วันนี้ (3 มิ.ย.2564) พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมประชุมกับ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
เพื่อติดตามการสอบสวนสาเหตุ กรณีอาวุธปืนยาวเล็ก ขนาด 5.56 มม. รุ่น AK-102 จำนวน 28 กระบอก สูญหายจากกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมืองนราธิวาส ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564

ทั้งนี้การสอบสวนสรุปได้ว่า อาวุธปืนของกองร้อย อส. อ.เมืองนราธิวาส สูญหาย 28 กระบอก พบสูญหายเพียง 26 กระบอก อีก 2 กระบอก ไม่ได้สูญหายตั้งแต่ต้น แต่เป็นเพียงข้อมูลที่ไม่ตรงกันในทางธุรการ
ทั้งนี้ได้ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ พบอาวุธปืนที่สูญหายแล้ว 6 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ได้มาจากการตรวจยึด หรือจับกุมบุคคลที่ครอบครองผิดกฎหมาย

โดยยังมีอาวุธปืนที่สูญหายและอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้ได้มาอีก จำนวน 20 กระบอก ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งคณะกรรมการอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวน ตรวจสอบ รวบรวมข้อเท็จจริงของการสูญหาย เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ชัดเจน ถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในเวลา 30 วัน นับตั้งแต่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้ความพยายามเร่งตรวจสอบอาวุธปืน ที่ยังคงสูญหายอีก 20 กระบอกให้กลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้บุคคลที่มีพฤติกรรมไม่หวังดี นำไปใช้ก่อเหตุรุนแรง สร้างสถานการณ์ในพื้นที่ และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ
โดยออกคำสั่งให้มีเจ้าหน้าที่คลังรับผิดชอบอย่างชัดเจน ในการทำบัญชีคุมอาวุธปืนทุกกระบอก สร้างมาตรการควบคุมอย่างเข้มแข็งของคลังอาวุธ ตลอดจนฐานปฏิบัติการ

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้เรียกประชุมหารือภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เน้นย้ำนโยบายมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน เป็นกำลังหลักในการควบคุมกำกับดูแลพื้นที่เมืองควบคุมพื้นที่รอบนอก ตลอดจนพื้นที่ตอนในจากกำลังภาคประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด