วันนี้ (21 ม.ค.2565) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่านค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณีมติพรรคพลังประชารัฐให้ 21 ส.ส.พ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคว่า จะส่งผลบวกต่อการทำงานของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากทำให้เกิดอำนาจการต่อรองในพรรคร่วมรัฐบาลสูงขึ้น ซึ่งมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ จะทำให้การทำงานเป็นกลุ่มก้อนในภาวะเสียงปริ่มน้ำ ส่งผลให้รัฐบาลจะต้องใช้ต้นทุนสูงในการรวบรวมเสียงบริหารจัดการ ซึ่งฝ่ายค้านค่อนข้างจะเบาใจ
ขณะเดียวกัน การมีโครงสร้างที่แบ่งพวกไป อาจจะเป็นโครงสร้างที่แข็งแรง ซึ่งหมายถึงการบริหารเฉพาะกลุ่มเป็นการจัดการเฉพาะ และสามารถควบคุมได้ดีขึ้น หากผู้ประสานคนกลางจัดการได้ดีก็จะทำให้เกิดความเหนียวแน่น

ซึ่งฝ่ายค้านอาจจะลำบากในแง่ที่หากเกิดเอกภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้นก็จะส่งผลต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน กรณีที่ฝ่ายค้านจะใช้เงื่อนไข สะท้อนความไม่พร้อมของฝ่ายรัฐบาลในการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ ยังวิเคราะห์ว่าการเจรจาผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะไม่ง่าย ยิ่งหาก 2 ฝ่ายต่างแข็งใส่กัน ยอมหักไม่ยอมงอ ก็จะเข้าทางฝ่ายค้านที่พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชน
อาจทำให้เกิดภาพที่ฝ่ายค้านต้องการเร็วขึ้น คือการยุบสภา แต่หากทั้ง 2 ฝ่ายอ่อนหากันก็สามารถรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้อยู่ยาวต่อไปได้
"คฑาเทพ" ยืนยัน 5 พรรคเล็กยังหนุน พล.อ.ประยุทธ์
นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติไทยไม่ได้ไปร่วมงานการเมืองกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เตรียมไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ โดยยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป
อย่างไรก็ตาม มองว่ากรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นเพียงฉากละครหนึ่งเท่านั้น และพรรคเล็ก 5 พรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบไปด้วยพรรคเพื่อชาติไทย, พรรคพลังธรรมใหม่, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคพลเมืองไทย และพรรคพลังชาติไทย

ส่วนเหตุผลที่ยังอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมองว่าสภายังต้องเดินหน้าต่อ และสถานการณ์การเมืองในสภาฯ ตอนนี้ เสียงปริ่มน้ำมาก เสียงรัฐบาลอาจจะแพ้ฝ่ายค้าน เชื่อว่าทุกพรรคไม่พร้อมที่จะเลือกตั้ง เพราะกฎหมายลูกยังไม่เรียบร้อย
นายคฑาเทพ กล่าวว่า การแก้ไขวิกฤตการเมืองครั้งนี้ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลต้องคุยกัน ถ้าคุยไม่ได้เชื่อว่าในเดือน มี.ค. - เม.ย. ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน เพราะในสภาจะมีกฎหมายหลายฉบับที่จะเข้าสภาฯ เช่น พ.ร.บ.เงินกู้, ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2566
นอกจากนี้ ยังมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติที่คาดว่าจะเข้าในสมัยประชุมหน้า ทุกอย่างจะจบ ถ้านายกรัฐมนตรีไม่มีเสียง ซึ่งต้องช่วยกันประคับประคอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม3
"โอมิครอน" กระจายทั่วไทย กรุงเทพฯ พบมากสุด 4,178 คน
ชาวบ้านงัดหลักฐานอ้าง "เสือกัดควาย" ป่าเขาแหลม
คำต่อคำ "ธรรมนัส" แจงทุกเรื่องผ่านคลิปสั้น ทิ้งท้ายเดี๋ยวมีเซอร์ไพรส์
แท็กที่เกี่ยวข้อง: