เส้นทางเงินของผู้ต้องขังจีนเทาที่เข้าไปมีอิทธิพลต่อ “นายมานพ ชมชื่น” ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไม่เพียงสร้างความเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมไทยเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นว่า “คุก” ที่เป็น “แดนสน ธยา” นั้น “เงิน” สามารถซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งการสั่ง “นางแบบชาวจีนเกรดพรีเมียม ระดับตัวท้อป” ให้ “บินตรง” เข้ามาให้บริการทางเพศถึงในเรือนจำ
แม้ตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ได้มีการกำหนดชัดเจนว่า “สิ่งใดบ้างห้ามนำเข้าเรือนจำ” แต่ที่ผ่านมา ยังมีปัญหาผู้ต้องขังติดสินบนเจ้าหน้าที่หรือผู้คุมนักโทษ และซุกซ่อนสิ่งของต้อง ห้าม เช่น โทรศัพท์มือถือ อาวุธ หรือสิ่งเทียมคล้ายอาวุธ ฯลฯ อยู่หลายครั้งหลายครา แต่ไม่เคยพบว่า มีการให้สิทธิพิเศษเสิร์ฟสาวงามกับผู้ต้องขังมาก่อน
ทั้งที่ มาตรา 71 ระบุว่า ผู้ใดเข้าไปในเรือนจําโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเรือนจําต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
และมาตรา 72 ผู้ใดกระทําด้วยประการใดให้เข้ามาหรือให้ออกไปจากเรือนจํา หรือครอบครอง หรือใช้ในเรือนจํา หรือรับจากหรือส่งมอบแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งสิ่งของต้องห้าม ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
หากพบว่า เรือนจำใดมีการปล่อยปละละเลย ทางกรมราชทัณฑ์ต้องเข้า ”จู่โจม” เพื่อตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายดังกล่าว แต่ที่แดน 3 และแดน 5 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ภายใต้การควบคุมของ “มานพ” ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งมีผู้ต้องขังถึง 900 คน กลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะแดนที่มีกลุ่มนักโทษจีนเทา หลังก่อนหน้านี้เคยมีข่าวเป็นระยะ ๆ ผ่านทางญาติผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำว่า มีการเลือกปฏิบัติกับผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดี 2 มาตรฐาน
นับจากเคยมีกระแสข่าวออกมาจากแดนสนธยาก่อนหน้านี้ว่า “เสอ จื้อ เจียง” She Zhijiang) ผู้ต้องหาจีนเทาเครือข่ายใหญ่สแกมเมอร์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม เคยใช้เงินขยายอิทธิพลในคุกมาแล้ว ด้วยการจ้างนัก โทษไทยเป็นคนรับใช้ เปิดพลงจีนดังสนั่นหวั่นไหว แต่ผู้คุมไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้มีการปะทะระหว่างผู้ต้องขังไทยและจีน แต่สุดท้ายนักโทษไทยกลับถูกสั่งลงโทษ
ขณะที่แดน 3 และแดน 8 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยเฉพาะแดน 3 ซึ่งมีนักโทษกลุ่มจีนเทาระดับ VIP จ่ายเงินเงินติดสินบนเจ้าหน้าที่แลกความสะดวกสบายได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ แตกต่างจากนักโทษทั่วไป มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไมโครเวฟ แอร์เคลื่อนที่ กาน้ำ ไฟแช็ก
มีรายงานระบุว่า กรมราชทัณฑ์เคยจัดชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าจู่โจมตรวจค้นแดน 3 ในเรือนจำพิเศษกรุง เทพถึง 3 รอบ แต่ข่าวรั่ว ไม่พบเบาะแส จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าจู่โจมตรวจค้นอีกครั้งจึงพบว่ามีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง
ข้อมูลระบุว่า ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้มีการเบิกตัวผู้ต้องหา VIP ชาวจีนออกมาจากแดนออกมาจากแดน 3 ผ่านประตู 2 โดยอ้างว่า ผบ.หรือหัวหน้าแดนเรียก
ขณะเดียวกันผู้หญิงที่ถูกสั่งบินตรงเข้ามาด้วยค่าจ้าง 7 หลัก จะถูกนำตัวเข้าไปรออยู่ที่ห้องใต้บันได โดยเจ้าหน้าที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางเพื่อป้องกันไม่ให้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ สำหรับพื้นที่บริเวณนี้ ตามปกติจะถูกใช้เป็นจุดพักรอ หรือรับรองแขกผู้ใหญ่ และกลับถูกใช้เป็นสถานที่มีเพศสัมพันธ์
โดยวันเวลาที่เข้าจู่โจมตรวจค้น เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ได้พบตัวนักโทษVIP ชาวจีน และนางแบบชาวจีนคนดังกล่าวด้วย พร้อมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีทั้งกระดาษทิชชูและกล่องถุงยาง
จึงเป็นที่มาของคำสั่งของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ให้ย้าย นายยุทธนา ผู้บัญชาการเรือนจำฯ ไปปฏิบัติหน้าที่ยังกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ผู้คุม 14 คนที่เกี่ยวข้องในการควบคุมผู้ต้องขัง ใน 3 แดนคุมขังนัก โทษกลุ่มจีนเทา โดยวันที่ 24 พ.ย.นี้ คณะกรรมการที่กรมราชทัณฑ์ แต่งตั้งขึ้นจะเข้าไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทั้งหมด
รายงานจากกรมราชทัณฑ์ระบุว่า สำหรับนายมานพ ผู้บัญชาการเรือนพิเศษกรุงเทพฯ ทางกรมราชทัณฑ์ ได้มีการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง ทั้งเส้นทางการเงินและการเดินทางเข้า-ออกต่างประเทศ พบว่า เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ มีการบินไปยัง “มาเก๊า” และฝั่ง “ปอยเปต” ประเทศกัมพูชา หลายครั้งในช่วงที่ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ปิดถาวร
ขณะที่ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้รับรายงานด้วยวาจาจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทั้งเรื่องของห้องใต้บันได ถุงยางอนามัย และการนำหญิงสาวเข้าไปบริการผู้ต้องขังจีนนั้น เป็นเรื่องจริงตามรายงาน
“ตั้งแต่ที่รับราชการมาจนเกษียณอายุราชการ เพิ่งเคยพบเห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้ และส่วนตัวรู้สึกรับไม่ได้ถือเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าประชาชนทุกคนก็รับไม่ได้เช่นกัน”
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำรายงานสรุป และให้นำมารายงานในที่ประชุมที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ (21 พ.ย.) เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยให้เอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางอาญาและวินัย และตรวจสอบการทำงานของ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพย้อนหลัง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดปัญหาดังกล่าวก็จะถือโอกาสเป็นการปรับปรุงระบบคุกในประเทศไทยทั้งระบบ เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
เคยมีคำกล่าวไว้ว่า “เงิน ตกใส่หญ้า หญ้าตาย” “ตกใส่ทราย ทรายทรุด” และหาก “ตกใส่มนุษย์ จะทำให้คุณธรรมเสื่อม” ดังเช่น เม็ดเงินสีเทาของกลุ่มผู้ต้องขังวีไอพีชาวจีนที่ตกใส่ “ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ” และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คงยืนยันได้ว่า ความลึกลับในม่านสนธยาของกระบวนการยุติธรรมไทย สูงขึ้น หรือต่ำลง
อ่านข่าว : “แดนพิเศษ” ของ “คนพิเศษ” ในเรือนจำ “พิเศษ“ กรุงเทพมหานคร
แท็กที่เกี่ยวข้อง:











