วันนี้ (21 ธ.ค.2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข แถลงภายหลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ว่า ได้รายงานนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ จ.สมุทรสาคร รวมทั้งมาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินการแล้ว โดยตรวจหาเชื้อแรงงานข้ามชาติที่ตลาดกลางกุ้งเกือบครบแล้ว อัตราการติดเชื้อร้อยละ 42 ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ และได้ทำการกักกันโรคให้อยู่ในพื้นที่ห้ามเข้าออก โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโรงพยาบาลสนามภายในพื้นที่ชุมชนที่เป็นจุดแพร่ระบาดแล้ว เบื้องต้นจัดเตรียมไว้ 100 เตียงตามสภาพของพื้นที่
ยังไม่มีการระบาดระลอกใหม่ แต่เป็นการระบาดในพื้นที่ โดยล็อกดาวน์เฉพาะบางจุด ไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการช่วยตรวจสอบแรงงานข้ามชาติ เช่น ไซต์งานก่อสร้างต่าง ๆ
ขยายตรวจเชิงรุกพื้นที่ใกล้เคียง
ส่วนจะต้องตรวจ COVID-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติทั้ง จ.สมุทรสาคร หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการของกระทรวงสาธารณสุขและจะชี้แจงให้ประชาชนรับทราบต่อไป ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เน้นเรื่องความปลอดภัยของประชาชน การเตรียมพร้อมด้านเวชภัณฑ์ให้เพียงพอและย้ำให้มีการตรวจหาเชื้อให้ได้มากที่สุด คาดว่าการตรวจในชุมชนตลาดกลางค้ากุ้งที่มีการแพร่ระบาดจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ และจะตรวจในชุมชนใกล้เคียง จ.สมุทรสาคร เพื่อประเมินตัวเลขผู้ติดเชื้อ และนำไปสู่การปรับมาตรการเข้าออกพื้นที่ต่อไป
นี่ก็ไม่ได้ไม่จบ คำว่าจบคือหาแหล่งปะทุของโรคได้ มีการตรวจหาเชื้อและล็อกดาวน์ในชุมชนศรีเมือง ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกไม่ได้ ยกเว้นเจ้าหน้าที่
ยืนยัน "เวชภัณฑ์" เพียงพอ
นายอนุทิน ยืนยันว่าไทยมีเวชภัณฑ์เพียงพอ เพราะสะสมมาตลอดในช่วง 9-10 เดือนที่ผ่านมา และมั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุขจะควบคุมโรคได้ในระยะเวลาไม่นาน รวมทั้งมีหน้ากากอนามัยขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) จำหน่ายให้ประชาชนอย่างเพียงพอ ส่วนการจัดงานเฉลิมฉลอง หรือเคานต์ดาวน์ปีใหม่ ต้องประเมินตามสถานการณ์ แต่ขณะนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อน ส่วนการจัดงานต่าง ๆ ที่วางแผนไว้แล้ว เช่น งานแต่งงาน งานบวช สามารถจัดได้ แต่ขอให้เจ้าภาพเพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรฐานควบคุมโรค
ถ้าหน้ากากอนามัยขึ้นราคา ถ้าใครกักตุน ผมจะปล่อยหน้ากากขององค์การเภสัชกรรมมาทั้ง 50 ล้านแผ่น ส่วนการขอรับบริจาค เป็นเรื่องของประชาชนที่มีจิตศรัทธาในการช่วยเหลือ ยืนยันว่าไม่ขาดแคลน
สำหรับการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ในเบื้องต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะไม่ต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาควบคุม COVID-19 แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ จ.สมุทรสาคร ก็ต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปก่อน
อนุทิน ขออย่าตำหนิทีมหมอ
รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกระแสต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดียว่า ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะที่ผ่านมาชีวิตนักการเมืองเจออะไรมามากกว่านี้ และยินดีให้ใช้พื้นที่โซเชียลเป็นที่ระบาย หากทำให้สบายใจขึ้น แต่ขอร้องว่าอย่าตำหนิเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข เพราะทุกคนทำงานหนัก
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ โรงพยาบาลพะเยาออกมาตำหนิ กรณีการแพร่ระบาด COVID-19 นั้น บุคคลดังกล่าว ไม่ใช่ผู้อำนวยการแต่เป็นหมออินเทิร์น และเป็นการตำหนิทั้งระบบ ซึ่งโดยส่วนตัว มองว่าสถานการณ์ในขณะนี้ไม่ควรออกมาซ้ำเติมกัน