พฤติกรรมของผู้ต้องขังชาวจีน ที่เกิดขึ้นใน “แดนพิเศษ” ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แทบไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน มากไปกว่านั้น เรื่องนี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมดูแล หากแต่เพราะว่า มีผู้ต้องขังชาวไทย เป็นผู้ร้องเรียน
จู่โจมตรวจค้น “แดนพิเศษ” เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
“มีสิ่งของต้องห้าม และสิ่งของไม่อนุญาตให้มีครอบครองหรือใช้ในเรือนจำ ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 72 และมาตรา 73
นอกจากนี้ ยังพบสิ่งของเกินความจำเป็น เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ แอร์เคลื่อนที่ และอีกหลายรายการ รวมถึงพบว่า ผู้ต้องขังบางคน มีการครอบครองสิ่งของแบรนด์เนม และจากการตรวจค้นห้องเจ้าหน้าที่ยังพบกาแฟซองจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ใช้แทนการพนันของผู้ต้องขังชาวจีนบางคนในเรือนจำ”
เป็นใจความสำคัญ ที่ปรากฏในเอกสารข่าวของกรมราชทัณฑ์ ระบุ ถึงผลการจู่โจมตรวจค้นแดน 8 ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
สำหรับสิ่งของต้องห้าม สิ่งของไม่อนุญาตให้มีครอบครองหรือใช้ในเรือนจำ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 72 ประกอบด้วย
1.ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ และสารระเหย รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพ
2.สุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น
3.เครื่องมืออันเป็นอุปกรณ์ในการหลบหนี
4.อาวุธ เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน
5.น้ำมันเชื้อเพลิงหรือวัตถุอื่นใดที่ก่อให้เกิดเพลิงได้
6.เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่น รวมทั้งอุปกรณ์สําหรับสิ่งของดังกล่าว
7.สิ่งของอื่นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเรือนจําหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน
ส่วน มาตรา 73 นั้น ประกอบด้วย
1.อุปกรณ์สําหรับเล่นการพนัน
2.ของเน่าเสียหรือของมีพิษต่อร่างกาย
3.เงินตรา
4.เครื่องมือและอุปกรณ์สําหรับสักร่างกาย
5.สิ่งของอื่นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเรือนจําหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน
สิ่งของที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ คือ ของมีคม ไฟแช็ก ที่บ่งชี้ถึงการสูบบุหรี่ในเรือนจำฯ กล่องถุงยางอนามัย ในสิ่งของเหล่านี้ หลายรายการ มีขนาดเล็ก อาจจะสามารถซุกซ่อน หลบเลี่ยงนำเข้า - ออก เรือนจำฯ ได้
แต่ในสิ่งของที่อำนวยความสะดวก จำพวก ตู้เย็น ไมโครเวฟ แอร์เคลื่อนที่ ไปจนถึงผู้ต้องขังบางคนครอบครองสิ่งของราคาแพง นั้น ย่อมยากต่อการหลบเลี่ยง ตรวจตราของเจ้าหน้าที่ได้ นี่จึงเป็นเหตุต้องสงสัยว่า เจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการควบคุมและปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ไปจนถึงอาจจะได้รับประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้น
รมว.ยุติธรรม โอด เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เลวร้ายมาก
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จึงมีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ที่เกี่ยวข้อง และย้ายนายมานพ ชวนชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำฯ ไปปฏิบัติหน้าที่ยังกรมราชทัณฑ์ รวม 15 นาย
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผย ว่า
“รับราชการมาจนเกษียณราชการ มาจนถึงวันนี้ ไม่เคยพบเจอมาก่อน เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เลวร้ายมาก”
พร้อมระบุว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้รายงานข้อร้องเรียนให้ทราบตลอดจนถึงการวางแผลจู่โจมเข้าตรวจค้น โดยใช้หน่วยงานอื่นเข้าปฏิบัติการ และสิ่งที่พบก็ตรงตามข้อมูลที่ได้รับร้องเรียน ทั้งเรื่องของห้องใต้บันได กล่องถุงยางอนามัย รวมถึง การนำผู้หญิงเข้าไปบริการผู้ต้องขังชาวจีน
ขณะนี้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกำชับให้เสร็จสิ้นภายในวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ และวันนี้ก็มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในแดน 8 ซ้ำอีกรอบ
สำหรับแดน 8 ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นแดนใหญ่ มีผู้ต้องขังมากที่สุดคือ ประมาณ 900 คน มีหลาหลายเชื้อชาติ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ต้องขังที่กระทำผิดซ้ำซาก
ส่วนที่ตั้งแดน 8 อยู่ลึกที่สุดของพื้นที่เรือนจำ โดยมี 2 อาคาร แยกเป็นอาคารเรือนนอน 1 หลัง และ อาคารสูทกรรม หรือ โรงครัว 1 หลัง และผู้ต้องขังชาวจีน ใช้เป็นพื้นที่รวมกลุ่มกระทำความผิดและซุกซ่อน สิ่งของต้องห้าม และสิ่งผิดกฎหมาย
ไม่ใช่ “คนพิเศษ” กลุ่มแรกที่ได้รับการดูแลแบบพิเศษ ในเรือนจำพิเศษฯ
และความพิเศษ ที่เกิดขึ้นในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก!
ย้อนกลับไปในวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐในตรี ขึ้นเบิกความต่อศาลฎีกา ในฐานะพยานตามคำร้องขอของนายทักษิณ ชินวัตร โดยเป็นการเบิกความในคดีบังคับโทษจำคุก นายทักษิณ หลังพบว่า กระบวนการส่งตัวรักษาอาการป่วยนอกเรือนจำฯ ที่ รพ.ตำรวจ นั้นเป็นไปโดยมิชอบ
ถ้อยคำช่วงหนึ่ง ศาสตราจารย์วิษณุ ได้ระบุถึง การเตรียมห้องคุมขัง ที่เรือนจำพิเศษฯ สำหรับนายทักษิณ เป็นกรณีพิเศษ เช่น ห้องขังเดี่ยวขนาดใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว ที่เคยใช้คุมขัง นายราเกซ สักเสนา อดีตผู้ต้องขังในคดีแบงก์ บีบีซี , ห้องขังรวมมีหลายเตียงอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่เคยใช้คุมขังนายวิโรจน์ นวลแข อดีตผู้ต้องขังคดีแบงก์กรุงไทย และ ห้องสมุดเรือนจำที่เคยดัดแปลงมาใช้เป็นที่คุมขังนายสนธิ ลิ้มทองกุล
ข้อมูลที่กล่าวต่อหน้าบัลลังก์ศาลฎีกา โดยศาสตราจารย์วิษณุ สะท้อนให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า การจัดเตรียมห้องคุมขังหรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงห้องอื่น ๆ ให้เป็นห้องคุมขัง สำหรับผู้ต้องขัง “คนพิเศษ” เป็นกรณีพิเศษนั้น ได้เกิดขึ้น ในเรือนจำพิเศษฯ มาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่แน่นอนว่า ยังไม่เคยมีครั้งไหน ที่สะเทือนกรมราชทัณฑ์ ได้เท่าครั้งนี้มาก่อน!
รายงานโดย : กิตติพร บุญอุ้ม ผช.บก.ข่าวอาชญากรรม ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว
เปิดม่านสนธยา “เรือนจำพิเศษกรุงเทพ” แดน VIP กลุ่มนักโทษจีนเทา