ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“อนุทิน” ยันสัมพันธ์รัฐบาลยังดี ลา ครม.ไม่อยากเถียงกรณีสัมปทานรถไฟฟ้า

การเมือง
10 ก.พ. 65
10:03
236
Logo Thai PBS
“อนุทิน” ยันสัมพันธ์รัฐบาลยังดี ลา ครม.ไม่อยากเถียงกรณีสัมปทานรถไฟฟ้า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“อนุทิน” ยันสัมพันธ์รัฐบาลยังดี อ้างลาครม. เพราะไม่อยากโต้เถียงเรื่องรถไฟฟ้า ส่วนที่ไม่ร่วมประชุมเตรียมเอเปค เพราะติดประชุม กก.ยา ยังอุบเปิดดีล “ธรรมนัส” รอผลหลังเลือกตั้ง แต่ที่เจอทักทาย เป็นเรื่องปกติของเพื่อนที่รู้จักกันมา 20 ปี

วันนี้ (10 ก.พ.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ “มุมการเมือง” ทาง ThaiPBS กรณี 7รัฐมนตรีบอยคอตเรื่องต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันความสัมพันธ์ กับพรรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ไม่มีปัญหา สิ่งที่แสดงออกไปเป็นการพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน การทำงานยังเป็น Professional ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์

การทำงานร่วมกันมีความเห็นแตกต่างกัน เป็นเรื่องปกติของการทำงาน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ หรือขัดแย้งใดๆ ทำงานได้ตามปกติ เรื่องอื่นๆ นายกรัฐมนตรียังคงสั่งงาน และได้รายงานนายกรัฐมนตรี ตามปกติ

รถไฟฟ้าทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชน

ส่วนจุดยืนโหวตเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น นายอนุทินกล่าวว่า เราไม่ได้ขัดแย้งที่จะให้ปรับแก้สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่กระทรวงคมนาคมมีข้อกังวลที่ขอให้ปรับปรุง ชี้แจง ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ทำหนังสือไป

ส่วนปฏิกิริยางัดข้อของภูมิใจไทย จะกลายเป็นระเบิดลูกใหม่ของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เวลาไม่ปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ก็ถูกว่า ถูกตำหนิ หรือวิพากษ์วิจารณ์ เวลาปกป้องก็ผิดอีก ก็จะไม่ใช่การทำงาน ตนไม่ใช่พวกลากมากไป ไม่ต่างจากระบบสภา ถ้าถึงเวลาจริงๆ ตกลงกันไม่ได้ ความเห็นขัดแย้ง ทิศทางยังจูนกันไม่ได้ ก็จะใช้วิธีโหวต ตามระบอบประชาธิปไตย และเมื่อผลโหวตออกมาอย่างไรทุกฝ่ายก็ต้องตามนั้น

นายอนุทินย้ำว่า การที่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. เพราะเราแจ้งนายกรัฐมนตรี ทุกครั้ง

ถ้าประเด็นรถไฟฟ้านี้ไม่ได้คำตอบจาก กทม. เราขอสงวนสิทธิ์ เพราะเราไม่อยากโต้เถียง เพราะคนที่ลำบากใจที่สุดคือประธานในที่ประชุม ดังนั้นเมื่อทราบว่าจะมีวาระจรเรื่องนี้บรรจุเข้ามาทันที เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศการประชุม เราเลยถอยออกมา และก็ได้ส่งหนังสือชี้แจงไป

ส่วนที่มีการเขียนข่าวกันไปว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ก็ต้องรับมติ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่เราจะต้องรับมติครม. แต่มีการทำหนังสือให้ความเห็นเป็นการสงวนสิทธิตรงนี้ไว้

เรา 7 คนคิดว่า ถ้าเรื่องนี้มีความสมบูรณ์ ก็น่าจะผ่านไปได้ และเราก็สบายใจที่สงวนสิทธิ ไม่เข้าประชุม ไม่โต้แย้ง ไม่ถกเถียง แต่รัฐมนตรีคมนาคม มีจดหมายหนังสือ แสดงเจตจำนงต์ ข้อคิดเห็นข้อสังเกต ถึง 8 ฉบับไปแล้ว เราหลีกเลี่ยงการปะทะ ไม่ต้องการโต้คารมกัน

ถ้ามีคำตอบชัดและทำตามกฎหมายจะร่วมด้วย

แต่หากมีการประชุม ครม. เพื่อโหวตครั้งต่อ ภูมิใจไทย จะสงวนสิทธิไม่เข้าประชุมอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้ามีคำตอบ และดำเนินการตามกฎหมายขั้นตอนที่ชัดเจนแล้วเราไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ายังคงเดิม ก็จะไม่ลาประชุมแล้ว เพราะถือว่าแสดงท่าทีไปแล้วว่า ถ้าไม่มีการแก้ไขตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอก็จะใช้สิทธิในการพิจารณา

นายอนุทินยังชี้แจงกรณีที่ไม่ได้ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมประชุมเอเปคว่า เป็นคนละเรื่องกัน แต่เพราะตนติดประชุม คณะกรรมการยาแห่งชาติ ซึ่งได้เขียนโน๊ตชี้แจงนายกรัฐมนตรีแล้ว ขออย่าสังเกตท่าที และในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.2565) มีการประชุม ศบค. 09.00 น. ที่ตนเป็นเจ้าภาพเป็นเรื่องใหญ่ ที่เกี่ยวกับสุขภาพคน ก็จะเข้าร่วม ย้ำไม่มีปัญหาเรื่องการทำงาน เพราะทราบดีว่ามีความสำคัญอย่างไร

เป็นเพื่อนธรรมนัสมา 20 ปีก็ทักทายกันปกติ

ส่วนภาพที่ปรากฏภาพไปร่วมประชุมรัฐสภา และประชุมสภาผู้แทนราษฎร เจอและพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถึง 2 วันติดต่อกันนั้น เป็นการเปิดดีลอะไรกันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คุยกับใครไม่ได้เลยหรือ ร.อ.ธรรมนัส เข้ามาประชุมในนามพรรคใหม่ และเป็นช่วงจังหวะเวลาไปลงคะแนนในที่ประชุม ระหว่างนั้นทางเดินสายหลักในห้องประชุมสภามีเส้นเดียวเจอกัน จึงทักทายกันปกติ

ผมเป็นเพื่อนกับร.อ.ธรรมนัสมา กว่า 20 ปี ถ้าเทียบก็รุ่นเดียวกัน โดย ร.อ.ธรรมนัสเป็น ตท. รุ่นที่ 25 ตนก็รุ่น 25 มีเพื่อนกลุ่มเดียวกันมากมาย จึงเป็นเรื่องปกติที่เจอกัน เป็นคนละเรื่องระหว่างการทำงานและการเมือง

สำหรับโอกาสร่วมงานทางการเมือง กับร.อ.ธรรมนัสในอนาคตนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ยอมรับทางการเมือง เวลาฟอร์มทีมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องรอผลหลังการเลือกตั้ง คิดไว้ก่อนไม่ได้

ผมเคยเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ ก่อนเลือกตั้งจับมือกันเป็นพันธมิตรกัน แต่หลังเลือกตั้งผลไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ มือก็หลุด เห็นมาเยอะ จึงไม่มีความวิตกกังวล ทุกอย่างจะชัดต่อเมื่อผลการเลือกตั้งประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ อย่าไปผูกมัดอะไร

นายอนุทินยังมั่นใจทุกพรรคพร้อมสู่สนามเลือกตั้ง เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ทุกคนต้องคิดเรื่องการเลือกตั้ง ต้องมีการเตรียมนโยบาย เพื่อสื่อสารไปยังประชาชน และต้องเร่งผลิตนโยบายที่ทำให้ประชาชนและประเทศพลิกฟื้นได้ทุกมิติ ถ้าไม่พร้อมจะไม่มีนโยบายใดไปขายให้ประชาชน ซึ่งภูมิใจไทยทำได้ครบที่พูดไว้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง