วันนี้ (8 มิ.ย.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดงาน Meet the Press : Move on จากโควิด-19 ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ เพื่อให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันไปยังประชาชน ให้เกิดความมั่นใจเตรียมพร้อมเข้าสู่โรคประจำถิ่น โดยระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่ำกว่า 3,000 คนต่อวัน เสียชีวิตต่ำกว่า 30 คนต่อวัน เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ขณะนี้อยู่ในช่วงที่เตรียมความพร้อมในการปรับวิถีชีวิตไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น เพื่อให้สามารถเราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย
ข้อมูลระบุว่า เมื่อฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม โอกาสการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจะลดลง 97% ครบ 4 เข็ม โอกาสการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตจะลดลง 99% โอกาสการติดเชื้อ ลดลง 76% ทั้งนี้เพื่อให้การประกอบอาชีพ ขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและสังคมให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
คงจะไม่มีการประกาศเรื่องการถอดแมสก์ ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาส่วนบุคคลว่าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เราไป
พิธีกร-ผู้ประกาศในสตูถอดแมสก์ได้
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงส่วนการใส่หน้ากากอนามัย ของผู้ประกาศข่าว หรือพิธีกรในรายการต่างๆ สามารถถอดได้ แต่ให้ขึ้นอยู่กับการะประเมินความเสี่ยง เช่น เจ้าหน้าที่ในห้องส่งนั้น มีการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม มีการเว้นระห่าง ซึ่งเท่าที่ทราบก็มีการตรวจ ATK ก่อนถ่ายทำรายการกันอยู่แล้ว สามารถถอดหน้ากากอนามัยได้
ไม่เคยมีการบังคับการใส่หน้ากากอนามัย และไม่มีบทลงโทษหากจะถอดหน้ากากด้วย แต่ที่ผ่านมาทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีคำแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย เนื่องจากยังคงมีการระบาดอยู่ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง
ส่วนการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการพิจารณา ซึ่งการมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำให้ช่วยทำให้การควบคุมโรคทำให้ง่ายขึ้น
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการผ่อนคลายการสวมหน้ากากอนามัยว่า กระทรวงสาธารณสุข จะส่งข้อพิจารณาเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ทั้งกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ที่ประชุมศบค.พิจารณา แต่สธ.ยังแนะนำให้ใส่ ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาลดระดับเตือนภัย โควิด-19 จากระดับ 3 เป็นระดับ 2 โดยจะมีการพิจารณากลางเดือนมิ.ย.นี้