ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับ 2 ชาวจีนอ้างชื่อแอปฯ ชอปปิงหลอกลงทุน เงินหมุนเวียน 2 พันล้าน

อาชญากรรม
31 ม.ค. 65
13:27
1,178
Logo Thai PBS
จับ 2 ชาวจีนอ้างชื่อแอปฯ ชอปปิงหลอกลงทุน เงินหมุนเวียน 2 พันล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจจับผู้ต้องหาชาวจีน 2 คน หลอกผู้เสียหายอ้างชื่อแอปพลิเคชันซื้อขายออนไลน์ชื่อดัง ให้ร่วมลงทุนการขาย พบเงินหมุนเวียนกว่า 2,000 ลัานบาท

วันนี้ (31 ม.ค.2565) พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) เปิดเผยผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 2 คน หลังสืบสวนพบพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายในสื่อออนไลน์ สร้างความเสียหายให้ประชาชนมากกว่า 1,000 คน

พล.ต.ต.สมบูรณ์ ระบุพฤติการณ์การจับกุมว่า เจ้าหน้าที่ บก.สปพ.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าถูกหลอกลวงให้หลงเชื่อ โดยใช้กลอุบายในลักษณะชักชวนให้ทำงานทางออนไลน์ ลงทุนร่วมกับแอปพลิเคชันชอปปิงออนไลน์ชื่อดัง โดยสร้างคำสั่งซื้อเสมือนจริงให้กับร้านค้าออนไลน์ จูงใจว่าผู้เสียหายจะได้รับค่าตอบแทนสูง

พร้อมส่งลิงก์ชักชวนให้คลิกและจะไลน์ส่งข้อมูลให้ซื้อของแล้วได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเพิ่มมาทำจาก 10 ครั้ง เป็น 20 ครั้ง หรือ 40 ครั้ง ในช่วงแรกของการลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิสชันจริง แต่เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินลงทุนจำนวนมากขึ้น กลุ่มผู้ก่อเหตุก็จะบ่ายเบี่ยงการจ่ายค่าตอบแทน กระทั่งปิดบัญชีหนี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบมีผู้เสียหายถูกหลอกลวง 1,000 คน และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท

ตำรวจ 191 สืบสวนติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุจนพบเบาะแสเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินของบัญชีต่างๆ ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย อยู่ในพื้นที่ สน.โคกคราม, สน.มีนบุรี, สภ.เมืองนนทบุรี, สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ จึงวางแผนเข้าจับกุม ผลการเข้าตรวจค้นห้องพัก พบผู้ต้องหา 2 คน พร้อมตรวจยึดของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมการ์ดของบุคคลอื่นอีก 57 ชุด

 

พล.ต.ต.สมบูรณ์ เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้นชาวจีนทั้ง 2 คนรับสารภาพว่าเดินทางมาไทยเพื่อกระทำการดังกล่าวโดยเฉพาะ และใช้บัญชีธนาคารผู้อื่นที่ได้จากการจ้างคนไทยเปิดบัญชี เป็นบัญชีม้าในการรับเงินจากผู้เสียหายที่หลงเชื่อโอนเงินมา แล้วจะโอนต่อเป็นทอดๆ โดยใช้ระบบอัตโนมัติในการโอนเงินภายในเวลาไม่กี่วินาที

โดยอ้างว่ามีคนชื่อคริส ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง เป็นผู้สั่งการส่งบัญชีให้โอนเงินที่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีหรืออายัดเงิน และท้ายที่สุดจะโอนเงินที่ได้ไปซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล แล้วส่งต่อไปยังกลุ่มในขบวนการ

ส่วนความผิด พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง