วันนี้ (28 เม.ย.2564) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงแนวทางการปฏิบัติในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น การเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ทั่วประเทศ ช่วยรับแจ้งเหตุผู้ป่วยโควิด 19

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุอีกว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 มีคู่สายจำนวน 1,200 คู่สาย เพื่อสนับสนุนกลุ่มสายด่วนสายด่วนอื่น ๆ ของหน่วยงานทางการแพทย์ ทั้ง 1168, 1669, 1330 และใช้ระบบฐานข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นตัวกลางในการรวบรวมข้อมูลผู้ป่วย COVID-19 ในกรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดอื่น เจ้าหน้าที่ศูนย์ 191 จะประสานโดยตรงไปยังสาธารณสุขจังหวัดหรือหัวหน้าศูนย์ 1669 เพื่อส่งต่อข้อมูลผู้ป่วย
มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง โดยสอบถามข้อมูลผู้แจ้งจากชุดคำถามที่กำหนดโดยกรมควบคุมโรค บันทึกข้อมูลลงระบบ GBDi จากนั้นระบบจะแจ้งไปยังศูนย์ 1668 และ 1669 ทันที
ช่วยดูแลผู้ป่วยไม่ยอมรักษา - เตรียมรถช่วยส่งผู้ป่วย
ส่วนกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ศูนย์ 191 จะประสานกับศูนย์เอราวัณ 1669 เพื่อจัดรถฉุกเฉินมารับตัวผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด ส่วนกรณีผู้ป่วย ไม่ยินยอมเข้ารับการรักษาหรือกักตัวตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตำรวจร่วมกับเจ้าพนักงานควบคุมโรค จะเชิญตัวผู้ป่วยหรือผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อไปดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคต่อไป

นอกจากนี้ ในนามของเหล่าทัพสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังจัดรถ ที่ดัดแปลงจากรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการประสานส่งตัวผู้ป่วยไปยังหน่วยงานทางการแพทย์ต่อไป
รพ.ตำรวจ รับผู้ป่วยโควิดแล้วกว่า 500 คน
ขณะที่ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลตำรวจจัดเกณฑ์คัดกรองผู้ป่วยผู้ติดเชื้อไว้ 3 กลุ่มสี คือ ผู้ติดเชื้อรุนแรงที่ต้องเข้ารับการรักษา ไอซียู จัดอยู่ในกลุ่มเป็นสีแดง ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการแต่ไม่รุนแรง จัดอยู่ในกลุ่มสีเหลือง และ กลุ่มสุดท้ายเป็น ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการรุนแรง แต่มีผลตรวจเป็นบวก จัดเป็นกลุ่มสีเขียว โดยให้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม
ด้าน พล.ต.ท.โสภณรัช สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ (สบ. 8) เปิดเผยข้อมูลว่า ขณะนี้โรงพยาบาลตำรวจ รับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อในความดูแลจำนวนกว่า 500 คน อยู่ในโรงพยาบาลสนามชั่วคราว และหอพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลตำรวจ โดยยังต้องรับดูแลในเรื่องของสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจขาดแคลน เนื่องจากมีบางส่วนติดเชื้อไม่สามารถปฏิบัติงานได้ นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังอนุมัติให้ จัดหาสถานที่ เพื่อเปิดห้องไอซียูสนาม เพิ่มเติมแล้ว
ตม.จับผู้ลักลอบเข้าเมืองแล้วกว่า 3,000 คน
ขณะที่ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงในเรื่องของการรับผิดชอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะการเดินทางเข้ามาผ่านเข้าออกทางท่าอากาศยานฯ โดยบุคคลต่างชาติ ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงการต่างประเทศ และผ่านการตรวจเชื้อไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง มีการทำประกันสุขภาพตามข้อกำหนดของกระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อเดินทางเข้ามาต้องกักตัว 14 วัน
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดป้องกันการลักลอบผ่านเข้าเมืองตามด่านฯ และช่องทางธรรมชาติรอบแนวชายแดนประเทศไทย โดยข้อมูลล่าสุดจนถึงวันนี้ จับผู้ลักลอบเข้าเมืองไปแล้วกว่า 3,000 กว่าคน
ส่วนภาพรวมโรงพยาบาลสนามชั่วคราวของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังรับตัวผู้ต้องกักต่างด้าวที่ติดเชื้อ พักรักษาตัว จำนวน 318 คน และในอนาคตเตรียมเปิดรองรับให้ผู้ติดเชื้อคนไทย เข้ารับการรักษาได้ โดยสามารถรองรับได้ประมาณ 150 เตียง
แท็กที่เกี่ยวข้อง: