จับ จนท.เขตราชเทวี เรียกรับเงิน 3.2 ล้าน อ้างช่วยเลี่ยงจ่ายภาษี

อาชญากรรม
5 เม.ย. 66
07:39
1,827
Logo Thai PBS
จับ จนท.เขตราชเทวี เรียกรับเงิน 3.2 ล้าน อ้างช่วยเลี่ยงจ่ายภาษี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจ ปปป.ร่วมกับ ปปท. จับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับเงิน 3.2 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะช่วยเลี่ยงไม่ให้จ่ายภาษีโรงเรือนกว่า 40 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2566 ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ร่วมกันจับกุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี บริเวณลาดจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่งย่านพญาไท หลังพบว่าเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท

นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ปปท. เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดจากผู้เสียหายมอบหมายตัวแทนให้เข้าไปชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน โดยเจ้าหน้าที่เขตคนดังกล่าวแจ้งว่าจะต้องเสียภาษีกว่า 40 ล้านบาท แต่หากนำเงินมาให้ 3 ล้านบาทจะเก็บเรื่องไว้ ไม่ต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าว

จากนั้น บริษัทจึงแจ้งว่าเงิน 40 ล้านบาทนั้นสูงเกินจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่เขตขอเพิ่มเงินเป็น 3,500,000 บาท โดยอ้างว่าต้องนำไปแบ่งกับกรรมการอีกหลายคน จนสุดท้ายไกล่เกลี่ยกันจนเหลือ 3,200,000 บาท แต่บริษัทเห็นว่าเจ้าหน้าที่เขตกระทำการผิดกฎหมาย จึงร้องเรียนให้ตรวจสอบเพื่อดำเนินคดี

ตำรวจและผู้เสียหายจึงร่วมกันวางแผนเข้าจับกุม โดยได้นำเงินที่จะไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่เขตไปลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมระบุหมายเลขไว้บนธนบัตร

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินให้กับเจ้าหน้าที่เขต โดยใส่ในซองเอกสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่เขตได้ขับรถของสำนักงานเขตราชเทวีมารับเงินจำนวนดังกล่าว ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและพบเงิน 3,200,000 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรที่เลขตรงกับที่ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าของที่รับมาจากผู้เสียหายคิดว่าเป็นเพียงเอกสารจึงรับไว้ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานส่งดำเนินคดีต่อที่ ป.ป.ช. รวมทั้งสืบสวนเส้นทางการเงิน

ขณะที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เขตคนดังกล่าวย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ก่อนจะพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อน

อ่านข่าวอื่นๆ

"บิ๊กโจ๊ก" เปิดแผนอุ้มฆ่านักศึกษาสาวจีน

เด้ง 5 เสือจันทบุรี เซ่นพิษคาราโอเกะแฝงค้ากาม

ทนายดังเฉลย! จอดหน้าบ้านคนอื่นโทษปรับ 5,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง