วันนี้ (21 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เตรียมเข้าเข้าพบตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญานายไชย์พล วิภา หรือลุงพล กับพวกฐานความผิดพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ตามก่อสร้างวังพญานาค และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆทำให้ป่าสงวนเสื่อมสภาพหรือไม่
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่านายอัจฉริยะ เข้ายื่นร้องเรียนเรื่องนี้ไว้แล้วที่ จ.มุกดาหาร และทางกรมป่าไม้ อยู่ระหว่งการตรวจสอบว่าพื้นที่บ้านของนายไชย์พล อยู่เป็นบ้านเดิมที่มีการสำรวจการถือครองที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 30 มิ.ย.2541 ไว้หรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเป็นชาวบ้านรายเดิมที่อนุโลมและสำรวจรายชื่อไว้แล้ว ก็สามารถใช้พื้นที่ได้ นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบว่าพื้นที่นี้อยู่โครงการของคทช.ด้วยหรือไม่
เนื่องจากพื้นที่บ้านกกอก อยู่ในเขตป่า ซึ่งมีการสำรวจการถือครองชาวบ้านที่อยู่ก่อนตามมติครม.30 มิ.ย.2541 ไว้ ถ้าพบว่าไม่ได้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ และไม่ทำให้เสียหาย แต่กรมป่าไม้ ก็จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับพิกัดพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับมาตรา 14 พ.ร.บ.ป่าสงวน ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ
เมื่อวานนี้ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมภาพการสร้างรูปปั้นพญานาค พร้อมระบุว่าถ้าก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 50,000 บาท ที่ป่าไม้หรือป่าสงวนฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ป่าไม้" ยึดไม้มะค่าแต้ลุงพล-ชี้วัดครอบครองต้องแจ้งขออนุญาต
แจ้งอีก 1 คดี "ลุงพล" ครอบครองไม้หวงห้าม "มะค่าแต้"