างที่สื่อกัมพูชาบางส่วนกล่าวอ้าง
ไทย-กัมพูชา ยืนยันเดินหน้าภารกิจวางหมุดชั่วคราว
นอกจากนี้ยังยืนยันว่า คณะสำรวจร่วมไทย-กัมพูชายังคงเดินหน้าภารกิจสำรวจและวางหมุดชั่วคราวระหว่างหลักเขตที่ 42 ถึง 47 อย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับนายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ที่ยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าว บริเวณบ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ยังคงเป็นไปด้วยดี สะท้อนถึงกลไกเจบีซีที่ยังคงใช้แก้ปัญหาชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังยืนยันด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศยังเดินหน้าตอบโต้ข้อมูลเท็จที่ออกมาจากฝ่ายกัมพูชาโดยตลอด ซึ่งนอกจากจะดำเนินการผ่านหน้าสื่อแล้ว ยังได้ประสานงานผ่านหน่วยงานรัฐอื่น ๆ เพื่อชี้แจงให้ภาคส่วนต่าง ๆ และนานาชาติได้รับทราบด้วย
อ่านข่าว : เปิดม่านสนธยา “เรือนจำพิเศษกรุงเทพ” แดน VIP กลุ่มนักโทษจีนเทา
แท็กที่เกี่ยวข้อง:











