"ทรงอย่างแบด" ทำชีวิตพลิก "Paper Planes" กลายเป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม

Logo Thai PBS
"ทรงอย่างแบด" ทำชีวิตพลิก "Paper Planes" กลายเป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม
Paper Planes เจ้าของเพลง "ทรงอย่างแบด" เปิดใจ "ชีวิตพลิก" กลายเป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม ยอมรับตกใจไม่คิดว่าจะมีแฟนคลับอายุ 2-3 ขวบ คาดเพราะเพลงใช้เมโลดี้และจังหวะง่าย ๆ บวกกับวลีเด็ด ทำให้เพลงติดหู พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์งานเพลงไร้คำหยาบ

ฮิตไม่หยุดจริง ๆ สำหรับวง Paper Planes เจ้าของเพลง "ทรงอย่างแบด" ที่ชื่อวงติดทั้งเทรนด์ Google และ เทรนด์ทวิตเตอร์ไทย โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2566 2 หนุ่ม "ฮาย ธันวา" และ "เซน นครินทร์" สมาชิกวงพังก์ร็อก Paper Planes ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสที่เกิดขึ้นจากเพลงดัง จนได้รับฉายาว่า "ขวัญใจวัยรุ่นฟันน้ำนม" โดยทั้งคู่ยอมรับว่า เพลงนี้เริ่มจากการที่มีประโยค และอยากให้มีวลีติดหู "ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย" แต่ไม่ได้นึกถึงหน้าเด็ก ๆ เมื่อเห็นเด็ก ๆ ร้องเพลงได้ก็รู้สึกทึ่งเหมือนกัน "แบบร้องได้ด้วย"

พวกผมทำงานเบื้องหลังมานาน พอวิเคราะห์แล้วคิดว่าเป็นเรื่องเมโลดี้ ที่ใช้โน๊ตง่าย ๆ โน๊ตคล้ายเพลงกล่อมเด็ก แล้ววนซ้ำ เนื้อหาเหมือนพยายามชนะอะไรแบบนี้ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่มีคนชอบเยอะ มันก็ดีกับคนทำเพลง

นอกจากนี้ Paper Planes ยังบอกอีกว่า ปกติกลุ่มที่ฟังเพลงของวงจะเป็นช่วงวัยรุ่น ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้คิดถึงรุ่น 3 ขวบหรือเด็กอนุบาล เพราะไม่ได้คิดว่าเด็กขนาดนี้ชอบฟังเพลงแบบไหนกัน แต่ตอนนี้ มีคุณครู หมอฟัน โรงเรียนติดต่อมา อยากให้ไปเล่นตามวันเด็ก รู้สึกได้ว่า ชีวิตเปลี่ยนไป แต่เมื่อลองมานั่งวิเคราะห์ดู เมโลดี้เพลงนี้ง่าย ๆ ไหลลื่น เป็นเพลงที่เด็กฟังแล้วเข้าใจ เลยฟังแล้วติดหู

ผมเล่นดนตรีมาก็ไม่เคยเจอแบบนี้ มันเปลี่ยนไปแต่ไปเวย์ที่มีความสุขมากขึ้น ตอนแรกก็เริ่มมีกลุ่มเด็กมา บางครั้งถ้าเป็นร้านอาหารก็มีพ่อแม่พาเด็กเข้ามาด้วย

เดินหน้าสร้างสรรค์งานเพลงไร้คำหยาบ

สำหรับเรื่องแปรงฟันนั้น ก็คิดว่าเป็นคอนเทนต์ที่คุยกับเด็ก จึงคิดว่าควรพูดเรื่องที่จะสื่อสารกับเด็ก ล่าสุด มีผู้ปกครองมาถามด้วยว่า รับงานเช้าไหม เพราะส่วนใหญ่วงเล่นกัน 22.00 - 23.00 น. บางสถานที่เด็กก็อาจเข้าไม่ได้ ส่วนแนวเพลงจะเปลี่ยนไปไหม ต้องบอกว่า เด็ก ๆ ชอบแนวเพลงที่เป็นตัวตนของวงจริง ๆ จึงไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแนวเพลง

เราเขียนเพลงไม่ค่อยมีคำหยาบเป็นปกติอยู่แล้ว เป็นความโชคดีไป และในอัลบั้มก็พยายามทำเพลงที่ไม่มีคำหยาบมากที่สุด แม้เด็ก ๆ จะโตขึ่นแล้วต้องพูดคำหยาบ แต่เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งเล็ก ๆ ที่ช่วยเขาได้ในช่วงวัยที่เขายังแยกแยะไม่ได้ก็คงจะดี

นอกจากนี้ Paper Planes ตอบคำถามประเด็นลุคของวงจะทำให้เด็กกลัวหรือไม่ โดยระบุว่า เด็กที่โตมาใน Generation นี้ ไม่ได้รู้สึกว่า คนมีรอยสักเป็นคนน่ากลัว ลุคต่าง ๆ ก็อาจเป็นเรื่องปกติในมุมมองของเขา อะไรที่เป็นสิ่งที่ธรรมชาติและเคยชินก็อาจจะไม่ได้รู้สึกแตกต่าง จึงทำให้เด็ก ๆ แสดงออกว่า "รักเรา" โดยเฉพาะจากผลงานเพลงที่เขาชื่นชอบ

คำขวัญวันเด็กถึงแฟนคลับตัวน้อย

สร้างสรรค์ความคิด ผูกมิตรซื่อตรง ก้าวอย่างมั่นคง ฟังทรงอย่างแบด

หนุ่ม ๆ วง Paper Planes ยังได้ฝากคำขวัญวันเด็กถึงเหล่าแฟนคลับตัวน้อย โดยบอกถึงแรงบันดาลใจว่า ตอนเด็ก ๆ คิดว่าคนที่มีความคิดสร้างสรรค์จะเอาตัวรอดในสังคมได้ เมื่อทำในงานด้านศิลปะก็คิดว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนการคบมิตรที่ซื่อตรง ส่วนตัวก็ต้องซื่อตรงกับคนอื่นด้วย การใช้ชีวิตบนโลกก็อาจต้องมีพวกพ้อง ไม่ต้องเยอะ แต่ต้องซื่อตรง สำหรับการก้าวอย่างมั่นคง อยากให้น้อง ๆ ค่อย ๆ ก้าวแบบวางแผนในอนาคต เพื่อให้รู้สึกว่า ไม่ต้องไปเร็วเท่าคนอื่น แต่ก้าวอย่างมั่นคงในมาตรฐานของตัวเอง สุดท้าย คือ ฝากเพลง เหมือนฝากให้มีความสุขในชีวิต เพราะคนเราใช้ชีวิตได้แค่ครั้งเดียว

ทั้งนี้ เพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) ของศิลปิน Paper Planes ในแอปพลิเคชันดังอย่าง TikTok ที่ปัจจุบันติดอันดับ Popular มีคนนำเพลงนี้ไปใช้มากกว่า 200,000 คลิป ด้วยจังหวะ เนื้อร้อง ทำนองโดยเฉพาะท่อนฮุค ที่มีความคล้องจองกัน คล้ายกับในบทเรียนที่เด็กๆนักเรียนใช้ท่องจำ เช่น สูตรคูณ เพลง ABCD หรือ 1+1 = 2 , 2+2 = 4 เช่น ท่อนที่ร้องว่า "ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย" เป็นประโยคคล้องจองที่ทำให้เด็ก ๆ จำและร้องตามได้อย่างง่าย ๆ และท่อนว๊าก "bad boy" นั้น ก็อาจจะมีส่วนช่วยให้เด็ก ๆ สามารถตะโกนปลดปล่อยร้องออกมาในการเพิ่มอรรถรส ความสนุกสนานอย่างเต็มที่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง