วันนี้ (12 มี.ค.2565) นายไม่เคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐฯ ระบุถึงสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนว่า เป็นสงครามการรุกราน โดยประธานาธิบดีปูติน โดยที่ยูเครนไม่ได้เป็นภัยต่อรัสเซีย และมีเพียงประธานาธิบดีปูตินเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่ไร้เหตุผลและการรุกรานอธิปไตยในครั้งนี้
ทั้งนี้ ขอยกย่องไทยที่ร่วมกับประเทศส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงอย่างล้นหลามในเวทีของสหประชาชาติ ให้รัสเซียหยุดใช้กำลังทหารกับยูเครนโดยทันที ประเทศทั้งหมด 141 ประเทศโหวตสนับสนุนข้อมตินี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน โดยสหรัฐฯ ได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ไม่เป็นธรรมและไร้ความชอบธรรมด้วยการทูตและสันติวิธีมาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าทำเช่นนั้นต่อไป

พร้อมนี้สหรัฐฯ ชื่นชมความกล้าของชาวยูเครนที่กำลังปกป้องประเทศจากการรุกรานที่โหดร้ายทารุณและผิดทำนองคลองธรรมในครั้งนี้ สหรัฐฯ ได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ไม่เป็นธรรมและไร้ความชอบธรรมด้วยการทูตและสันติวิธีมาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าทำเช่นนั้นต่อไป
ออกแบบสถานกงสุลใหม่เป็นสำนักงาน
นอกจากนี้ อุปทูตสหรัฐฯ ยังได้ชี้แจงถึงการสร้างสถานกงสุลสหรัฐฯ แห่งใหม่ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า สถานกงสุลสหรัฐฯ ที่เชียงใหม่มีมานานเป็นเวลา 72 ปีแล้ว และสหรัฐฯ ภูมิใจที่ถือเป็นสถานกงสุลต่างชาติที่มีอายุมากที่สุดในภาคเหนือของไทย ตลอดระยะเวลา 72 ปี สถานกงสุลตั้งอยู่ในบริเวณที่ตั้งของเรือนหลังเก่าที่มีความงดงาม แต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นสำนักงาน จึงตื่นเต้นที่ในที่สุดจะได้ย้ายไปอยู่ในอาคารสำนักงานที่ทันสมัย
สำหรับขนาดของโครงการก่อสร้างที่เชียงใหม่สอดคล้องกับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรมระหว่างสหรัฐฯ กับภาคเหนือของไทย ซึ่งมีมายาวนานและเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอาคารเพื่องานด้านการทูตของสหรัฐฯ ทุกแห่งทั่วโลก อาคารสำนักงานหลังใหม่ของสถานกงสุลจะต้องได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาคารที่มีข้อกำหนดสูง และออกแบบมา เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมสมัยใหม่ นอกจากนี้ อาคารหลังใหม่นี้ยังจะอำนวยให้เราบริการประชาชนในภูมิภาค ตลอดจนชาวอเมริกันหลายหมื่นคนที่ตั้งรกรากอยู่ในภาคเหนือของไทยได้ดีขึ้นด้วย
ลงนามสร้างสถานกงสุลใหม่ใน 4 ประเทศ
สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาทั่วโลกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอาคารสถานที่ที่มีความปลอดภัย มั่นคง มีประโยชน์ใช้งาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยให้สหรัฐฯ สามารถดำเนินงานด้านการทูต ให้บริการด้านการกงสุล และกระชับความสัมพันธ์ของเรากับประเทศเจ้าบ้านและประชาชนในประเทศนั้นๆ
นับตั้งแต่มีโครงการใหม่ที่ชื่อว่า “Capital Security Construction Program” เกิดขึ้นในปี 2542 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สร้างอาคารเพื่องานด้านการทูตแห่งใหม่ๆ แล้วกว่า 162 แห่ง และมีโครงการที่กำลังออกแบบหรือก่อสร้างอยู่อีก 51 แห่ง อาคารสำนักงานหลังใหม่ในเชียงใหม่ และอาคารสำนักงานสถานทูตสหรัฐฯ หลังใหม่ในกรุงเทพฯ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับปรุงอาคารสถานที่ของสหรัฐฯ ทั่วโลกให้ทันสมัย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ลงนามในสัญญาออกแบบและสร้างอาคารสำนักงานหลังใหม่ของสถานกงสุลในเชียงใหม่ในปี 2562 พร้อมกันกับสัญญาสร้างอาคารสถานที่ เพื่องานด้านการทูตแห่งใหม่ในประเทศอื่นๆ เช่น นามิเบีย โมร็อกโก และเม็กซิโก
แท็กที่เกี่ยวข้อง: