วานนี้ (4 ธ.ค.2562) สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นด้วยกับการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ มาตรา 44 โดยมีมติไม่เห็นด้วย 244 เสียง ต่อ 5 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง หลังจากการพิจารณาญัตตินี้ของสภาฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ถึง 2 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ในฐานะที่ประชุมสภาฯ ประกาศเดินหน้าญัตติดังกล่าว ตามข้อเสนอของวิปรัฐบาล โดยนายสุชาติ ยืนยันว่าการเดินหน้าญัตติดังกล่าวเป็นไปตาม ข้อ 85 ของระเบียบการประชุมสภาฯ ซึ่งการนับคะแนนใหม่ เท่ากับการลงมติใหม่

จากนั้นที่ประชุมสภาฯ จึงขอนับองค์ประชุม ซึ่งฝ่ายค้านประกาศวอร์กเอาท์ แต่ผลการนับองค์ประชุมปรากฎว่ามี ส.ส. ร่วมองค์ประชุมถึง 261 คน ทั้งที่ ส.ส.ฝ่ายค้านประกาศวอล์กเอาท์ไม่ร่วมการประชุมครั้งนี้ เท่ากับว่ามี ส.ส.จากพรรคร่วมฝ่ายค้านจำนวนหนึ่ง เสียบบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุม เพื่อช่วยให้รัฐบาลเดินหน้าคว่ำญัตติการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ ม.44


ภายหลังการประชุม สำนักงานเลขาสภาฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้แสดงตนและร่วมลงมติ พบว่ามี ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างน้อย 10 คน ที่ร่วมองค์ประชุม ดังนี้
พรรคเพื่อไทย 3 คน
- นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี
- น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี
- นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.
พรรคอนาคตใหม่ 2 คน
- นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี
- พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี
พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน
- นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคประชาชาติ 1 คน
- นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี
ส่วน น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ไม่ได้ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม แต่เข้ามาร่วมโหวตเห็นด้วยกับการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ ม.44 ภายหลัง
นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังปรากฏชื่อเป็นหนึ่งใน ส.ส.ฝ่ายค้านที่ร่วมองค์ประชุมกับรัฐบาลว่า หลังจากองค์ประชุมครบแล้วก็ได้ขึ้นไปประชุม กมธ.งบประมาณ เนื่องจากเป็นประธานอนุ กมธ. พิจารณางบฯ ของกระทรวงศึกษาธิการในเวลาเดียวกับที่มีการแสดงตน ซึ่งปกติเวลาลงชื่อมาร่วมประชุมแล้วจะรับบัตรแสดงตนมาเสียบไว้ทุกวัน

ว่าไม่มีเจตนา ครั้งก่อนก็เหมือนกัน แล้วก็มีชื่อคนเดียวเลย บัตรไม่เคยเอาออกจากที่กด เพราะเสียบบัตรคาไว้ เมื่อรับบัตรมาก็เสียบไว้ ไม่เคยเอาคืน พอเลิกประชุมผมก็กลับไปเลย ไม่เคยเป็นหรอกงูเห่า ถ้าผมจะเป็น ก็จะประกาศไปเลย
นอกจากนี้ นายขจิตร ยังยันยืนว่า ไม่ได้เทใจให้รัฐบาล และเสียใจที่พรรคเพื่อไทยไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือน ธ.ค.นี้ เนื่องจากไม่ไว้วางใจรัฐบาลตั้งแต่เข้ามาทำงาน และเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับความไม่พอใจเรื่องการไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ประธานวิปฝ่ายค้านรอ 10 ส.ส.ชี้แจง ขู่ใช้กฎหมายเอาผิด
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขอฟังเหตุผลของแต่ละคนก่อน และยังไม่สรุปว่าใครเป็นงูเห่าหรือไม่ หากเชื่อได้ว่าไม่มีอามิสสินจ้างไม่ถือเป็นงูเห่า แต่หากฟังเเล้วเชื่อได้ว่า มีการเเลกเปลี่ยน การซื้อ หรือจ่ายเงิน อาจเรียกเป็นงูเห่าได้ ต้องให้ทุกคนได้ชี้แจงก่อนเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หากไปรับเงินมา พรรคเพื่อไทยก็มีมาตรการซึ่งไม่เกี่ยวกับข้อบังคับพรรค แต่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย
ส่วนกรณีนายขจิตร ขอรับฟังไว้ก่อน ยังเร็วไปจะตัดสินเพราะยังไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ต้องพูดคุยสอบถามกันอย่างตรงไปตรงมาแน่นอน อย่างพรรคเศรษฐกิจใหม่ ก็ต้องพูดคุยกันต่อไปว่าในอนาคตจะทำงานร่วมกันต่อหรือไม่

ทั้งนี้ การตรวจสอบรายชื่อฝ่ายรัฐบาล พบว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์ 6 คน ที่เคยโหวตส่วนมติวิปรัฐบาล ส่วนใหญ่ยังคงยืนยันมติเดิม คือเห็นด้วยกับการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ ม.44 ดังนี้
- กันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา งดออกเสียง
- ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก งดออกเสียง
- เทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เห็นด้วย
- พนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เห็นด้วย
- สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เห็นด้วย
- อันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี เห็นด้วย