"นกหว้า" เจ้าไก่ป่าแห่งเมืองใต้ โผล่อวดโฉมที่ ขสป.กะทูน

สิ่งแวดล้อม
17 เม.ย. 66
14:54
1,577
Logo Thai PBS
"นกหว้า" เจ้าไก่ป่าแห่งเมืองใต้ โผล่อวดโฉมที่ ขสป.กะทูน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูนพบ "นกหว้า" สัตว์ป่าหายาก โผล่อวดโฉมหน้ากล้องดักถ่ายสัตว์ป่ากว่า 20 ตัว เป็นนกประจำถิ่นหายากและได้รับสมญานามว่า "เจ้าไก่ป่าแห่งเมืองใต้"

วันนี้ (17 เม.ย.2566) นายธีรวุฒิ นุ่นสังข์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูน จ.นครศรีธรรมราช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูน ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าในพื้นที่รับผิดชอบ โดยสามารถบันทึกภาพ "นกหว้า" สัตว์ป่าคุ้มครองประเภทนกในลำดับที่ 762 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

The IUCN Red List of Threatened Species จัดให้อยู่ในกลุ่ม Vulnerable (VU) มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบนกหว้าและได้ยินเสียงร้องของนกหว้า โดยคาดว่าอาจมีอยู่ประมาณ 20 ตัว และจะสำรวจประชากรนกหว้าในพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้ ภาพสัตว์ป่าดังกล่าวแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูน ซึ่งนอกจากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าจะสามารถถ่ายภาพสัตว์ป่า เพื่อตรวจสอบความหลากหลายทางธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าแล้ว ยังสามารถตรวจสอบการลักลอบกระทำผิดของผู้บุกรุกพื้นที่ป่าด้วย

นอกจากนี้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูนได้นำระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพมาใช้ในการปฏิบัติงาน ซึ่งช่วยป้องกันและปราบปรามการลักลอบล่าสัตว์ป่าและลดการบุกรุกทำลายถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าที่ได้ผลดี

สำหรับ "นกหว้า" เป็นนกขนาดใหญ่ ความยาววัดจากปลายปากถึงปลายหาง ประมาณ 76-200 เซนติเมตร ไม่มีเดือย จัดอยู่ในสัตว์ปีกจำพวกไก่ฟ้าของไทย

ตัวผู้มีความสวยงามมากกว่าตัวเมีย ตัวสีน้ำตาลปนเทา ขนปีกยาว มีจุดกลมคล้ายลูกตาบนปีกเป็นระยะตามความยาวของขนปีก กลางหัวมีขนเป็นหงอน หรือสันเล็ก ๆ หน้าและคอสีฟ้า ปากเหลือง แข้งและตีนสีแดง ตัวผู้มีขนหางคู่กลางยาวเลยเส้นอื่นออกไปมาก ส่วนตัวเมียจะไม่มี เป็นนกประจำถิ่นซึ่งค่อนข้างหายาก ได้รับสมญานามว่า "เจ้าไก่ป่าแห่งเมืองใต้"

 

 

อ่านข่าวอื่นๆ

ตัวแรกในไทย! "ลูกพญาแร้ง" เกิดในสวนสัตว์โคราชในรอบ 30 ปี

ชมความน่ารัก "น้องเกื้อการ" ลูกวัวแดงตัวที่ 2 ของปี 66

ข่าวที่เกี่ยวข้อง