วันนี้ (3 ก.พ.2565) นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตหลังเริ่มต้นใช้โครงการ "คนละครึ่ง" ระยะที่ 4 ว่าไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เพราะผู้มีรายได้น้อยไม่มีเงินเพียงพอที่จะเติมเงินเข้าไปในแอปฯ "เป๋าตัง" และมีข้อเสนอให้รัฐบาลเลิกแจกเงิน โดยเปลี่ยนมาเน้นการจ้างงานแทนนั้น
โฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า วัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการคนละครึ่ง เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานราก โดยการที่รัฐบาลช่วยสนับสนุนลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในส่วนของค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไปและบริการ วันละไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวันนั้น ไม่ได้มีลักษณะของการแจกเงิน แต่เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนส่งต่อกำลังซื้อไปยังผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่แผงลอย ให้สามารถมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการได้อย่างต่อเนื่องในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
ที่ผ่านมามีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ มากกว่า 1.3 ล้านร้านค้า และประชาชนร่วมใช้สิทธิมากกว่า 26 ล้านคน ถือว่าประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินประมาณ 326,000 ล้านบาท เป็นรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยในโครงการ อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า การผลิต และการจ้างงาน
สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย.นี้ จะสามารถเพิ่มเม็ดเงินที่เข้าไปหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะเดียวกันได้อีกประมาณ 6.96 หมื่นล้านบาท ซึ่งในวันแรกเพียงวันเดียว มีการใช้จ่ายในโครงการฯ 1,155 ล้านบาท โดยเป็นเงินของประชาชน 585 ล้านบาท และเป็นเงินที่รัฐบาลสนับสนุน 570 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพื่อดูแลและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ คนพิการ รวมถึงผู้ไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน
โฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำว่า โครงการคนละครึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชุดมาตรการที่รัฐบาลใช้ดูแลเศรษฐกิจและสังคม จากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเตรียมมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการสนับสนุนการจ้างงาน การช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่างๆ ด้วย
อ่านข่าวอื่นๆ
"คนละครึ่ง" เฟส 4 เปิดยืนยันสิทธิคนเก่า รับ 1,200 บาท
คลังเตรียมเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่
มุมมองเห็นต่างข้อเสนอปรับค่าแรงขั้นต่ำ 492 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง: