ศอ.ปท.เตรียมใช้กฎหมายเต็มรูป ปราบมาเฟียรัสเซีย

ศูนย์ปฏิบัติการณ์ร่วมเพื่อป้องกัน และปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว เตรียมใช้กฏหมายเต็มรูปแบบของดีเอสไอ เพิ่มข้อหากรรโชกทรัพย์ และข้อหาอั่งยี่ซ่องโจร กับนายทุนชาวต่างชาติ และนอมินีชาวไทย ก่อนขยายผลยึดทรัพย์ หากพบว่า เส้นทางการเงินมีที่มาไม่ปกติ

ตัวแทนคนขับรถแท๊กซี่ป้ายเหลืองจังหวัดภูเก็ต ตัดสินใจบุกยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา โดยอ้างว่า ที่ผ่านมา หน่วยงานท้องถิ่นไม่มีความจริงใจในการปราบปราม กลุ่มแท๊กซี่ป้ายดำ ทั้งที่รู้ดีว่า มีกลุ่มมาเฟียข้ามชาติอยู่เบื้องหลัง

ระหว่างรัฐมนตรีประชุมร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), ตำรวจ และจังหวัดภูเก็ต เพื่อเตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการณ์ร่วมเพื่อป้องกัน และปราบปรามผู้มีอิทธิพล ที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว (ศอ.ปท.) ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี หลังได้รับการร้องเรียน จากสถานทูตหลายประเทศว่า มีกลุ่มมาเฟียข้ามชาติ ทั้งรัสเซีย ,จีน และเกาหลี เข้ามาแผ่อิทธิพล ประกอบธุรกิจครบวงจร สร้างความเดือดร้อนให้ธุรกิจคนไทย และนักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก

ข้อมูลกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะหาดป่าตอง และหาดราไวย์ มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลข้ามชาติชาวรัสเซียกลุ่มใหญ่ทั้งหมด 15 กลุ่ม และบริษัทที่เข้าข่ายนอมินี ใช้ชื่อคนไทยจดทะเบียน กว่า 200 บริษัท จาก 2,000 บริษัท

การจัดตั้งศูนย์ ศอ.ปท.นอกจากจะสามารถใช้วิธีพิเศษ ของดีเอสไอ ทั้งการใช้เครื่องดักฟังโทรศัพท์โดยไม่ผิดกฏหมาย ยังสามารถใช้กฏหมายเต็มรูป เพิ่มข้อหากรรโชกทรัพย์ ข้อหาอั่งยี่ซ่องโจร กับนอมินีชาวไทย และนายทุนชาวต่างชาติ รวมถึงขยายผลยึดทรัพย์ หากตรวจสอบพบว่า เส้นทางการเงินมีที่มาไม่ปกติ

กว่า 3 ปี ที่กลุ่มมาเฟียชาวรัสเซีย ย้ายถิ่นข้ามมาลงทุนทำธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตแทน หลังถูกกลุ่มผู้ประกอบการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ต่อต้านอย่างหนัก เพราะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศเดียวกันด้วยข่มขู่หากยอมไม่ใช้บริการ ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศไทย